คน Gen Z พวกเขาคือใคร ใช้ชีวิตอย่างไร ทำไมนักการตลาดจึงต้องให้ความสำคัญ (วิเคราะห์)
แม้วันนี้ Gen Z ยังไม่ใช่ผู้บริโภคกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงสุด เพราะในวันนี้เขามีอายุเพียง 13-23 ปี เท่านั้น
แต่ Gen Z เป็นกลุ่มที่มีความสำคัญในการขับเคลื่อนตลาดในอนาคต พร้อมกับพลังที่มากพอใจการที่จะเปลี่ยนโลก
โดยกลุ่ม Gen Z และเป็นกลุ่มที่มีสัดส่วนมากถึง 1 ใน 3 ของประชากรโลกที่จะกลายเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อที่สำคัญในปัจจุบันและอนาคต และเป็นกลุ่มที่กล้าแสดงออกและออกขับเคลื่อนสิ่งต่างๆ บนโลกใบนี้อย่างมีมิติ
ภูวดล ธาราศิลป์ Director of Digital + CRM และชญาน์นันท์ เจริญสุขศิริภาธร Senior Regional Planner บริษัท วันเดอร์แมน ธอมสัน ประเทศไทย ได้พาเราทำความเข้าใจกับ Gen Z ไทยมากขึ้นผ่านรายงาน Generation Z: APAC โดย Wunderman Thompson Intelligence

1. Gen Z ใช้ชีวิตบนออนไลน์ แต่ไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงในออนไลน์
Gen Z เป็นกลุ่มที่ใช้ชีวิตบนโลกออนไลน์มากที่สุด เมื่อเทียบกับ Gen อื่นๆ จากการที่ Gen Z เป็น Gen แรกที่ใช้ชีวิตอยู่กับดิจิทัล 100% แต่เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจคือ Gen Z กลับมีความคิดว่าพวกเขาใช้เวลามากเกินไปบนโลกออนไลน์
การใช้ชีวิตของ Gen Z บนโลกออนไลน์
85% ของ Gen Z มีการรับข่าวสารใหม่ๆ และความบันเทิงออนไลน์ผ่านโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์ม โดยเฟซบุ๊กและไลน์เป็นแพลตฟอร์มยอดนิยมสูงสุด
ส่วนการรับข่าวสารผ่านสื่อเทรดดิชั่นแนลของ Gen Z พบว่า
58% รับข่าวสารจากสื่อทีวี
57% รับข่าวสารจากเพื่อนและครอบครัว
16% จากหนังสือพิมพ์
ซึ่งถือเป็นสัดส่วนที่น้อยกว่าโลกออนไลน์มาก
การใช้เวลาในโลกออนไลน์ของ Gen Z เหมือนจะเป็นโอกาสที่น่าสนใจของแบรนด์ในการเก็บ Data Footprint เพื่อทำความรู้จักและใช้สื่อออนไลน์เป็นเครื่องมือสื่อสารถึงกลุ่ม Gen Z เป็นหลัก
แต่แท้จริงแล้ว ชีวิต Gen Z บนโลกออนไลน์ ไม่ได้โชว์ตัวตนที่แท้จริงของตัวเองให้แบรนด์รับรู้และเพื่อร่วมโซเชียลรับรู้เสมอไป
เพราะ 75% ของ Gen Z ไม่ได้แสดงตัวตนที่แท้จริงบนโลกออนไลน์ทั้งหมด แต่จะมีการสร้างกำแพงตัวตนเอาไว้ ความกังวลว่าผู้ปกครองของพวกเขาจะเห็นในสิ่งที่พวกเขาโพสต์ลงบนสื่อสังคมออนไลน์โดยเฉพาะในโซเชียลมีเดียที่มีคนในครอบครัวเป็นเพื่อนร่วมโซเชียล
และยังตระหนักถึงความอันตรายของโซเชียลมีเดีย โดย 92% ของ Gen Z จะคิดอย่างรอบคอบและกังวลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว
และสิ่งเหล่านี้ทำให้เกิดพฤติกรรมสร้างแอคหลุมหรือแอคเคาน์ปลอมขึ้นมาใช้สื่อสารอีกทางหนึ่ง
ข้อคิดสำหรับแบรนด์
พฤติกรรมในโลกออนไลน์ของ Gen Z ทำให้แบรนด์จะต้องคิดการสื่อสารแบบดิจิทัลเป็นอันดับแรก และต้องเข้าใจถึงความแตกต่างของสื่อออนไลน์ในแต่และแพลตฟอร์มที่ Gen Z เข้าถึง ว่าพวกเขาใช้แพลตฟอร์มเหล่านั้นเพื่ออะไร เช่น พวกเขาไม่ค่อยได้เมนต์ หรือแสดงความคิดเห็นในเฟซบุ๊กมากนัก เพราะมีผู้ปกครองเป็นเพื่อนในเฟซบุ๊ก เป็นต้น
รวมถึงความเข้าใจในธรรมชาติของการสื่อสารของแต่ละแพลตฟอร์ม และข้อจำกัดต่างๆ ของแพลตฟอร์มอีกด้วย
2. Gen Z ต้องการเห็นโลกดีขึ้น
จากการที่ Gen Z ได้เห็นข่าวทุกวันในโซเชียลมีเดียที่นำเสนอสิ่งต่างๆ เกี่ยวกับปัญหาของสิ่งแวดล้อม และทำให้เขารู้สึกอยากทำให้โลกที่พวกเขาอยู่ดีขึ้นกว่าเดิม
จากการรายงานพบว่า
43% มีความกังวลเกี่ยวกับมลพิษและสิ่งแวดล้อม
38% กังวลเกี่ยวกับภัยธรรมชาติ
33% กังวลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ข้อคิดสำหรับแบรนด์
การที่ Gen Z เป็น Gen ที่กล้าแสดงความคิดเห็น และพยายามทำทุกอย่างที่ให้สังคมรับรู้ถึงพลังที่จะเปลี่ยนบางสิ่งบางอย่างบนโลกใบนี้ให้ดีขึ้น
Gen Z จึงมีแนวคิดที่จะสนับสนุนแบรนด์ที่ตระหนักและให้คุณค่าในเรื่องนี้เหมือนกับพวกเขา
การสื่อสารของแบรนด์จึงไม่ควรที่จะไปบอกว่าแบรนด์ดีอย่างไร แต่ควรบอกว่าแบรนด์เห็นคุณค่าในเรื่องเดียวกับพวกเขาอย่างไร
3. ความสุขไม่ได้หมายถึงความร่ำรวย แต่คือความสำเร็จในการได้ทำในสิ่งที่ตนรัก
Gen Z ถือเป็น Gen ที่มองว่าไม่ว่าอาชีพใดๆ ในโลกนี้ไม่ควรแบ่งแยกระหว่างอาชีพของผู้ชายและผู้หญิง
เพราะ 90% ของ Gen Z ไทยมีความเห็นว่าผู้ชายและผู้หญิงมีคุณค่าและความเสมอภาคเท่ากัน ไม่มีความเหลื่อมล้ำทางเพศ เพศไหนก็สามารถทำงานอะไรก็ได้ และมีอิสระที่จะทำงานประเภทใดก็ได้ที่ชอบหรือต้องการ
ความเท่าเทียมกันของเพศกับอาชีพ
ไทย 90%
ญี่ปุ่น 50%
APAC 80%
นอกจากนี้ Gen Z ไทยยังได้มองความสำเร็จต่างกัน และเงินไม่ใช่คำตอบของทุกสิ่ง พวกเขามีความฝันคือการค้นหาความสุขในระยะยาวอย่างยั่งยืนทั้งสำหรับตนเองและผู้คนรอบข้าง และพวกเขาค้นพบตัวเองในอนาคตเร็วและชัดเจนกว่า Gen รุ่นอื่นๆ
จากการสำรวจพบว่า มี Gen Z เพียง 14% ที่ต้องการทำงานเพื่อความร่ำรวยเท่านั้น
36% ต้องการความสำเร็จในชีวิต
37% ต้องการความสุข
GEN Z มองความสำเร็จต่างกัน ความฝันของคนเจนนี้คือการค้นหาความสุขในระยะยาวอย่างยั่งยืนทั้งสำหรับตนเองและผู้คนรอบข้าง
และด้วยสภาพที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ทำให้ 81% ของ Gen Z ยังรู้สึกกังวลว่าตนเองจะไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต แต่ก็ยังคงมองโลกด้วยความหวังที่จะดีกว่านี้
ข้อคิดสำหรับแบรนด์
เปลี่ยนการสื่อสาร จากการบอก Gen Z ว่าทำไมแบรนด์ถึงยอดเยี่ยม เป็นการแสดงให้พวกเขาเห็นว่าแบรนด์สามารถทำให้พวกเขายอดเยี่ยมได้อย่างไร และแบรนด์จะมีส่วนร่วมในความฝันอย่างไร
4. GEN ที่เริ่มออมเงินเร็วที่สุด แต่ก็ใช้จ่ายเงินไปกับการลงทุนเร็วที่สุดเช่นกัน
Gen Zเป็น Gen ให้ความสำคัญกับการเริ่มออมเงินเพื่ออนาคต
โดย 94% ของ Gen Zมองว่าการออมเงินอย่างชาญฉลาดสำคัญกว่าการที่ได้รายรับมากๆ
90% มีความเชื่อว่าถ้าวางแผนตั้งแต่วันนี้พวกเขาจะประสบความสำเร็จมากกว่ารุ่นพ่อแม่
คน Gen Z ต้องมีอนาคตสดใสกว่ารุ่นพ่อแม่
จีน 94%
อินโดนีเซีย 91%
ไทย 90%
เวียดนาม 84%
ฟิลิปปินส์ 78%
สิงคโปร์ 74%
ฮ่องกง 71%
ไต้หวัน 60%
ญี่ปุ่น 28%
ผลสำรวจยังบอกกับเราว่าอีกว่าคนไทยกลุ่ม Gen Zยังมีความคิดที่จะเริ่มการวางแผนชีวิตอย่างรวดเร็วเพื่อพัฒนาชีวิตให้ดีขึ้น โดยในสังคมเพื่อนๆ ของพวกเขามีการเริ่มลงทุน และสร้างรายได้ให้ตัวเอง
โดย Gen Zไทย 65% มีการเริ่มออมเงิน และ 74% มีการวางแผนลงทุนกับหุ้นและผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่นๆ
และ 93% ต้องการศึกษาความรู้ทางการเงินมากยิ่งขึ้นจากความคิดที่ว่าข้อมูลที่พวกเขามีอยู่ไม่พอ
ข้อคิดสำหรับแบรนด์
การสื่อสารด้านการเงินเป็นโอกาสของแบรนด์ เพราะไม่ค่อยมีแบรนด์พูดถึงเรื่องการเงินกับเด็กรุ่นนี้
แบรนด์ต่างๆ ที่ไม่จำเป็นต้องเป็นแบรนด์ธนาคาร หรือสถาบันการเงินสามารถสร้างคอนเทนต์ที่ช่วยให้ความรู้เกี่ยวกับการเงิน การออมในอนาคตเพื่อตอบโจทย์ความรู้ด้านการเงินของ Gen Z ได้เช่นกัน
5. ให้ความสำคัญทั้งสุขภาพกายทั้งภายในและภายนอก และสุขภาพใจ
Gen Zเป็น Gen ที่จริงจังในการหาทางเลือกที่ดีที่สุด และมีการลงทุนเรื่องของอาหารมากขึ้นเพื่อเสริมสร้างสุขภาพที่ดี
จากการสำรวจพบกว่า 83% ของ Gen Z ให้ความสนใจกับฉลากอาหาร (APAC อยู่ที่ 70%)
80% ใส่ใจสิ่งที่พวกเขากินอย่างใกล้ชิด (APAC อยู่ที่ 67%)
73% พยายามกินเฉพาะอาหารออร์แกนิกและอาหารที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ (APAC อยู่ที่ 60%)
นอกจากเรื่องของการกินอาหารแล้ว คนกลุ่มนี้ก็ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพผิว เพราะพวกเขามองว่าสุขภาพที่ดีจะต้องดีทั้งภายในและภายนอก เพราะ 84% ของ Gen Z ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพผิวอยู่เป็นประจำ (APAC อยู่ที่ 68%)
นอกเหนือจากการดูแลสุขภาพกายทั้งภายในและภายนอกแล้ว สุขภาพใจก็เป็นอีกส่วนที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก เนื่องจากความเครียดและความกดดันจากการแข่งขันในโรงเรียนหรือที่ทำงาน อาจทำให้พวกเขามีปัญหาทางจิตใจได้
โดย 92% ของ Gen Z ให้ความสำคัญในการดูแลสุขภาพจิตมากเท่าๆ กับการดูแลสุขภาพกายของพวกเขา
ข้อคิดสำหรับแบรนด์
แบรนด์ที่เกี่ยวกับสุขภาพและความงาม นอกเหนือจากสุขภาพกายแล้ว แบรนด์ต่างๆ เหล่านี้สามารถสร้างประโยชน์ทางอารมณ์อื่นๆ ที่จะนำไปสู่การสร้างสุขภาพจิตที่ดีขึ้น
รวมถึงการหาคุณประโยชน์ด้านสุขภาพที่มีอยู่ในสินค้าโปรโมตไปยังกลุ่มGen Z เพื่อเป็นทางเลือกอีกทางหนึ่งให้กับพวกเขา
6. ต้องมีซิกเนเจอร์และรสนิยมที่ดี
Gen Z เป็น Gen ที่ต้องการการยอมรับว่าเป็นคนที่มีรสนิยมที่ดีและเมื่อพวกเขาซื้อสินค้ายังไม่ชอบที่จะจ่ายเงินสดอีกด้วย
อ้างอิงจากรายงานพบกว่า
64% ให้ความสำคัญกับสิ่งของหรูหราหรือสิ่งของที่มาจากดีไซเนอร์ชื่อดัง
66% ถูกมองว่าไม่เท่เมื่อไม่ได้ใช้อุปกรณ์ดิจิทัลอย่างโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ล่าสุด
83% มองหาสินค้าหรูในราคาถูกที่สุดเมื่อจะซื้อ
83% จะหาสินค้าที่มีขายที่หน้าร้านเพื่อให้ได้ทดลองและสัมผัสสินค้าจริงก่อน และซื้อผ่านทางออนไลน์เพื่อให้ได้ราคาที่ถูกกว่า
86% ชอบที่จะจ่ายเงินผ่าน e-Money และ Mobile Banking ทั้งการซื้อผ่านช่องทางออนไลน์และออฟไลน์
84% ชอบที่จะจ่ายเงินโดยใช้กระเป๋าสตางค์ดิจิทัลมากกว่าการใช้จ่ายวิธีอื่น
ข้อคิดสำหรับแบรนด์
แบรนด์ไม่ควรให้ความสำคัญกับเรื่องราคาเพียงอย่างเดียว แต่ควรสร้างประสบการณ์การซื้อที่ดี และเน้นไปที่ value ของสิ่งที่เขาจะได้รับในการซื้อสินค้าจากแบรนด์ด้วย และมีภาพลักษณ์ที่ดีเพื่อบอกถึงรสนิยมของ Gen Z ที่จะพรีเซ็นต์บอกคนอื่น
และสำหรับร้านค้าการมี QR Code รับชำระผ่านช่องทางออนไลน์สามารถปิดการขายได้เร็วขึ้น
7. ไม่ได้มองว่าคนดังเป็นฮีโร่ แต่จะมองคนในครอบครัวเป็นฮีโร่
Gen Z ในประเทศไทยไม่ได้เห็นกลุ่มคนดัง หรือ Influencer เป็นฮีโร่ แต่ 60% ของคนกลุ่มนี้รู้สึกว่าสมาชิกในครอบครัวเป็นฮีโร่
และมีเพียง 19% ที่คนดังเป็นฮีโร่ และ 16% มองอินฟลูเอนเซอร์ในสื่อสังคมออนไลน์เป็นฮีโร่
การรับฟังความคิดเห็นในด้านต่างๆ ของ Gen Zจะมีความแตกต่างกันไปตามเรื่องที่สนใจ โดย
41% รับฟังความเห็นจากผู้ปกครองมากที่สุดเมื่อพูดถึงเรื่องเกี่ยวกับการเงิน
35% ฟังความคิดเห็นของผู้ปกครองเรื่องเกี่ยวกับสุขภาพ
นอกจากนี้ Gen Z ยังให้ความสำคัญกับการอ่านรีวิวและความเห็นต่างๆ จากผู้ที่มีความรู้ในเรื่องนั้นโดยเฉพาะ ยกตัวอย่างเช่น
สินค้าเทคโนโลยี
37% พวกเขาจะเชื่อการรีวิวสินค้า
39% รับฟังข้อมูลที่ทางแบรนด์ให้
33%เชื่ออินฟลูเอนเซอร์ในสื่อสังคมออนไลน์อื่นๆ
เรื่องเกี่ยวกับความบันเทิง
33% เชื่อคนดัง
30% เชื่อการรับรองจาก Influencer
ข้อคิดสำหรับแบรนด์
แบรนด์จะต้องเลือกใช้ผู้มีอิทธิพลทางความคิดให้เหมาะกับความต้องการที่แตกต่างกันออกไปของ คน Gen Z
และที่สำคัญแบรนด์ต้องนำเสนอสิ่งที่เป็นประโยชน์ที่จะช่วยให้คำแนะนำกับคนกลุ่มนี้ได้ ไม่ใช่เพียงแต่ขายอย่างเดียว เพราะการสื่อสารกับ Gen Z Brand Awareness อย่างเดียวไม่เพียงพออีกต่อไปให้เลือกซื้อของแต่จะต้องมี Influencer ในการขับเคลื่อนการตัดสินใจซื้อ ใน Category ที่แตกต่างกัน
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /
