ขายของบน Facebook อย่างไรให้โดนใจ ? พร้อมเผยพฤติกรรมลูกค้าและเทคนิคเพิ่มยอดขายออนไลน์ปี 2020
ปัจจุบันมีหลายแพลตฟอร์มให้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ได้สร้าง ‘หน้าร้าน’ ไม่ว่าจะเป็นอีคอมเมิร์ซอย่างลาซาด้าหรือช้อปปี้ จนไปถึงโซเชียลมีเดียต่างๆ
แต่ด้วยจริตของคนไทยที่ใช้งาน Facebook แทบจะตลอดเวลา จึงถือเป็นโอกาสที่พ่อค้าแม่ค้าจะเข้ามาขายของและปิดการขายได้ง่ายขึ้นหากใช้งานเฟซบุ๊กอย่างมีประสิทธิภาพ
ปัจจุบันคนไทยกว่า 54 ล้านราย ใช้งาน Facebook ผ่าน Smart Phone และ 60% ของผู้ที่ช้อปปิ้งมีอายุ 18-34 ปี
ขณะที่จำนวนผู้ใช้งาน Instagram ในประเทศไทยก็มีอัตราการใช้งานที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเนื้อหาที่สนใจมากที่สุดคือ ความงามและแฟชั่น
คน ขายของบน Facebook ต้องรู้
รายงานจาก Facebook ระบุว่า 70% ของคนไทยจากจำนวน 1,506 คนที่ร่วมตอบแบบสำรวจจะเริ่ม ช้อปปิ้งในช่วงปลายปี ในเดือนธันวาคม โดย 1 ใน 4 ของคนอายุระหว่าง 18-34 ปีตอบว่ามีแผนจะใช้จ่ายในการช้อปปิ้งเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว
จากการศึกษาของเฟซบุ๊กพบอีกว่า 81% ของนักช้อปชาวไทยใช้โทรศัพท์มือถือระหว่างการหาซื้อของขวัญในร้านค้า ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วคิดเป็น 4% โดยในกลุ่มนี้ 69% ใช้มือถือในการเปรียบเทียบราคา 58% เปรียบเทียบผลิตภัณฑ์ และ 47% มองหาคูปองหรือส่วนลด
เมื่อถามว่าการช้อปผ่านมือถือก่อนซื้อดีอย่างไร-คำตอบที่ได้จากกลุ่มผู้สำรวจคือ ‘ข้อเสนอที่ดีกว่า’
“เรายังพบว่า 39% ของผู้บริโภคค้นพบแบรนด์หรือผลิตภัณฑ์ใหม่จากการดู VDO บนมือถือ”
ชวดี วงศ์พยัต หัวหน้าฝ่ายธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม Facebook ประจำประเทศไทย อ้างอิงผลจากการศึกษาในปี 2560 ซึ่งเป็นรายงานที่ Facebook ให้ Nielsen เป็นผู้ดำเนินการสำรวจในหัวข้อ “คุณค่าของวิดีโอ” จากกลุ่มสำรวจจำนวน 22,000 ราย อายุระหว่าง 18-24 ปีจาก 10 ประเทศทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทย
การออกแบบแคมเปญสำหรับลูกค้าที่ใช้มือถือเป็นหลักจึงควรใช้ ‘คลิปวิดีโอแบบสั้น’ เพื่อดึงความสนใจของลูกค้าตั้งแต่เนิ่นๆ โดยใส่โฆษณาที่มีแบรนด์ปรากฏ
อีกอินไซต์ของนักช้อปชาวไทยคือ ‘Message’ คือการส่งข้อความคุยกันระหว่างผู้ขายและผู้ซื้อ โดย 84% ของผู้ตอบแบบสำรวจกล่าวว่าตนส่งข้อความพูดคุยกับร้านค้าต่างๆ ในช่วงปลายปี 2561 เพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ รวมถึงเพื่อติดตามคำสั่งซื้อ หรือสั่งซื้อผลิตภัณฑ์
นำมาสู่ผลลัพธ์ว่า 9 ใน 10 คนของผู้ที่ชอบช้อปปิ้งช่วงสิ้นปีจะมีแนวโน้มที่จะซื้อของจากร้านค้าที่สามารถพูดคุยโต้ตอบได้ทันที
หากไม่สะดวกตอบทันที พ่อค้าแม่ค้าสามารถตั้ง ระบบตอบกลับอัตโนมัติ เพื่อช่วยยื้อลูกค้าได้อีกด้วย
และสุดท้ายคือโปรโมชั่น ให้เน้นข้อเสนอส่วนลดหรือสิ่งจูงใจให้เห็นชัดเจนมากที่สุด
เห็นได้ว่าหัวใจสำคัญคือ ‘การใช้เครื่องมือ’ และ ‘ราคา’ ที่เป็นตัวช่วยตัดสินใจให้ปิดการขายได้
แต่ที่สำคัญกว่านั้นในยุคออนไลน์ คือ ‘ส่งฟรี’ เพราะร้านไหนที่บอกลูกค้าว่าส่งฟรี ย่อมดีกว่าร้านที่บอกว่า EMS 50 บาท
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /
