Dyson แบรนด์ที่มีดีมากกว่าดีไซน์ เจาะลึกที่มาและวิเคราะห์ความสำเร็จของแบรนด์ Dyson
เป้าหมายสูงสุดของทุกธุรกิจคือความสำเร็จด้านยอดขายและผลประกอบการ ทว่า กว่าที่จะไปถึงเป้าหมายดังกล่าวแต่ละบริษัทนั้นแตกต่าง ทั้งเรื่องแนวทางและระยะเวลา รวมถึงบททดสอบอย่างอุปสรรค สำหรับ Dysonผ่านบททดสอบมามากมาย ลำพังแค่ช่วงแรก James Dysonผู้ก่อตั้งก็ต้องปรับแก้ DC01 เครื่องดูดฝุ่นไร้ถุงเก็บฝุ่นอยู่หลายพันครั้งจนใกล้ล้มละลาย
ในมุมผู้ประกอบการคือ Dysonต้นแบบในการไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค ส่วนหากมองผ่านเลนส์ทางการตลาด แบรนด์ที่ตั้งตามชื่อสกุลของผู้ก่อตั้ง คือแบรนด์ที่ใช้พลังนวัตกรรมสร้างความแตกต่างเหนือคู่แข่ง และองค์ประกอบหลักที่นำพาความสำเร็จมาให้
ไม่มีความล้มเหลว 5,000 ครั้ง ไม่มี Dysonในวันนี้
หากแบรนด์ใดได้ชื่อมาจากชื่อตัวหรือชื่อสกุลของผู้ก่อตั้ง แน่นอนว่าทั้งประวัติ ทั้งที่มาและเอกลักษณ์ของแบรนด์ย่อมผูกพันกับผู้ก่อตั้งอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่ง Dysonก็เข้าข่ายนี้
Dysonก่อตั้งโดย James Dysonชายชาวอังกฤษที่หลงใหลทั้งเครื่องยนต์กลไกและการออกแบบ ขณะเดียวกันยังมีความเป็นนักประดิษฐ์อยู่ในตัว
James Dyson ผู้ก่อตั้ง
และมักตั้งคำถามกับข้อติดขัด (Pain Point) ที่พบเห็นในข้าวของเครื่องใช้อยู่เสมอว่าจะปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้นได้อย่างไร
หลังจบการศึกษาจาก Royal College of Art สถาบันด้านการออกแบบชั้นนำของอังกฤษในยุค 70 James Dysonก็เริ่มเป็นรู้จักและทำเงินได้จากออกแบบ James Dysonเรือลำเลียงยานพาหนะที่กองทัพอังกฤษนำไปใช้
เรือ Sea Truck
ตามด้วย Ballbarrow รถขนดินทรายที่เปลี่ยนล้อแบบเดิมให้เป็นลูกบอลขนาดใหญ่ เพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้ สิ่งประดิษฐ์อย่างหลังกลายเป็นบทเรียนราคาแพง เพราะไม่ได้จดสิทธิบัตรจึงต้องขายให้นักลงทุนไปในราคาขาดทุน
ข้ามมาถึงช่วงรอยต่อของยุค 80 และยุค 90 James Dysonหมกมุ่นอยู่กับการทำเครื่องดูดฝุ่นแบบใหม่ ที่เริ่มจาก Pain Point ระหว่างทำงานบ้าน
และนำหลักการจากเครื่องหมุนเหวี่ยงขนาดใหญ่ในโรงเลื่อยมาใช้ เพื่อให้สามารถกักเก็บฝุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ต้องมีถุงเก็บฝุ่นอีกต่อไป
เครื่องดูดฝุ่นรุ่น DC01
หลังเสียเวลาไปหลายปี การปรับแก้ต้นแบบกว่า 5,000 และเฉียดล้มละลาย ในที่สุด DC01 เครื่องดูดฝุ่นรุ่นแรกภายใต้แบรนด์ Dysonก็ออกสู่ตลาดในปี 1993 พร้อมตำแหน่งเครื่องดูดฝุ่นยอดขายดีสุดของอังกฤษประจำปีนั้น
ในปีต่อๆ มา Dysonก็มีเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนที่เด่นเรื่องนวัตกรรม เช่น พัดลมไร้ใบพัด เครื่องเป่าผมแบบ Super Sonic เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย และก๊อกน้ำพร้อมเครื่องเป่ามือ ออกสู่ตลาดไม่ขาดสาย
จากบริษัทที่มีพนักงานเพียง 4 คนเมื่อตอนก่อตั้งในปี 1991 ปัจจุบัน Dysonมีพนักงานเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 12,000 คน เช่นเดียวกับยอดขายที่เพิ่มจาก 1,300 ล้านปอนด์ (ราว 53,690 ล้านบาท) ในปี 2014 สู่ 2,500 ล้านปอนด์ (ราว 103,250 ล้านบาท) ในปี 2016 และ 4,400 ล้านปอนด์ (ราว 181,720 ล้านบาท) ในปี 2018
James Dyson ผู้ก่อตั้งที่ยังไม่วางมือกำลังมุ่งมั่นกับนวัตกรรมยานยนต์
ด้วยวัย 72 ปีพร้อมทรัพย์สิน 12,500 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 400,000 ล้านบาท) ทำให้ James Dysonสามารถเกษียณได้อย่างหมดห่วง แต่นักประดิษฐ์ชาวอังกฤษผู้มียศ Sir นำหน้ายังไม่วางมือ
ยืนยันได้จากการรั้งตำแหน่งหัวหน้าวิศวกรของแบรนด์ที่ตนก่อตั้ง พร้อมโครงการล่าสุด รถพลังไฟฟ้า ซึ่งมีแผนเปิดตัวในปีหน้า หลังมุ่งพัฒนามาตั้งแต่ปี 2015 ด้วยเม็ดเงินกว่า 2,500 ล้านปอนด์ / bbc, ft, fortune, theguardian, statista, bloomberg, wikipedia
Website : Marketeeronline.co /