การที่ ซาเนะ ทากาอิชิ ได้เป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของญี่ปุ่น ถือได้ว่าเป็นจุดเปลี่ยนใหญ่พร้อมนัยสำคัญมากมาย เพราะนี่คือประวัติศาสตร์ทางการเมืองหน้าใหม่ที่ผู้หญิงได้ขึ้นมาสู่ตำแหน่งหัวหน้ารัฐบาลท่ามกลางยุคที่ภาคเอกชนของญี่ปุ่นก็วางใจให้สตรีได้ผู้บริหารสูงสุดเช่นกัน
ประวัติศาสตร์หน้าใหม่จากการที่ ซาเนะ ทากาอิชิ ได้เป็นนายกฯ หญิงคนแรกของญี่ปุ่น ยังไม่หมดแค่นั้น เพราะทำให้ ทาคุ ยามาโมโตะ สามีของเธอได้เป็นสุภาพบุรุษหมายเลขหนึ่งคนแรกของประเทศด้วย

เรื่องราวของทั้งคู่ยังเป็นสะท้อนถึงการเปิดกว้างของญี่ปุ่นในอีกหลายๆ ด้าน พร้อมแสดงให้เห็นว่า การดูแล ใส่ใจและสนับสนุนและกัน คือสิ่งสำคัญที่คู่สมรส-คู่ชีวิตที่ดีพึงทำให้แก่กัน ไม่ว่ายุคสมัยจะเปลี่ยนไปอย่างไรก็ตาม
ซาเนะ ทากาอิชิ กับ ทาคุ ยามาโมโตะ รู้จักกันมาหลายปีเพราะต่างก็สังกัดพรรคแอลดีพี พรรคการเมืองใหญ่ของญี่ปุ่นที่เป็นรัฐบาลมานาน
โดยหลังตัดสินใจจะคบหากันจริงจัง คู่นี้ก็ได้หมั้นกันไว้ก่อน ทั้งเพื่อเป็นหลักประกันว่า จะนำไปสู่การแต่งงาน ประกอบกับฝ่ายชายเคยผ่านการแต่งงาน มีลูกมาแล้ว และเมื่อเริ่มคบกัน ต่างฝ่ายต่างก็อยู่ในช่วงวัยกลางคนแล้ว
ซาเนะ ทากาอิชิ กับ ทาคุ ยามาโมโตะ แต่งงานกันในปี 2004 โดยแม้ฝ่ายหญิง เปลี่ยนนามสกุลตามกฎหมายเป็น ยามาโมโตะ แต่ยังคงใช้ชื่อเดิมคือ ซาเนะ ทากาอิชิ ในการทำงานการเมือง ซึ่งฝ่ายที่ผลักดันเรื่องนี้คือ สามีนั่นเอง
ทาคุ ยามาโมโตะ ให้เหตุผลว่า ในเมื่อ ณ ขณะนั้น ภรรยากำลังยื่นร่างกฎหมายที่อนุญาตให้คู่สมรสทำแบบนี้ได้ (คือเปลี่ยนนามสกุลตามกฎหมาย แต่ยังใช้ชื่อเดิมทำงานได้) ถ้าเธอไม่ทำเป็นตัวอย่างก็เท่ากับเธอต่อต้านกฎหมายที่ตัวเองเสนอเข้าเสียเอง
สื่อญี่ปุ่นรายงานเกร็ดข้อมูลน่ารักๆ ของคู่นี้ว่า ก่อนที่ ทาคุ ยามาโมโตะ จะขอฝ่ายหญิงแต่งงาน เขาถามเธอว่า “ถ้าคุณกำลังมองหาสามีอย่างจริงจัง ผมเคยแต่งงานมาแล้วครั้งหนึ่ง ขอเป็นตัวเลือกของคุณได้ไหม”
พร้อมกันนี้เขายังได้โฆษณาตัวเองอีกว่า “ผมมีใบอนุญาตทำอาหารด้วยนะ ถ้าแต่งกับผม คุณจะได้กินมื้ออร่อยๆ จากพ่อครัวฝีมือดีทุกวันที่บ้านเลยด้วย”
หนึ่งสัปดาห์หลังจากนั้น ซาเนะ ทากาอิชิ ก็โทรกลับไปหาเขาพร้อมกับคำตอบว่า “ตกลง” ที่จะแต่งงานกัน

หลังแต่งงาน ทาคุ ยามาโมโตะ ก็สนับสนุนภรรยาอย่างเต็มที่และต่อเนื่อง เหมือนช่วงจะเริ่มตัดสินใจคบกันที่เธอแพ้การเลือกตั้ง ซึ่งเขาก็เข้าไปปลอบใจ และเสนอตัวไปช่วยเก็บกวาดสำนักงาน จนเป็นโอกาสให้ได้คบกัน ที่นำมาสู่การแต่งงาน
จากนั้นพอเธอชนะเลือกตั้งสมัยแรก ได้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ดังที่ตั้งใจ ผู้ที่เป็นทั้งกำลังใจและทีมงานคนสำคัญก็คือสามีนี่เอง
ทว่าจากจุดยืนทางการเมืองที่แตกต่างกันก็ทำให้ชีวิตสมรสของทั้งคู่จบลงในปี 2017 แต่หลังประสานรอยร้าวได้ก็กลับมาแต่งงานและจดทะเบียนสมรสกันอีกในปี 2021 โดยที่สามียังคงเป็นผู้สนับสนุนคนสำคัญจนที่สุดสามารถผลักดันให้เธอได้ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกตามที่ได้หวังไว้
สำหรับ ทาคุ ยามาโมโตะ ปัจจุบันอายุ 73 ปี แล้ว โดยแม้การเลือกตั้ง 2 ครั้งหลังสุด ในปี 2021 และ 2024 จะประสบความพ่ายแพ้ แต่ก็ยังถือเป็นผู้ที่คร่ำหวอดในแวดวงการเมืองญี่ปุ่น จากการเป็น สส. ของจังหวัดฟูคุอิต่อเนื่องมากถึง 8 สมัย
ด้านชีวิตส่วนตัว ทั้งคู่ไม่มีลูกด้วยกันเนื่องจากปัญหาสุขภาพของ ซาเนะ ทากาอิชิ แต่เธอก็มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับลูกๆ ของยามาโมโตะที่เกิดจากภรรยาคนก่อน และปัจจุบัน ซาเนะ ทากาอิชิ ยังทำหน้าที่เป็นผู้ดูแล ทาคุ ยามาโมโตะ หลังจากที่เขาล้มป่วยด้วยโรคหลอดเลือดสมองเมื่อต้นปี 2025

ทั้งนี้แม้งานและภาระหน้าที่ในฐานะนายกรัฐมนตรีหญิงญี่ปุ่นคนแรกซึ่งมาพร้อมความคาดหวังอาจทำให้ ซาเนะ ทากาอิชิ ไม่ได้ดูแล สามีที่เพิ่งได้เป็นสุภาพบุรุษหมายเลขหนึ่ง อย่างใกล้ชิดเหมือนก่อน แต่เชื่อได้เลยว่า ความรักความห่วงใยที่ทั้งคู่มีต่อกันจะยังคงไม่เสื่อมคลาย
โดยที่ฝ่ายสามีจะยังเป็นทั้งกำลังใจและผู้สนับสนุนคนสำคัญที่สุดให้ภรรยาเหมือนที่เคยเป็นมาอย่างแน่นอน / japantimes
