กลยุทธ์การตลาด “The Mall Group” เจาะ Omni Channel ย้ำต้องเพิ่ม Time Spend ของลูกค้าให้ถึง 100 นาที ส่วนปีนี้เริ่มที่บิ๊กแคมเปญยาว 2 เดือน งบ 350 ล้าน หวังดันไตรมาส 4 ยอดขาย 16,800 ล้าน และปิดปี 62 ที่ 58,000 ล้านบาท

วรลักษณ์ ตุลาภรณ์ ผู้บริหารสูงสุดฝ่ายการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า กำลังซื้อของผู้บริโภคในช่วงปีที่ผ่านมาพบว่าในไตรมาส 1-2 เติบโตได้ต่อเนื่อง แต่ไตรมาส 3/62 (ก.ค.-ก.ย.) ที่ยอดขายมีอาการทรงตัว ทว่าเริ่มเห็นสัญญาณกำลังซื้อกลับมาฟื้นตัวตั้งแต่เดือนตุลาคม จากปัจจัยต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทางจิตวิทยาที่คนรู้สึกอัดอั้นในไตรมาส 3/62, ช่วงปิดเทอม, ชิม ช้อป ใช้ และ ไอโฟน 11% ส่งผลให้เฉพาะเดือนตุลาคมมียอดขายเติบโต 8-9%

วรลักษณ์กล่าวอีกว่า สัญญาณบวกของธุรกิจค้าปลีกในช่วงโค้งสุดท้ายของปีเริ่มกลับมาอีกครั้ง ทั้งจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว รวมถึงภาคธุรกิจที่เริ่มมีความตื่นตัวในการทำการตลาดมากขึ้น เพราะถือเป็นช่วงไฮซีซั่นของทุกธุรกิจ

“เดี๋ยวนี้ 1 พ.ย. เริ่มเห็นต้นคริสต์มาสแล้ว เพราะครึ่งเดือนหลังธันวา คน (ไทย) ก็จะไม่อยู่ ถ้าอยากได้เงินคนไทยต้องทำตลาดเร็วขึ้น ก็จะเห็นว่าธุรกิจทำการตลาดเร็วขึ้นหมด ตั้งแต่ 11.11 ทุกที่ซัดกันเลยไปจนถึงต้นปีหน้า ส่วนเราทำตั้งแต่ พ.ย. ถึงต้นปีหน้า” วรลักษณ์อธิบาย

สำหรับการทำตลาดของ “เดอะมอลล์ กรุ๊ป” ในช่วงโค้งสุดท้าย คือแคมเปญ “The Mall Group Joy of Giving” ใช้งบประมาณกว่า 350 ล้านบาท จัดตั้งแต่วันที่ 14 พ.ย. 2562 – 12 ม.ค. 2563 ในรูปแบบโปรโมชั่น ของรางวัล และกิจกรรมพิเศษ เพื่อดึงดูดลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างชาติ

นอกจากนี้ แคมเปญดังกล่าวยัง Collaboration กับ We Bare BEARS ภายใต้แคมเปญ “The Mall Group Joy of Giving x We Bare Bears We Wish You a Beary Christmas”

03

โดยคาดว่าการจัดแคมเปญและกิจกรรมต่างๆ จะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อลูกค้า 25% ในช่วงปลายปี ทั้งในศูนย์การค้าเดอะมอลล์ เอ็มโพเรียม เอ็มควอเทียร์ และพารากอน

วรลักษณ์ตั้งเป้าว่า ช่วงไตรมาส 4/62 บริษัทจะมียอดขาย 16,800 ล้านบาท ทำให้ปิดยอดขายสิ้นปี 2562 ที่ 58,000 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม “เดอะมอลล์ กรุ๊ป” ได้วางกลยุทธ์การตลาดในเรื่อง ‘Digitization’ คือการใช้เทคโนโลยีและดิจิทัลในการทำการตลาดทั้งออฟไลน์และออนไลน์ (Omni Channel)

“เราจะมองคนเป็น 3 Category คือ หนึ่ง Online Only สอง Offline Only สาม Omni Channel ซึ่งปัจจุบันกลุ่มออมมิชาแนลมีถึง 73%” วรลักษณ์กล่าว

ดังนั้น แนวทางของบริษัทคือการสร้าง Customer Journey จากฐานลูกค้าสมาชิกบัตร M Card กว่า 4 ล้านราย และบัตร SCB M Visa 600,000 ใบ จากนั้นนำมาศึกษาไลฟ์สไตล์และพฤติกรรมของลูกค้ามาสร้างประสบการณ์การช้อปปิ้ง การจัดอีเวนต์ การตกแต่ง ตลอดจนกิจกรรมการตลาดต่างๆ เพื่อเพิ่ม Time Spend หรือระยะเวลาที่ลูกค้าจะใช้เวลาอยู่ภายในศูนย์เพิ่มขึ้น

โดยปัจจุบันลูกค้า 1 คน จะใช้เวลาเฉลี่ยในศูนย์การค้าประมาณ 90 นาที ส่วนปี 2563 บริษัทตั้งเป้า Time Spend ให้ถึง 100 นาที จากกลยุทธ์ดังนี้

– Innovation: ใช้นวัตกรรมต่างๆ เช่น แอปพลิเคชัน ในฐานะ CRM App ผ่านการทำแคมเปญการตลาดและกิจกรรมที่ให้ประสบการณ์ใหม่ๆ

– Cross Category Spending: จัดกลุ่มสินค้าและบริการให้มีความหลากหลายในรูปแบบ Creoss Category

– Collaboration: จับมือกับแบรนด์ รวมถึงการรวมกลุ่มศิลปินสร้างสินค้าคอลเลกชั่น

– CSR/Eco/Community: เพื่อสร้างการรับรู้ในฐานะธุรกิจรีเทล

MarketeerFYI_Logo-e1565343663966

The Mall Group-Digitization

(1) M Card Application

(2) SCB M Visa

(3) Youtube Channel

(4) Line Channel

(5) AR Technology (Interactive AR ในศูนย์การค้า)

(6) E-Coupon

(7) Gamification



อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ Website: Marketeeronline.co
Facebook: www.facebook.com/marketeeronline

ติดตาม Marketeer Online ทาง LINE Official


เพิ่มเพื่อน