ร้านอาหารของกลุ่ม CRG มีอะไรบ้าง ? สำรวจรายได้และร้านอาหารของกลุ่ม CRG ทั้งกว้างและลึก มัดใจทุกกลุ่มเป้าหมาย

ธุรกิจอาหารของกลุ่มบริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จํากัด หรือที่เรียกสั้นๆ CRG ซึ่งใช้วิธีสวมบทบาทเป็นนักช้อปปิ้งซื้อแฟรนไชส์มากถึง 9 ใน 11 แบรนด์ร้านอาหาร และมีเทกโอเวอร์ซื้อกิจการในไทยเพียง 1 แบรนด์ คือ Ootoya มีเพียงแบรนด์เดียวที่ปลุกปั้นกับมือคือ THE TERRACE ร้านอาหารไทย

และใน 10 แบรนด์ที่ CRG ช้อปปิ้งมานั้น แต่ละแบรนด์ต่างมีตำนานและเรื่องราวที่น่าสนใจไม่น้อย ไม่ว่าจะในประเทศต้นกำเนิดหรือการเข้ามาทำธุรกิจในไทย

โดยปัจจุบัน CRG ตั้งเป้ารายได้ในปี 2018 คือ 12,000 ล้านบาท ผ่านร้านอาหาร 11 แบรนด์และ 1 แบรนด์ไอศกรีม ที่ขายตามช่องทางรีเทลอย่างแบรนด์ fezt

1. Mister Donut ผู้มีแชร์ 60%

สุทธิชัย จิราธิวัฒน์ และสุทธิเกียรติ จิราธิวัฒน์ นำเข้าแบรนด์ มิสเตอร์ โดนัท จากประเทศญี่ปุ่น ภายใต้บริษัท ไทยแฟรนไชซิ่ง จำกัด โดยมีสาขาแรกที่สยามสแควร์ พร้อมกับมีบริการกาแฟ ทำให้คนไทยหันมานิยมรับประทานโดนัทกันมากขึ้น

จากนั้นในปี พ.ศ.2546 มิสเตอร์ โดนัท ได้เข้ามาอยู่ภายใต้การบริหารงานของ CRG พร้อมกับสร้าง “จุดขาย” ผลิตโดนัทแบบครัวเปิด เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกตื่นเต้น พร้อมกับมีโดนัทรสชาติและดีไซน์ใหม่ๆ ออกสู่ตลาดอยู่เสมอ

ปัจุบันมี 350 สาขา และมีส่วนแบ่งในตลาดโดนัทเมืองไทย 60% จากมูลค่าตลาด 3,500 ล้านบาท

2. CRG ขอเป็นแฟรนไชส์คนแรกของ KFC

KFC มีบริษัทแม่อยู่ที่อเมริกา ชื่อว่า Yum! Brands Inc. และต้องบอกว่าผู้ที่ช่วยให้ KFC เป็นแบรนด์ที่ทรงพลังในตลาดไก่ทอดเมืองไทยก็คือกลุ่ม CRG ที่ตัดสินใจขอซื้อแฟรนไชส์จากบริษัท ยัม เรสเทอรองตส์ โดยเปิดสาขาแรกที่ เซ็นทรัล ลาดพร้าวในปี พ.ศ.2527

โดยในอดีตนั้นธุรกิจของ KFC ก็ถูกขับเคลื่อนแค่ 2 บริษัทนี้ คือบริษัท ยัม เรสเทอรองตส์ และ CRG แต่แล้วเมื่อ Yum Brands, Inc มีนโยบายพยายามลดการบริหารร้านอาหารที่มีอยู่ในมือตัวเองทั่วโลก พร้อมกับเปลี่ยนบทบาทเป็นผู้ดูแลระบบแฟรนไชส์อย่างเต็มตัว

ทำให้บริษัท ยัม เรสเทอรองตส์ จึงได้ขายสาขาที่เหลือในมือตัวเองทั้งหมดให้แก่ บริษัท เรสเทอรองตส์ ดีเวลลอปเม้นต์ จำกัด ต่อมาก็ขายให้แก่ไทยเบฟเวอเรจ จนปัจจุบัน บริษัทยัม เรสเทอรองตส์ ไม่มีสาขา KFC อยู่ในมือ

ปัจจุบันกลุ่ม CRG ก็ยังมีสาขา KFC มากที่สุดในบรรดา 3 แฟรนไชส์ โดยมี KFC ถึง 257 สาขาทั่วประเทศ

3. Auntie Anne’s ขนมป้าแอน ในมือ CRG

ปัจจุบัน Auntie Anne’s ขนมซอฟต์เพรทเซลที่กำเนิดเป็นแบรนด์แฟรนไชส์ระดับโลกโดยมีสาขามากกว่า 1,700 แห่งใน 25 ประเทศทั่วโลก หนึ่งในนั้นก็คือประเทศไทย ที่กลุ่ม CRG ซื้อแฟรนไชส์มาเมื่อ 20 ปีที่แล้ว โดยซื้อมาจาก (แอน ไบเลอร์) ในรัฐเพนซิลเวเนีย สหรัฐอเมริกา โดยเปิดสาขาแรกที่เซ็นทรัล ลาดพร้าว 

โดยปัจจุบัน CRG ได้ขยายสาขาไปทั่วประเทศ 162 สาขา พร้อมกับเพิ่ง REFRESH Brand “Auntie Anne’s” ในไทยให้ดูสดใสทั้งในเเง่ของเเบรนด์ที่ให้ความรู้สึกที่เด็กลง “สลัดภาพป้าเเอนสู่ น้องเเอนนี่ อย่างเต็มตัว” รวมถึงเมนูใหม่ที่ถูกพัฒนาให้ถูกใจคนไทยมากขึ้น

4. Pepper Lunch สเต๊กญี่ปุ่นที่พบโดยบังเอิญ

เป็นแฟรนไชส์ร้านอาหาร “สเต๊กจานด่วน” ที่ได้รับความนิยมในเขตโตเกียว ปัจจุบันมีสาขามากกว่า 200 แห่งในญี่ปุ่น โดยมีการขายแฟรนไชส์ไปยังประเทศในแถบเอเชีย อาทิ เกาหลี จีน ไต้หวัน สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ฮ่องกง ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย

โดยจุดขายของ Pepper Lunch คือการเสิร์ฟทุกเมนูในร้านบนจานร้อนอุณหภูมิสูงถึง 260 องศา พร้อมกับมีส่วนผสมของพริกไทยทุกจาน ให้ลูกค้าคลุกปรุงรสพร้อมรับประทานสร้างความสนุก

จนไปเตะตาต้องใจผู้บริหาร CRG ที่ไปพบเจอโดยบังเอิญกับความแปลกใหม่ ทำให้มีการติดต่อซื้อแฟรนไชส์ในปี พ.ศ.2550 พร้อมกับขยายสาขา 39 สาขาในเมืองไทยผ่านพื้นที่ศูนย์การค้า

5. Chabuton ราเมน เฉลี่ยชามละ 200 บาท

ชาบูตง ราเมนต้นตำรับจากญี่ปุ่น โดยเกิดจากสุดยอดเชฟราเมน ยาสุจิ โมริซึมิ จากรายการทีวีแชมเปี้ยน ซึ่งนอกจากจะมีรางวัลชนะเลิศจากรายการทีวีแชมเปี้ยนเป็นเครื่องการันตีความอร่อย

ความโด่งดังของชาบูตงนี้เองที่ทำให้กลุ่ม CRG สนใจและเริ่มติดต่อขอซื้อแฟรนไชส์เมื่อ 8 ปีที่แล้ว

โดยวางตำแหน่งเป็นร้านราเมนระดับพรีเมียม ราคาต่อชามเฉลี่ยอยู่ที่ 200 บาทขึ้นไป

และด้วยราคาขายที่แพงกว่าราเมนเจ้าอื่นๆ อีกทั้งตลาดราเมนในเมืองไทยไม่ได้มีมูลค่ามหาศาล หากเทียบกับร้านอาหารญี่ปุ่นใน Segment อื่นๆ ทำให้กลุ่ม CRG ไม่ได้เร่งการขยายสาขามากนักโดยปัจจุบันมี 17 สาขาทั่วประเทศ

6. CRG ขอขายไอศกรีมด้วยแบรนด์ Cold Stone

ร้านไอศกรีมสัญชาติอเมริกันโดยวางตัวเองเป็น “ไอศกรีม พรีเมียม” มีจุดขายคือทำจากไขมันนม 12-14% เปิดบริการครั้งแรกในปี พ.ศ. 2531 โดยมีสาขาที่เปิดให้บริการอยู่มากกว่า 1,400 สาขา ถือเป็นร้านไอศกรีมที่ขายดีที่สุดติดอันดับหกในสหรัฐอเมริกา

โดย CRG นำเข้ามาเปิดตลาดตั้งแต่ปี 2553  เปิดสาขาแรกที่เซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งได้วางจุดยืนให้ Cold Stone เป็นไอศกรีมระดับ Super Premium แต่แล้วก็ได้เรียนรู้ว่าการจะขายไอศกรีมราคาแพงในเศรษฐกิจยุคนี้ ถือเป็นเรื่องที่ยาก

Cold Stone ต้องเปลี่ยนเกมใหม่หมด จากเดิมคือ Super Premium มาขอขายไอศกรีมในราคา Mass ปรับราคาเริ่มต้นเป็น 55 บาท จากแต่เดิมเริ่มต้น 129 บาท

โดยปัจจุบัน Cold Stone มี 18 สาขาในเมืองไทย แต่ก็ตั้งเป้าหมายเป็นอีก 5 ปีข้างหน้าจะมีถึง 50 สาขา

7. THE TERRACE ร้านอาหารไทยที่ CRG ปรุงเองกับมือ

THE TERRACE เป็นร้านอาหารไทยที่เปิดให้บริการในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลมานานกว่า 30 ปี โดยมีเป้าหมายในเวลานั้นคือ ตอบสนองลูกค้าที่มาช้อปปิ้งในศูนย์การค้าเซ็นทรัลที่เมื่อ 30 ปีที่แล้วไม่ได้มีร้านอาหารมากนักในศูนย์การค้า

และด้วยการเป็นแบรนด์ร้านอาหารไทยที่อยู่มานานกว่า 30 ปี ทำให้กลุ่ม CRG มองว่า Brand ตัวเองดูเป็นคนอายุมาก ในขณะที่ลูกค้าที่เดินศูนย์การค้าเซ็นทรัลนั้นเป็นกลุ่ม Gen Y หรือพูดง่ายๆ ลูกค้าดูเด็กกว่าแบรนด์นั่นเอง

ทำให้ในช่วง 2 ปีที่แล้วมีการ รีเฟรช แบรนด์ให้ดูสดใหม่พร้อมกับปรับแต่งบรรยากาศร้านให้ดูทันสมัย ขยายฐานลูกค้าจากเดิมที่ร้านจะมีกลุ่มเป้าหมายครอบครัวอายุ 35-45 ปี ไปยังกลุ่มวัยเริ่มทำงานที่มีอายุตั้งแต่ 25 ปี ปัจจุบัน THE TERRACE มี 15 สาขา

 

8. ข้าวหน้าเนื้อระดับตำนาน Yoshinoya

Yoshinoya เปิดร้านครั้งแรกในปี 1899 ที่ตลาดปลานิชิบาชิในโตเกียว โดยใช้ 3 ทริคการตลาดที่มัดใจชาวญี่ปุ่นได้อยู่หมัดก็คือ “รสชาติดี ราคาถูก ทำไว”  โดยมีเมนูที่สร้างชื่อให้แก่ตัวเองก็คือ “ข้าวหน้าเนื้อ” ที่มาด้วยราคาขายแสนถูกในเวลานั้นคือ 280 เยน ปัจจุบันมีสาขามากกว่า 1,700 สาขาทั่วโลกแล้ว

CRG ได้ซื้อแฟรนไชส์ Yoshinoya ในช่วง พ.ศ.2554 โดยเปิดสาขาแรกที่เซ็นทรัล ลาดพร้าว ปัจจุบันมี 20 สาขา 

9. Tenya ขาย กุ้งเทมปุระ

เปิดบริการในญี่ปุ่นมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2532  โดยมีอยู่หลายเมนูที่จะมีกุ้งเทมปุระเป็นทั้งพระเอกและพระรองใน 1 จาน เป็นการสร้างจุดขายที่แตกต่างให้แก่ตัวเอง ปัจจุบันมีเกือบๆ 200 สาขาในประเทศญี่ปุ่น

สิ่งที่ทำให้ Tenya ประสบความสำเร็จนั้นไม่ได้แตกต่างจากร้าน Yoshinoya นั่นคือ เป็นอาหารจานเดียว, ราคาเข้าถึงง่าย

โดย CRG นำเข้ามาเมื่อประมาณ 5 ปีที่แล้ว โดยเปิดสาขาแรกที่เซ็นทรัล บางนา ปัจุบันมี 8 สาขา

10. Ootoya ยกครัวบ้านมาไว้บนห้าง

ด้วยแนวคิดการจะนำอาหารที่ทำรับประทานกันเองในครอบครัวญี่ปุ่นมาอยู่ในรูปแบบภัตตาคาร ซึ่งถือเป็นสิ่งที่แปลกใหม่ในวงการอาหารญี่ปุ่นในเมืองไทย ทำให้ถูกอกถูกใจผู้บริหาร CRG จึงตัดสินใจใช้เงินมากกว่า 720 ล้านบาทในการซื้อกิจการ Ootoya 33 สาขาในประเทศไทย และยังได้สิทธิการขยายสาขาในประเทศเอเชีย จีน, มาเลเซีย, เวียดนาม

ถึงอย่างไรก็ตาม ดีลนี้ Ootoya ขายสาขาเฉพาะในเมืองไทยเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับสาขาที่อยู่ในญี่ปุ่นที่มีมากกว่า 300 สาขา โดยปัจจุบัน Ootoya มี 43 สาขาทั่วประเทศไทย

11. Katsuya หมูทอดทงคัตสึ

ร้านหมูทอดต้นตำรับจากประเทศญี่ปุ่น  โดยเปิดสาขาแรกที่เมืองคานางาวะในปี พ.ศ. 2541 จนกระทั่งปัจจุบันขยายสาขามากกว่า 300 แห่งทั่วประเทศญี่ปุ่น

โดย CRG ตัดสินใจซื้อแฟรนไชส์ในปี 2557 โดยมีจุดขายคือเป็นอาหารจานด่วนมีราคาขายเข้าถึงง่ายโดยมีเมนูราคาเริ่มต้น 29 บาทปัจจุบันมี 24 สาขาทั่วประเทศ 

อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ 
Website : Marketeeronline.co / Facebook : www.facebook.com/marketeeronline


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer