ร้านStarbucks ทำไมขายดี ? ถอดกลยุทธ์ Starbucks ต้องเป็นมากกว่าแบรนด์ร้านกาแฟ (วิเคราะห์)

คนไทยมีพฤติกรรมการดื่มกาแฟสดนอกบ้านมากขึ้น

ดูได้จากการเติบโตของมูลค่าธุรกิจร้านกาแฟที่มีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 15-20% ต่อปี ที่มาพร้อมกับการขยายตัวของร้านกาแฟทั้งในกลุ่มแมสและกลุ่มพรีเมียม ที่ต่างเห็นโอกาสจากการเติบโตจากพฤติกรรมของคนไทยที่เปลี่ยนไป

โดยเฉพาะตลาดกาแฟระดับพรีเมียมที่มีการเปิดสาขาที่มากขึ้น และมาพร้อมกับแบรนด์ใหม่ๆ หรือแบรนด์เดิมที่ปรับภาพลักษณ์ใหม่ เข้ามาร่วมแข่งขันสร้างประสบการณ์ในการดื่มกาแฟที่เข้าไปอยู่ในใจผู้บริโภค เพื่อแปรเปลี่ยนเป็น Brand Loyalty และ Brand Love ในที่สุด

ยิ่งร้านกาแฟมี Brand Loyalty และ Brand Love เท่าไร โอกาสในการสร้างรายได้ก็มีมากขึ้นเท่านั้น

เพราะในวันนี้คนไทยดื่มกาแฟเฉลี่ย 300 แก้วต่อคนต่อปี และเป็นการดื่มกาแฟสดที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จากประสบการณ์การดื่มกาแฟสดของคนไทยที่มีมากขึ้น

ซึ่งประสบการณ์นี้มาจาก

– กาแฟสดหาดื่มได้ง่ายขึ้น มีหลากหลายระดับราคาให้เลือกดื่ม

– เกิดร้านกาแฟหลากแนว หลากรสชาติ ที่ดึงคนรุ่นใหม่ให้เข้ามาลองชิมและแชะรูปถ่ายลงโซเชียลเพื่อสื่อถึงไลฟ์สไตล์ของตัวเอง

– ค่านิยมการดื่มกาแฟที่เปลี่ยนจากเครื่องดื่มที่ช่วยแก้ง่วง เป็นเครื่องดื่มชนิดหนึ่งที่ช่วยดับกระหาย ให้ความสดชื่น ความกระปรี้กระเปร่าในการดื่ม

การแข่งขันของร้านกาแฟระดับพรีเมียม นอกเหนือจากการบริการที่ดี การคิดค้นกาแฟรสชาติใหม่ๆ เข้ามาตอบโจทย์การดื่มที่หลากหลาย การทำโปรโมชั่น ลด แลก แจก แถม และการขยายสาขาให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย

ในวันนี้ร้านกาแฟพรีเมียมบางแบรนด์ยังคงใช้วิธีการ Coffee Testing ให้ลูกค้าทดลองชิมกาแฟรสชาติใหม่ๆ  ของร้านกาแฟพรีเมียม และสร้าง Brand Loyalty ไปในตัว เหมือนๆ กันหมด เนื่องจากเป็นวิธีการทำตลาดที่สามารถทำได้ง่ายที่สุด

ร้านStarbucks ก็เช่นกัน

ที่ผ่านมาสตาร์บัคส์ก็มีการทำ Coffee Testing เพื่อสร้างประสบการณ์การดื่มกาแฟสตาร์บัคส์กับลูกค้า และสตาร์บัคส์ถือเป็นรายแรกๆ ในตลาดร้านกาแฟที่มีการทำ Coffee Testing อย่างต่อเนื่องและจริงจัง

เมื่อการแข่งขันในธุรกิจร้านกาแฟพรีเมียมมีมากขึ้นสตาร์บัคส์จึงได้มีการปรับวิธีการสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ กับแบรนด์

และตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคที่มีประสบการณ์กับกาแฟสดที่เพิ่มขึ้น และเริ่มมีการขยายช่วงเวลาในการดื่มกาแฟสดนอกบ้าน เป็นการทำกาแฟสดเพื่อดื่มในบ้านในวันหยุด หรือช่วงเวลาสบายๆ

และผู้บริโภคบางคนยังมองว่าการทำกาแฟดื่มเองที่บ้าน จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซื้อกาแฟนอกบ้านได้อีกทางหนึ่ง

พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้เกิดคอร์สเรียนการทำกาแฟเบื้องต้นจากร้านกาแฟแบรนด์เล็ก หรือร้านจำหน่ายเมล็ดและอุปกรณ์การทำกาแฟจำนวนมาก

แต่ยังไม่มีร้านกาแฟเชนมีการจัดคอร์สอบรมในรูปแบบนี้อย่างจริงจัง

ซึ่งที่ผ่านมาสตาร์บัคส์ได้มีแฟนกาแฟเข้ามาถามถึงคอร์สการฝึกอบรมวิธีการชงกาแฟแบบต่างๆ ที่ไม่ใช่เครื่องชงไฟฟ้า และสามารถทำเองได้ง่ายๆ ที่บ้าน

สตาร์บัคส์จึงนำสิ่งเหล่านี้มาเปิดเป็น Work Shop 3 หลักสูตรขึ้น เพื่อสอนให้ลูกค้าสตาร์บัคส์และผู้สนใจเข้ามาเรียน คิดราคาเริ่มต้นที่ 2,500 บาท อบรมจบได้ของพรีเมียมจากสตาร์บัคส์กลับไป

ทั้งนี้ แม้การฝึกอบรมของสตาร์บัคส์จะเป็นแค่เพียงส่วนหนึ่งที่สร้างประสบการณ์ที่ดีกับแบรนด์ แต่การที่สตาร์บัคส์ได้ปรับมาจัด Work Shop เรื่องต่างๆ เหล่านี้ เป็นหนึ่งในการปรับตัวให้ทันกับผู้บริโภคที่เริ่มหันมาทำกาแฟดื่มเองในบ้านมากขึ้น

และลูกค้าที่เข้ามาร่วม Work Shop โอกาสที่จะซื้อสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการทำกาแฟเพื่อให้รสชาติตามที่เคย Work Shop มาก็จะมีมากขึ้น

โอกาสในการที่ผู้บริโภคจะเปลี่ยนแปลงก็จะน้อยลงตามมา

อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ 
Website : Marketeeronline.co / Facebook : www.facebook.com/marketeeronline

 

 

 



ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ

.
Marketeer ฉบับดิจิทัล : อ่านบน Ookbee / อ่านบน meb
.
Marketeer ฉบับ PDF : https://marketeermagazine.com/
.
Marketeer ฉบับกระดาษ : สั่งซื้อทางไปรษณีย์ Inbox มาที่ เพจ Marketeer Online