เทรนด์โฆษณาดิจิทัล กับเคล็ดลับทำอย่างไรให้แบรนด์ยืนหนึ่งในใจลูกค้า

เทรนด์โฆษณาดิจิทัล จะไปทางไหนดี เชื่อว่าหลายๆ ท่านคงคิดเช่นนั้น

ในปี 2019 โฆษณาดิจิทัลมีมูลค่า 20,163 ล้านบาท เติบโต 19% จากการคาดการณ์ของ DAAT

การเติบโตของธุรกิจนี้พฤติกรรมผู้บริโภคที่มองโลกออนไลน์เป็นเหมือนปัจจัยสำคัญในการดำเนินชีวิต พร้อมกับการเติบโตของเทคโนโลยีที่เข้ามาเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภค และยังทำให้แบรนด์รู้จักผู้บริโภคมากขึ้น

ส่วนก้าวต่อไปของอุตสาหกรรมดิจิทัลจะเป็นเช่นไร ศิวัตร เชาวรีย์วงษ์ นายกสมาคมโฆษณาดิจิทัล (ประเทศไทย) และ 2 กรรมการสมาคมโฆษณาดิจิทัล อย่างภารุจ ดาวราย และนรินทร์ เย็นธนภรณ์ ได้มาเล่าให้เราฟังใน Session What’s Next in Thailand Digital Industry ของงาน DAAT DAY2019

 

ที่สามารถสรุปเป็นเทรนด์ 3 ข้อได้ดังนี้

 

1 All Thing Ecommerce

คนไทยซื้อของออนไลน์ผ่านมือถือถี่เป็นอันดับ 3 ของโลก มีมากถึง 71% ของผู้ที่เคยซื้อสินค้าออนไลน์ทั้งหมด

แม้ในแง่เม็ดเงินอาจจะไม่มากนักก็ตาม แต่ก็ทำให้เราเห็นทิศทางที่น่าสนใจ

การเติบโตนี้ส่วนหนึ่งมาจากปีที่ผ่านมาแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ โดยเฉพาะ อีมาร์เก็ตเพลสมีการแข่งขันกันสูง เพื่อสร้างฐานลูกค้า และความถี่ในการซื้อสินค้า

จะเห็นได้ว่าการแข่งขันของอีมาร์เก็ตเพลสในปี 2018 จะลงเล่นในเรื่องแคมเปญ กิจกรรมพิเศษในทุกๆ เดือน ตลอดปี โดยเน้นให้ความสำคัญในการใช้เลขซ้ำ ในแต่ละเดือนเป็นกิมมิกการตลาด อย่างเช่น 11.11, 9.9, 8.8  เป็นต้น เป็นส่วนหนึ่งที่กระตุ้นให้คนไทยซื้อสินค้าออนไลน์บ่อยขึ้น

การเปลี่ยนแปลงด้านพฤติกรรมการซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ ทำให้เราเห็นว่าในวันนี้เกิดแบรนด์สินค้าที่เป็นแบรนด์เล็กๆ เพิ่มขึ้นในตลาดอย่างมากมาย เพราะสามารถก้าวข้ามข้อจำกัดด้านต่างๆ ที่ไม่สามารถทำได้ในโลกของการค้าแบบออฟไลน์

และกลายเป็นปรากฏการณ์ที่แบรนด์ใหญ่ถูกความท้าทายจากแบรนด์เล็กที่แย่งเม็ดเงินจากกระเป๋าผู้บริโภคที่ยังคงมีจำกัด

การเติบโตของอีคอมเมิร์ซไทย ยังมาพร้อมกับความหลากหลายของสินค้าที่วางจำหน่ายในร้านค้าออนไลน์

ก่อนนั้นเราอาจจะเคยคิดว่าสินค้าที่ขายผ่านอีคอมเมิร์ซจะเน้นสินค้าที่มีขนาดเล็ก ราคาไม่สูงเกินไป

แต่ในโลกปัจจุบันเราได้เห็นสินค้าเกือบทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้มีการโพสต์ขายผ่านโลกออนไลน์ ไม่เว้นแม้แต่อสังหาริมทรัพย์ ที่ในวันนี้มีผู้ประกอบการอย่างเช่น แสนสิริ ออริจิ้น เปิดหน้าร้านออนไลน์ขายใบจองที่อยู่อาศัยเช่นกัน

นอกจากนี้ อีคอมเมิร์ซในประเทศไทยยังมีความแปลกและแตกต่างจากประเทศอื่นๆ ที่เป็นเทรนด์สร้างการเติบโตขับเคลื่อนอุตสาหกรรม อย่างการไลฟ์สดขายของในเฟซบุ๊ก และการสร้างเฟซบุ๊กกรุ๊ปขายของดีประจำจังหวัด อำเภอ หรือการสร้างเฟซบุ๊กกรุ๊ปเพื่อซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าเฉพาะอย่าง

เมื่อโลกได้เปลี่ยนไปทุกสิ่งเข้าไปอยู่ในธุรกิจอีคอมเมิร์ซ จึงเป็นเรื่องที่นักการตลาดควรมองอีคอมเมิร์ซเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะช่วยให้เกิดการสร้างโอกาสทางธุรกิจ และขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่ๆ ได้

 

2. Enhanced Customer Experience

ไม่มีใครอยากพูดเรื่องเดิมๆ หรืออธิบายสิ่งที่ตัวเองต้องการกับแบรนด์ซ้ำบ่อยๆ

เพราะในวันนี้ ผู้บริโภคมากถึง 70% มีความคาดหวังให้แบรนด์จดจำเรื่องเดิมที่พวกเขาเคยติดต่อแบรนด์ไว้ก่อนหน้านั้น

และ 63% ต้องการให้แบรนด์จดจำตัวเขาได้ทุกจุดทัชพอยต์

หน้าที่ของแบรนด์คือการทำอย่างไรที่จะจดจำ และเชื่อมโยงประสบการณ์ลูกค้าที่มีกับแบรนด์ทุกจุดทัชพอยต์เข้าด้วยกันได้ เพื่อสร้าง User Experience ที่ดีที่สุดให้กับผู้บริโภค เพื่อให้เกิด Brand Love ที่มากขึ้น

 

3. Fluid Content Marketing

การทำโฆษณาในวันนี้ การใช้คอนเทนต์เดียว เปรี้ยวทุกแห่ง คงอาจใช้ได้ผลไม่ดีนัก

เพราะผู้บริโภคอยากให้แบรนด์กับเขาเป็นการส่วนตัว

ความต้องการเหล่านี้ทำให้แบรนด์ต้องหันไปให้ความสำคัญกับบิ๊กดาต้า เพื่อรู้จักผู้บริโภค และนำเสนอคอนเทนต์ไปถึงผู้บริโภคในแต่ละบุคคลในระดับ Customize ไปพร้อมๆ กับการเปลี่ยนการเล่าเรื่องจากการสร้าง Hero Content ในการสื่อสาร เป็นการสร้าง Multiple-Creative ที่เล่าเรื่องเชื่อมโยงไปกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เป็นกลุ่มเป้าหมายแต่ละแพลตฟอร์ม

 

เพราะโลกการสื่อสารในวันนี้ได้เปลี่ยนไปแล้ว

อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ 
Website : Marketeeronline.co / Facebook : www.facebook.com/marketeeronline


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer