📍Bullet Point
– ปี 2019 มีร้านอาหารในไทยเปิดใหม่มากถึง 70,149 ร้าน
– โดย Top 3 ของประเภทร้านอาหารที่เปิดใหม่คือกาแฟ-คาเฟ่, อาหารไทย และก๋วยเตี๋ยว
– ชานมไข่มุกยังเป็นเมนูยอดฮิต และส่งผลให้ปี 2019 มีร้านชานมไข่มุกเปิดใหม่มากถึง 700%
– ยำคือเมนูยอดฮิตที่มีคนค้นหามากที่สุดใน Wongnai
– หมูปลาร้า ราชดำเนิน คือร้านที่คนนิยมสั่งหลังเที่ยงคืนมากที่สุด!
🥗 🌯🍧
Wongnai (วงใน) เผยข้อมูลจากร้านอาหารที่มีในระบบกว่า 320,000 ร้าน และผู้ใช้งานกว่า 10 ล้านคน
พบว่าในปี 2019 ประเทศไทยมีร้านอาหารเปิดใหม่มากถึง 70,149 ร้าน คิดเป็นการเติบโตจากปี 2018 มากถึง 97%
โดยร้านที่เปิดใหม่ส่วนใหญ่จะเป็นร้านไซส์เล็กถึงไซส์กลาง
และสำหรับ 5 ประเภทร้านอาหารยอดนิยมที่เปิดใหม่ในปี 2019 คือ
1. กาแฟ & คาเฟ่
2. อาหารไทย & อาหารตามสั่ง
3. ก๋วยเตี๋ยว
4. อาหารอีสาน
5. สตรีทฟู้ด
กับอีกตัวเลขที่น่าสนใจก็คือในปี 2019 มีร้านชานมไข่มุกเปิดใหม่เพิ่มจากปี 2018 มากถึง 700% เลยทีเดียว
จากข้อมูลด้านบนนี้ เราอยากให้คุณลองเดากันดูว่าในปี 2019 จังหวัดไหนคือจังหวัดที่เปิดร้านอาหารใหม่มากที่สุด?
.
.
.
.
.
คงไม่ผิดไปจากที่หลายคนคาด เพราะคำตอบก็คือกรุงเทพมหานคร ที่ในปี 2019 มีร้านอาหารเปิดใหม่มากถึง 18,000 ร้าน
และนี่ก็เป็นอีกปัจจัยที่ส่งให้กรุงเทพฯ กลายเป็นจังหวัดที่มีร้านอาหารมากที่สุดในประเทศด้วยเช่นกัน
ซึ่งหากแบ่งตามเขต 5 เขตในกรุงเทพฯ ที่มีร้านอาหารมากที่สุดก็คือ
1. จตุจักร : 1,400 ร้าน
2. ปทุมวัน : 1,200 ร้าน
3. วัฒนา : 1,110 ร้าน
4. บางกะปิ : 1,000 ร้าน
5. ประเวศ : 950 ร้าน
ส่วนเขตในกรุงเทพฯ ที่มีร้านอาหารน้อยที่สุดก็คือ
1. ทุ่งมหาเมฆ : 50 ร้าน
2. วงศ์สว่าง : 100 ร้าน
3. หนองจอก : 150 ร้าน
4. สัมพันธวงศ์ : 200 ร้าน
5. ป้อมปราบศัตรูพ่าย : 220 ร้าน
โดยคาดว่าเหตุผลที่ทำให้เขตเหล่านี้มีร้านอาหารน้อย อาจเป็นเพราะโลเคชั่นที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการทำร้านอาหารหรือการจอดรถ
ซึ่งอีกมุมหนึ่งเขตที่มีร้านอาหารน้อยที่สุดในกรุงเทพฯ นี้ก็เป็นเหมือน Blue Ocean สำหรับคนอยากทำร้านอาหาร โดยเฉพาะกับร้านแบบ Food Delivery ที่ไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้านให้ลูกค้า
➖
แต่การเติบโตเหล่านี้ก็ไม่ได้แปลว่าธุรกิจอาหารจะสดใสเสมอไป เพราะหากย้อนดูสถิติในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาของ Wongnai กลับพบว่ามีร้านเปิดใหม่เพียงแค่ 10% เท่านั้นที่อยู่รอด
แล้วถ้าคุณอยากเปิดร้านอาหารบ้างล่ะ ต้องทำอย่างไร?
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าปัจจัยสำคัญที่ทำให้ร้านอาหารไทยเติบโตขึ้นทุกวันก็คือออนไลน์และการมาของ Food Delivery
โดยหากย้อนดูข้อมูล 5 ปีก่อนหน้าก็จะพบว่าตลาด Food Delivery นั้นมีการเติบโตเฉลี่ย 10% ในทุกปี
และสำหรับในปี 2019 ที่ผ่านมานั้นถือเป็นปีที่เติบโตสูงสุดเป็นประวัติการณ์ซึ่งอยู่ที่ 14% จนทำให้ตลาด Food Delivery มีมูลค่าแตะไปถึง 31,814 ล้านบาท
ดังนั้นแล้วอีกปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ร้านอาหารยังคงอยู่ได้ก็คือการทำ Food Delivery นั่นเอง
จากข้อมูลของ Wongnai ที่ได้ทำร่วมกับ LineMan พบว่า 63% ของลูกค้าสะดวกใช้บริการ Delivery มากกว่าไปกินที่ร้าน
และ 76% ของลูกค้าที่สั่ง Delivery กับร้านนั้นๆ ก็มีแนวโน้มที่จะเดินทางไปยังหน้าร้านมากขึ้น
โดยกว่า 40% ของผู้คนที่นิยมสั่งอาหารผ่าน Delivery คือคนวัย 25-34 ปี รองลงมาคือคนกลุ่มอายุ 18-24 ปี และ 35-44 ปี (ตามลำดับ)
วันที่มีออเดอร์เดลิเวอรี่สูงสุดคือ วันอาทิตย์ วันเสาร์ และวันศุกร์ (ตามลำดับ)
ช่วงเวลาที่ผู้คนนิยมสั่ง Delivery ใน LineMan มากที่สุดก็คือ 11:00 น.,18:00 น. และ 17:00 น. (ตามลำดับ)
และโจ๊กสามย่านเป็นเมนูดังที่มีคนสั่งหลังเลิกงานมากที่สุด ส่วนหมูปลาร้า ราชดำเนิน คือเมนูที่มีคนสั่งหลังเที่ยงคืนมากที่สุด
ส่วน ‘ยำ’ เมนูยอดฮิตแห่งปี 2019 ก็เป็นเมนนูที่มีคนค้นหามากที่สุดเช่นกัน รองลงมาคือข้าวมันไก่, ข้าวต้ม/โจ๊ก ก๋วยเตี๋ยวเรือ และขนมจีน (ตามลำดับ)
ซึ่งนอกจากจะตอบโจทย์พฤติกรรมของผู้คนที่เปลี่ยนไปแล้ว การทำ Delivery ยังช่วยลดต้นทุนในแง่ของพนักงาน, operation ต่างๆ และการทำหน้าร้านให้กับเจ้าของร้านอาหารได้โดย
และเป็นผลดีกับร้านที่ยังไม่มีความเชี่ยวชาญในการทำการตลาดให้กับตัวเอง เพราะในแพลตฟอร์ม Food Delivery เหล่านี้ ก็มีบริการทำการตลาดให้ทั้งแบบฟรีและแบบคิดค่าใช้จ่าย และทำให้เจ้าของร้านมีเวลาไปโฟกัสกับการทำอาหารมากยิ่งขึ้น
–
