📍Bullet Point

– CRG ทุ่ม 140 ล้านบาท ดึง Salad Factory ร้านอาหารเพื่อสุขภาพแบรนด์แรกเข้ามาอยู่ในพอร์ต

ตั้งเป้าขยาย 50 สาขา ใน 5 ปี กับยอดขายที่ 1,000 ล้านบาท

ปัจจุบัน Salad Factory มี 7 สาขา ใช้งบลงทุนต่อสาขาราว 5-6 ล้านบาท

สร้างรายได้ต่อเดือนราว 3 ล้านบาท

ใช้เวลาคืนทุนเฉลี่ย 1.5 ปี

โดยภาพรวมตลาดเครื่องดื่มอาหารเพื่อสุขภาพปี 62 มีมูลค่าประมาณ 88,731 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโตจากปี 61 ที่ 2.4%

🥗 🥙 🥩

เพราะที่ผ่านมา CRG มีร้านอาหารหลายประเภทอยู่ในมือมากมาย

ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารญี่ปุ่น, ร้านไอศกรีม, ร้านอาหารไทย หรือร้านขนมหวาน จะขาดก็แต่ร้านอาหารเพื่อสุขภาพ

ประกอบกับตลาดเครื่องดื่มอาหารเพื่อสุขภาพปี 62 นั้นมีมูลค่าประมาณ 88,731 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโตจากปี 61 ที่ 2.4%

นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ CRG ตัดสินใจเข้าไปลงทุนในแบรนด์ร้านอาหารเพื่อสุขภาพอย่าง ‘Salad Factory’ ในลักษณะของการร่วมทุน (JV) ผ่านการเปิดบริษัทใหม่ที่ใช้ชื่อว่า กรีนฟู้ด แฟคทอรี่ จำกัด

โดย CRG ถือหุ้นในสัดส่วน 51% คิดเป็นเงินราว 140 ล้านบาท

ส่วนที่เหลืออีก 49% เป็นของผู้ก่อตั้ง Salad Factory อย่างปิยะ ดั่นคุ้ม

ถามว่า Salad Factory เป็นใคร?

มีความน่าสนใจยังไง?

ทำไมถึงเป็นแบรนด์เนื้อหอม ที่ก่อนจะตกลงปลงใจมาอยู่กับ CRG ก็มีเชนร้านอาหารใหญ่เข้ามาจีบ 2-3 ราย

ด้านล่างนี้คือคำตอบ

1

ปิยะ ดั่นคุ้มผู้ก่อตั้ง Salad Factory เล่าถึงที่มาที่ไปของแบรนด์ให้เราฟังว่าเขาได้รู้จักกับเพื่อนที่ทำเกษตรอินทรีย์

จนได้นำผลิตผลเหล่านั้นมาต่อยอดทำเป็นร้านอาหารเพื่อสุขภาพในนาม Salad Factory ที่เปิดครั้งแรกในปี 2556 และเติบโตตามแนวชานเมืองจนมีสาขารวมทั้งหมด 6 แห่ง

2

โดยเฉลี่ยแล้ว Salad Factory มีลูกค้าหมุนเวียนเข้ามาในร้านประมาณ 1,000 คน/วัน

มียอดบิลราว 400 บิล/วัน

และแต่ละบิลนั้นมียอดใช้จ่ายเฉลี่ยที่ 200-300 บาท

โดยสาขาที่มี Traffic มากที่สุดคือที่ Crystal เลียบทางด่วนรามอินทรา

3

การทำสาขา 1 แห่งใช้งบลงทุนราว 5-6 ล้านบาท สร้างรายได้ต่อเดือนราว 3 ล้านบาท

ใช้เวลาคืนทุนเฉลี่ย 1.5 ปี

4

ส่วนสาขาล่าสุด ซึ่งเป็นลำดับที่ 7 ที่ตั้งอยู่ในเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน เป็นสาขาแรกที่ได้ทำร่วมกับ CRG

5

หากย้อนดูในพอร์ตที่ผ่านมา จะพบว่า CRG มีแนวโน้มในการปั้นแบรนด์เป็นของตัวเองมากขึ้นเรื่อย ไม่ว่าจะเป็น Terrace, อร่อยดี, เกาลูน, สุกี้เฮ้าส์, ซอฟท์แอร์

6

แต่ครั้งนี้ที่ CRG ไม่ปั้นแบรนด์เป็นของตัวเองแล้วเลือกลงทุนในรูปแบบ JV แทน

เป็นเพราะเหตุผลที่ปิยะพงศ์ จิตต์จำนงค์ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ฝ่ายการตลาดของ CRG บอกว่า

อาหารเพื่อสุขภาพประเภทสเต๊กสลัดนั้นเป็นเรื่องที่มีดีเทลมากมาย ควบคุมได้ยาก เพราะผักเป็นสิ่งที่ขึ้นอยู่กับดินฟ้าอากาศ

แต่ในเมื่ออาหารเพื่อสุขภาพมีโอกาสเติบโต เราก็เลยใช้วิธีเลือกคนที่มีความเชี่ยวชาญ มี passion มาทำด้วยกันจะดีกว่า

เหมือนกับว่าเขาวิ่งเก่งอยู่แล้ว เรามีหน้าที่แค่หารองเท้าดี ให้เขาใส่ ให้เขาวิ่งได้ดีขึ้นไปอีก

7

ซึ่งรองเท้าดี ในความหมายของ CRG ก็คือการเข้าไปซัปพอร์ตระบบต่าง ทั้งหน้าบ้านหลังบ้าน เพื่อทำให้ Salad Factory วิ่งได้เร็วขึ้น

กับเป้าหมายขยายเพิ่ม 4 สาขาในปีนี้

และขยายเป็น 50 สาขาภายในอีก 5 ปีข้างหน้า

พร้อมกับเส้นชัยของรายได้ซึ่งคาดหวังไว้ที่ 1,000 ล้านบาท

8

และการตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนยอดขายทาง Delivery จากเดิมซึ่งเคยทำได้ที่ 10% ของยอดขายรวม

ก็จะปรับสัดส่วนให้เพิ่มมาเป็น 20-30% แทน

9

หากมองดูเชนร้านอาหารรายใหญ่ในไทย จะพบว่ามีแค่ไม่กี่รายเท่านั้นที่มีร้านอาหารสไตล์สเต๊กสลัด อยู่ในมือ

ซึ่งนั่นก็คือ Sizzler จากค่าย Minor Food และ Santa Fe ที่ตกไปอยู่ในมือของ Food Factors ภายใต้การดูแลของ ต๊อดปิติ ภิรมย์ภักดี

ส่วนที่เหลือก็ล้วนแต่เป็นร้านที่ยังอยู่ในสเกล SME

ดังนั้นหากมองในมุมของแบรนด์ใหญ่ ร้านอาหารเพื่อสุขภาพสไตล์สเต๊กสลัด นั้นถือเป็นอีกธุรกิจที่น่าสนใจ

เพราะยังมีโอกาสในการเติบโตทั้งในแง่ของการเป็นอาหารที่สอดรับกับเทรนด์ของผู้บริโภค

และในแง่ของการแข่งขันที่ไม่รุนแรงเท่ากับอาหารประเภท QSR, หม้อต้ม, ปิ้งย่าง หรืออาหารญี่ปุ่น

ที่ต่างต้องฟาดฟันกันด้วยการอัดงบโฆษณา และจัดโปรโมชั่นต่าง เพื่อแย่งชิงพื้นในในกระเพาะอาหารของผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer