เวลากาแฟ /วิรัตน์ แสงทองคำ
จะว่าเป็นตอนต่อจากคราวที่แล้วก็ได้ ผู้ติดตามคงรอกันนานทีเดียว นานจนกลิ่นและรสกาแฟอาจจางไปก็เป็นได้
ส่วนผู้เดินทางในทริปเชียงใหม่ครั้งล่าสุด เป็นประสบการณ์เติมเต็มที่แตกต่าง ประสาทสัมผัส “คอกาแฟ” ยังคงถูกตรึงกับกลิ่นอายอบอวลจากคาเฟ่อันดาษดื่น ทุกถนน ทุกตรอกซอกซอย
ตามมาด้วยมิติแห่งบริบท มุมมองภาพ “เชียงใหม่” ค่อยๆ เปิดขึ้นเป็นฉากหลัง ด้วยเรื่องราว ตำนาน ดังภาพเคลื่อนไหว
“เชียงใหม่ ดินแดนแห่งหุบเขา จุดหมายปลายทางยอดนิยม …แม้มิได้หลงเหลือความเป็นดินแดนแชงกรี-ลา (Shangri–La)อันห่างไกล ดังคำพรรณนาของนักเดินทางยุคแรก ผู้ใช้เวลาเป็นสัปดาห์ มาทางแม่น้ำและหลังช้าง ทว่าคงมีเสน่ห์ซึ่งผสมผสานลงตัว ด้วยโบราณสถานปรักหักพัง งานฝีมือท้องถิ่น และประเพณีดั้งเดิม” บางตอนในหนังสือเล่มหนึ่งซึ่งผมชอบอ้าง (Thailand: Archipelago Guides โดย Alfred A Knofe Inc. ต้นฉบับภาษาฝรั่งเศส ปี 2536 ฉบับที่ผมมี ตีพิมพ์เป็นภาษาอังกฤษครั้งแรกปี 2537) ให้ภาพ “เชียงใหม่”ในความเปลี่ยนแปลงแบบหักมุม จากยุคเก่าสู่ยุคสมัย
ถือเป็นภาพสัมพันธ์และต่อเนื่อง กับ “เชียงใหม่” ยุคปัจจุบัน ดังบาง Keyword ในตอนที่แล้วว่าไว้ “เชียงใหม่ เมืองเก่าซึ่งคงเอกลักษณ์ ขณะสีสันร่วมสมัยมีมากขึ้นๆ หากสามารถรักษาความสมดุลไว้อย่างดี” (อ้างจากคลิปเรื่อง Perfect balance–Chiang Mai โดย Monocle Films เมื่อปี 2558)
สีสันแห่งความร่วมสมัยใหม่อันน่าทึ่ง ซี่งตั้งใจสัมผัสในบางมิติ สาธยายนำเสนอในบางมุม เกี่ยวข้องอย่างมิพักสงสัยกับ “วัฒนธรรมคาเฟ่ (café culture)เกิดขึ้นและดำรงอยู่ (exist) และกำลังขยายตัวอย่างไม่หยุดหย่อน” (Monocle Films อ้างแล้ว)
อย่างไรก็ตาม ย่อมเป็นไปตามแบบแผนซึ่งกำกับไว้แล้ว “กฎเหล็กการเล่าเรื่อง “เวลากาแฟ” อันเผชิญผจญ ด้วยนับถือความเป็นปัจเจก ผู้เดินทาง คอกาแฟ และผู้อ่าน จึงไม่อาจคิดเอาเองว่า มี Top list คาเฟ่ และไม่ขอตั้งตนเป็นผู้รู้รสเลิศกาแฟให้ดาวที่ใดเพื่อเชิญชวนลิ้มลอง เพียงตั้งใจและพยายามแสวงหาภาพ แม้เป็นชิ้นส่วน เป็นจิ๊กซอว์ชิ้นเล็กๆ เพื่อจับต้องจินตนาการ และแรงบันดาลใจบรรดาผู้คน…” (คัดมาจากส่วนหนึ่ง ตอน “สีสันและการผจญภัย”)
ประสบการณ์คาเฟ่ 3 แห่งซึ่งสัมผัสอย่างจงใจ คงจะให้ภาพตัวอย่างสะท้อนเรื่องราวความสัมพันธ์ เชื่อมโยงกับ “เชียงใหม่” ในบางแง่มุมได้บ้างไม่มากก็น้อย



ร้านแรก (ภาพ 1–3) เรื่องราว ชนเผ่าอาข่า มีภูมิหลังเชื่อมโยงมณฑลยูนนานและสิบสองปันนา ซึ่งอพยพมายังภาคเหนือของไทยเมื่อร้อยกว่าปีที่แล้ว กับเด็กหนุ่มแห่งหมู่บ้านห่างไกลบนดอยเชียงราย ถูกเล่าขานเป็นตำนานกาแฟ โดยเฉพาะผ่านสื่อโลกตะวันตก อย่าง BBC หรือ The Wall Street Journal หรือผ่านงานแสดงกาแฟระดับโลกของ Specialty Coffee Association of Europe
เรื่องราว ราวทศวรรษเดียว ว่าด้วยการจัดการวงจรกาแฟแห่งชนเผ่า จากต้นธารสู่ปลายทาง เป็นกรณีศึกษาอันโดดเด่น เร้าใจหลายมิติ ผสมผสานอย่างลงตัว กลายมาเป็น “ชิ้นส่วน” วัฒนธรรมคาเฟ่เชียงใหม่
ความเชื่อมโยงเป็นจริงเป็นจังขึ้น จากเรื่องราวชนเผ่าดอยภาคเหนือ ผู้มาตั้งรกรากเมื่อศตวรรษที่แล้ว บรรจบกับเรื่องราวดินแดนล้านนาเมื่อกว่า 5 ศตวรรษที่แล้ว คาเฟ่แห่งนี้ดูเหมือนตั้งใจ ยึดทำเลใกล้วัดเก่าแก่ –วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร พระอารามหลวงชั้นเอก ตั้งอยู่ในบริเวณคูเมือง วัดสำคัญอายุกว่า 5 ศตวรรษ เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธสิหิงค์ พระพุทธรูปคู่เมืองเชียงใหม่และแผ่นดินล้านนา ร้านกาแฟเล็กๆ ดูธรรมดา จึงกลายเป็นที่คนแวะเวียนไม่ขาดสาย จากคนท้องถิ่น ผู้ผ่านทาง และนักท่องเที่ยว



อีกร้าน (ภาพ 4-6) ก้าวข้ามยุคสมัย “เชียงใหม่” ซึ่งให้การต้อนรับคนต่างถิ่นอยู่เสมอ ท่ามกลางปรากฏการณ์ Digital Nomad ในปัจจุบัน คาเฟ่ทันสมัยแห่งนี้เพิ่งมาเปิด (ปี 2558) ณ ศูนย์การค้าสไตล์ตะวันตก (ของคนต่างถิ่นเช่นกัน) ตามบางกระแสและอีกสีสันร่วมสมัยกำลังเดินหน้าไป
ดูไปแล้วมีความพยายามเชื่อมโยงกับ “เชียงใหม่” ท่ามกลางยุคสมัยแห่งการเปลี่ยนแปลงอยู่ด้วย ขณะ “เชียงใหม่” แหล่งปลูกกาแฟสำคัญของเมืองไทย เป็นภาพที่กำลังวาดขึ้นอย่างตั้งใจและเป็นจริง สะท้อนผ่านเมนูหนึ่งของคาเฟ่ Filter coffee กับ กาแฟขุนช่างเคี่ยน ซึ่งเพิ่งได้รางวัลกาแฟระดับชาติ มาจากแหล่งปลูกบนดอยสูงชื่อเดียวกัน ที่ซึ่งผู้คนมักมาชมดอกนางพญาเสือโคร่ง ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่เพียง 30 กิโลเมตร
ปิดท้ายด้าย ร้านกาแฟที่แตกต่าง (ภาพ 7-12) “เชียงใหม่” ไม่เพียงต้อนรับ “คนต่างถิ่น” หากเปิดรับ “สิ่งใหม่” ด้วย ร้านกาแฟซึ่งซีเรียสกับการทำกาแฟเป็นพิเศษ ด้วยถ่ายทอดสไตล์ เทคนิค มาจากประเทศออสเตรเลีย โดยเฉพาะเมืองเมลเบิร์น (Melbourne) ซึ่งวัฒนธรรมกาแฟฝังราก แม้แต่ Starbucks ก็ฝ่าด่านไม่ได้






คาเฟ่ซึ่งพยายามนำเสนอสูตรกาแฟที่แตกต่างอย่างหลากหลาย นำเสนอข้อมูลและเรื่องราวมากมายผ่านเมนูเล่มโต ดูขึงขังทีเดียว เอาเข้าจริงถามพนักงานเอาเองดูจะเข้าท่าเช่นกัน นำเสนอผ่านการออกแบบตกแต่งร้านเพื่อกระตุกกระตุ้นความสนใจ บางครั้งดูมากมายเกินความจำเป็นไปบ้าง
อันที่จริงวัฒนธรรมคาเฟ่เชียงใหม่เพิ่งจะเริ่มต้นมาเมื่อไม่นาน ขณะฉากหน้าสะท้อนความคึกคัก หลากหลาย และหวือหวา เชื่อกันว่าเบื้องหลังเป็นเรื่องจริงจัง เข้มข้น ด้วยเผชิญหน้าความท้าทาย
โดยเฉพาะคาเฟ่แห่งหนึ่ง ซึ่งขับเคลื่อนด้วยแรงบันดาลใจ ในฐานะ “ชิ้นส่วน” เล็กๆ แห่งสีสันร่วมสมัยเชียงใหม่
วิรัตน์ แสงทองคำ คอลัมนิสต์ ธุรกิจอิสระ ด้วยวัตรปฏิบัติ 4 ทศวรรษกับผลงานนับพันชิ้น งานบางส่วนปรากฏใน https://viratts.wordpress.com/และ https://www.facebook.com/วิรัตน์-แสงทองคำ เบื้องหลังฉาก “เวลากาแฟ” ดำเนินไปเป็นกิจวัตร ด้วยเรื่องราวและความคิดที่แตกต่าง เพิ่งจะเปิดสู่วงกว้างครั้งแรก@Marketeer online
–
