ไทบ้าน ทำไมฮอต ? ถอดรหัสความสำเร็จของกลุ่มอีสานบ้านๆ ที่ร้อนแรงขึ้นทุกวัน (วิเคราะห์)

เอิ้นอีหยังบ่ฮู้ แต่จังหวะถืกใจ

ซวนกันไปแมะสู

สิยืนอยู่เฮ็ดอีหยัง

ชาดีดาดีดาดีดา ดีดาดีดาดีดาดีดา

ดีดาดีดาดีดาดีดา ดีด่า ด๋า ดา

ชาดีดาดีดา ด้า ชาดีดา ดีดา

ชาดีดาดีดา ด้า ดา ด๋า ดา

ภาพสาวๆ BNK48 ร่วมกับ ไทบ้านร้องเพลงสไตล์อีสาน เป็นหนึ่งในสีสันของไทบ้านที่ทำให้คนรู้จักมากขึ้น

เพราะเมื่อพูดถึงไทบ้าน เชื่อว่าในวันนี้ใคร ๆ คงรู้จักดี ในฐานะกลุ่มศิลปินอีสานรุ่นใหม่ที่ร่วมงานกับ BNK48 ผ่านซิงเกิล โดดดิดง และภาพยนตร์ไทย ไทบ้าน X BNK48 จากใจผู้สาวคนนี้

แต่ความสำเร็จของ ไทบ้าน มีมากกว่านั้น

โดยเฉพาะความสำเร็จแรกที่เป็นต้นกำเนิดไทบ้าน ที่มาจาก Passion ในการทำภาพยนตร์ของสี่หนุ่มชาวศรีสะเกษ สุรศักดิ์ ป้องศร, อวิรุทธ์ อรรคบุตร, บุญโชค ศรีคำ และ ศุภณัฐ นามวงศ์ ที่ต้องการทำซีรีส์อีสานเรื่องแรกของไทยที่ออกฉายในโรงภาพยนตร์

โดยซีรีส์เรื่องนั้นเป็นการนำเสนอวิถีวัยรุ่นอีสาน และที่สำคัญต้องเป็นซีรีส์ที่พูดอีสานทั้งเรื่อง และนำแสดงโดยชาวอีสานตัวจริง

ในช่วงเวลาของการเริ่มต้นภาพยนตร์ในความคิดของสี่หนุ่ม มีทั้งความท้าทายที่เป็นแรงขับเคลื่อนสู่ความสำเร็จที่น่าสนใจ

โดยเฉพาะเรื่องเงินทุนในการสร้างภาพยนตร์เรื่องแรกของพวกเขาที่มีเพียง 2 ล้านบาท จากสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ที่เป็นนายทุนหลัก

เงิน 2 ล้านบาทในวงการผู้สร้างหนังถือว่าเป็นเม็ดเงินที่ไม่สามารถทำอะไรได้มากนัก แต่พวกเขาก็สามารถนำเงินเหล่านี้มาพัฒนาเป็นภาพยนตร์เรื่องไทบ้านเดอะซีรีส์ เรื่องแรกออกฉายในโรงภาพยนตร์ท้องถิ่นในอีสาน

เพราะความเป็นภาพยนตร์ที่สื่อถึงความเป็นอีสานปัจจุบัน ที่มีความสดใหม่ มาพร้อมกับสำเนียงอีสานที่ทำให้รู้สึกฟังแล้วรื่นหู รู้สึกถึงความเป็นภาพยนตร์ของคนบ้านเดียวกัน

ทำให้ภาพยนตร์ไทบ้านเดอะซีรีส์ ถูกพูดถึงและแนะนำปากต่อปาก จนภาพยนตร์เรื่องนี้ค่อย ๆ ขยายช่องทางการฉายไปในโรงภาพยนตร์ที่เพิ่มขึ้น และเข้ามาฉายในกรุงเทพฯ ผ่านโรงภาพยนตร์เชนในที่สุด

และการเข้ามาฉายในโรงภาพยนตร์ในกรุงเทพฯ ทำให้ไทบ้านเดอะซีรีส์ เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น

วิธีการสร้างการเติบโตและรู้จักของภาพยนตร์ไทบ้านถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ป่าล้อมเมือง ผ่านปากต่อป่าที่ประสบความสำเร็จอย่างน่าสนใจ ที่แบรนด์ต่าง ๆ สามารถนำไปปรับใช้ในการทำตลาดได้เป็นอย่างดี

เพราะอย่างน้อยการเริ่มจากจุดเล็ก ๆ ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก คือคนอีสานก่อน เพื่อค่อยๆ ทดลองตลาด การตอบรับ ก่อนที่จะขยายไปในวงกว้างถือเป็นหนึ่งในแนวทางการทำธุรกิจที่เป็นทางเลือกที่น่าสนใจของการตลาดที่มีงบประมาณจำกัด เพราะถ้าผู้บริโภคประทับใจในสินค้า หรือคอนเทนต์ที่นำเสนอ พวกเขาจะเป็นเครื่องมือในการประชาสัมพันธ์ชั้นดีในการบอกปากต่อปากไปยังเพื่อนฝูง คนรู้จัก หรือแม้แต่ในโลกโซเชียลที่เป็นช่องทางในการกระจายความรับรู้อย่างรวดเร็ว

และการบอกปากต่อปาก จากเพื่อนสู่เพื่อน ผู้บริโภคสู่ผู้บริโภค ยังเป็นเครื่องมือสำคัญที่เป็นกระบอกเสียงสร้างความเชื่อถือมากกว่าการที่แบรนด์ หรือเจ้าของคอนเทนต์ออกมาพูดด้วยตัวเอง

หลังจากที่ไทบ้านเดอะซีรีส์ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และสามารถพาตัวเองสู่โรงภาพยนตร์ในกรุงเทพฯ ได้ ไทบ้านเดอะซีรีส์ถือกำเนิดไทบ้านเดอะซีรีส์ 2.1 และไทบ้านเดอะซีรีส์ 2.2 เข้ามาต่อยอดความสำเร็จจากภาคแรก

พร้อกับจับมือ BNK48 ทำภาพยนตร์ไทบ้าน X BNK48 จากใจผู้สาวคนนี้ และเพลงโดดดิดง เพื่อสร้างสีสันและเป็นการขยายฐานแฟนคลับไปในตัว

เพราะกลยุทธ์ในการจับมือร่วมกับพาร์ตเนอร์เป็นกลยุทธ์ในการขยายฐานลูกค้าที่นักการตลาดยุคใหม่นิยมใช้เพื่อขยายฐานลูกค้าและรายได้ใหม่ ๆ ไปยังฐานลูกค้าของแบรนด์พาร์ตเนอร์

เช่น การที่ไทบ้านจับมือกับ BNK48 เป็นการขยายฐานแฟนคลับไทบ้านไปยังกลุ่มคนที่เป็นแฟนคลับ BNK48 ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความเป็นคนเมืองและมีความหลากหลายด้านช่วงอายุ

ส่วน BNK48 ถือเป็นการขยายแฟนคลับไปยังกลุ่มคนอีสาน ซึ่งถือเป็นประชากรกลุ่มใหญ่ที่สุดของประเทศที่กระจายตัวอยู่ทั่วประเทศไทย

นอกจากการร่วมมือกับ BNK48 แล้ว ผู้ก่อตั้งไทบ้านเดอะซีรีส์ยังมีการขยายภาพยนตร์ในเครือไทบ้าน สู่เรื่องอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ไทบ้านเดอะซีรีส์ เช่น ในปีนี้มีการเปิดภาพยนตร์เรื่อง รักหนูมั้ย, หมอปลาวาฬ และสัปเหร่อ เป็นต้น

รวมถึงสร้างฐานแฟนคลับและไปยังธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ธุรกิจเพลง และรับผลิตคอนเทนต์อื่น ๆ รวมถึงการจัดงานมิวสิก เฟสติวัล ไทบ้านแลนด์

โดยปัจจุบันกลุ่มไทบ้านมีการสร้างรายได้จาก 2 บริษัทที่สำคัญ คือ เซิ้ง โปรดักชั่น แอนด์ ออร์แกไนเซอร์ ผู้ผลิตภาพยนตร์ไทบ้าน และภาพยนตร์อื่น ๆ ในเครือไทบ้าน พร้อมรับทำโปรดักชั่น ผลิตสื่อ ผลิตภาพยนตร์ งานอีเวนต์ งานค่ายกิจกรรม งานเพลง งานโฆษณา ให้กับหน่วยงาน และองค์กรต่าง ๆ

และบริษัทเซิ้ง มิวสิค บริษัทที่เป็นค่ายเพลง

โดยในปี 2561 มีรายได้จากเซิ้ง โปรดักชั่น แอนด์ ออร์แกไนเซอร์ 20.37 ล้านบาท และรายได้จากเซิ้ง มิวสิค 2.63 ล้านบาท

ส่วนปี 2562 Marketeer เชื่อว่ามีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดอย่างแน่นอนจากความสำเร็จรอบด้านที่เกิดขึ้น

 

รายได้เซิ้ง โปรดักชั่น แอนด์ ออร์แกไนเซอร์

2560       2.76 ล้านบาท ขาดทุน 2.01 หมื่นบาท

2561       20.37 ล้านบาท กำไร 2.63 ล้านบาท

 

รายได้ เซิ้ง มิวสิค

2561       2.36 ล้านบาท  ขาดทุน 1.92 แสนบาท

ที่มา: กระทรวงพาณิชย์

 

ถ้ามาร์เวลมีจักรวาลเป็นของตัวเอง แล้วทำไมไทบ้านจะมีจักรวาลของตัวเองไม่ได้ เพราะไทบ้านคืออาณาจักรซีรีส์แห่งอีสานที่คนไทยให้การยอมรับ

อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ 
Website : Marketeeronline.co / Facebook : www.facebook.com/marketeeronline



ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ

.
Marketeer ฉบับดิจิทัล : อ่านบน Ookbee / อ่านบน meb
.
Marketeer ฉบับ PDF : https://marketeermagazine.com/
.
Marketeer ฉบับกระดาษ : สั่งซื้อทางไปรษณีย์ Inbox มาที่ เพจ Marketeer Online