คอนโดแสนสิริ ทำไมจึงเป็น Top of Mind ของผู้ที่อยากจะมีคอนโดไว้ในครอบครอง (วิเคราะห์)
หากนึกถึงที่อยู่อาศัยที่มีทั้งดีไซน์ คุณภาพ ทำเล และบริการหลังการขายอยู่ในระดับดีเยี่ยม เชื่อว่าหลายคนคงต้องจัดชื่อ ‘แสนสิริ’ อยู่ในอันดับต้น ๆ ของลิสต์แน่นอน
ยืนยันประโยคข้างต้นด้วยผลสำรวจจาก Marketeer Research ร่วมกับบริษัท Kadence International (Thailand) พบว่า บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ได้รับรางวัล No.1 Brand Thailand ปี 2019-2020 แบรนด์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในหมวดธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโดมิเนียม
ไม่ใช่แค่เพราะเป็นแบรนด์ที่อยู่กับคนไทยมานาน ไม่ใช่แค่เพราะมีพอร์ตครบทั้งบ้าน คอนโด หรือทาวน์โฮม ไม่ใช่แค่เพราะมีรายได้มากที่สุด แต่การเป็นแบรนด์ที่อยู่ในใจได้ ต้องมีอะไรมากกว่านั้น
Product ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยครบทุกรายละเอียด
อุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวกับ Marketeer ว่า “ตลอดระยะเวลากว่า 36 ปีที่ผ่านมา แสนสิริดำเนินธุรกิจด้วยความเข้าใจ Customer Insights ตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้
“นี่คือความแตกต่างที่แข็งแกร่งของแบรนด์แสนสิริ และได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามายาวนาน เพราะไม่เพียงแต่สร้างสรรค์สินค้าที่ตอบโจทย์ เรายังเดินหน้าส่งต่อการดูแลลูกค้าที่ครอบคลุมตั้งแต่ก้าวแรกไปตลอดช่วงการอยู่อาศัย เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี ตลอดจนไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต”
เมื่อขยายคำพูดคุณอุทัยทีละส่วนจะเห็นว่าทั้งหมดนี้คือองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้คอนโดมิเนียมของแสนสิริคือ Product ที่ใคร ๆ ก็อยากครอบครอง


Location: คอนโดมิเนียมทุกโครงการของแสนสิริ ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพ ทั้งรถไฟฟ้า ห้างสรรพสินค้า ย่าน CBD หรือ Community ตลอดจนสถานศึกษา


Design: การออกแบบพื้นที่อยู่อาศัยและพื้นที่ส่วนกลางของโครงการต่าง ๆ ครอบคลุมทั้งฟังก์ชันและดีไซน์ที่สวยงาม ตอบโจทย์การใช้งานได้ในทุกวัน โดยทุกส่วนสอดรับกับไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย อย่างสนามกีฬาไฮบริดที่ปรับเปลี่ยนการใช้งานได้, Co-Creation ที่ให้ลูกบ้านสามารถ Work Anywhere-Anytime, Co-Kitchen, Educational Playground ที่ออกแบบโดยผู้เชี่ยวชาญจาก รพ. สมิติเวช หรือ Fitness ที่มีอุปกรณ์ออกกำลังกายครบครัน ตลอดจนโครงการ Sansiri Backyard ที่ต่อยอดแนวคิดจากสวนหลังบ้านสู่ที่พักอาศัย


Innovation: แสนสิริคือโครงการแรก ๆ ที่นำเทคโนโลยีอย่าง AI, IoT, Wearable และ Robot มาใช้สร้างนวัตกรรมเพื่อการใช้ชีวิตที่สะดวกขึ้นสำหรับลูกบ้านแสนสิริ อย่างเร็ว ๆ นี้จะมีการพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ใน Home Service Application เช่น ฟีเจอร์ E-Stamp เพื่อให้ลูกบ้านสามารถลงทะเบียนผู้มาติดต่อล่วงหน้า และสามารถติดต่อเข้าโครงการได้แบบไร้สัมผัส (Touchless) ตอบโจทย์ความปลอดภัยทั้งในด้านกายภาพและสุขอนามัย


Service: ล่าสุดแสนสิริจับมือ พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ยกระดับ Sansiri Service สู่การดูแลลูกบ้านในรูปแบบ Total Living Solution เริ่มจาก Home Financial Planner ที่ปรึกษาทางการเงินเพื่อคนซื้อบ้าน ดูแลให้คุณกู้ง่าย ได้บ้าน, Sansiri Security System ดูแลความปลอดภัย และ Living Management & Sansiri Living Care ที่ดูแลตลอดการอยู่อาศัย
ยกตัวอย่าง Sansiri Home Care Card แพ็กเกจต่อประกันบ้านหลังหมดประกันแบบรายปี หรือ LIV–24 ศูนย์สังเกตการณ์ระบบรักษาความปลอดภัยและบริหารจัดการระบบวิศวกรรมโครงการ แบบเรียลไทม์ 24 ชั่วโมง หรือ Sansiri Home Service Application (HSA) แอปพลิเคชันเติมเต็มไลฟ์สไตล์อย่างไร้ขีดจำกัด สะดวกครบทุกเรื่องการใช้ชีวิต
People Strategy ความสำเร็จอย่างยั่งยืนเริ่มต้นจากคนในองค์กร
ก่อนที่จะเป็นคอนโดมิเนียมที่ตอบโจทย์และถูกใจลูกค้า คุณอุทัยกล่าวว่า ทุกอย่างล้วนมาจากพนักงานแสนสิริทุกคน
“อย่าลืมว่าการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ คือการปั้นดินให้เป็นดาว เริ่มจากไม่มีอะไรสู่ที่อยู่อาศัยหนึ่งโครงการ ทุกขั้นตอนทุกกระบวนการถูกพัฒนาโดยพนักงานของแสนสิริ ความเข้าใจ Customer Insights มันอยู่ใน DNA ของพนักงานทุกคน ฝ่ายพัฒนาที่ดินก็ต้องซื้อที่ดินทำเลที่ดีที่สุด ฝ่ายพัฒนาสินค้าก็ต้องคิดว่าจะทำอย่างไรให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้อยู่อาศัยแต่ละกลุ่มเป้าหมายให้มากที่สุด เราต้องส่งมอบสินค้าที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า ตลอดจนฝ่ายบริการที่ต้องรับฟัง แก้ปัญหา ทำทุกอย่างที่ Commit กับลูกค้า
“เราจึงมีการพัฒนาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้เขาคิด แก้ปัญหา ตอบโจทย์ จะเห็นว่าแสนสิริมีการปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงานในองค์กรอยู่ตลอด อย่างเมื่อต้นปีมีการสร้าง Ecosystem ที่สมดุลและวัฒนธรรมของการทำงาน โดยบาลานซ์เรื่องการทำงานและไลฟ์สไตล์ของพนักงานไปพร้อมกับความสุข ความสนุกในการทำงาน ผ่าน 2 แนวคิด New Way of Work และ New Way of Life เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ 3 ด้านในการทำงานรูปแบบใหม่ คือ Efficiency ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ Creativity ความคิดสร้างสรรค์ในการทำงาน และสุดท้ายสะท้อนออกมาเป็น Productivity ผลลัพธ์จากการทำงานที่ดีที่สุดเพื่อส่งมอบโครงการคุณภาพและบริการที่ดีเยี่ยมแก่ลูกค้า”
Speed to Market ต่อยอดความสำเร็จสู่ยอดโอนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ครึ่งปีทะลุ 25,220 ล้านบาท
สิ่งที่ยืนยันเรื่องความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนการทำงานที่คุณอุทัยกล่าวในข้างต้นได้ดีที่สุด คือ
ครึ่งปีแรกแสนสิริมียอดโอนสูงถึง 25,220 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากกลยุทธ์ Speed to Market
“ในช่วงวิกฤตที่ผ่านมา ทุกธุรกิจทุกแบรนด์จำเป็นต้องหยุดกิจกรรมทำหมดเพื่อรอดูสถานการณ์ แต่สำหรับแสนสิริเราเร่งปรับแผนให้เร็วยิ่งขึ้นกว่าเดิม Speed to Market มากขึ้น ปรับการทำงานให้เร็วขึ้น รุกขึ้น สร้างยอดขายเพื่อสร้างรายได้ และ Cash Flow ให้มากที่สุด จะเห็นว่าในช่วงวิกฤตเราขายของจนสามารถสร้างยอดขายและยอดโอนครึ่งปีแรกสูงสุด 22,000 และ 25,220 ล้านบาทตามลำดับ เรียกว่าเราค่อนข้างประสบความสำเร็จในแง่ของยอดขายท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจจะไม่ดีก็ตาม”
แม้วันนี้ คอนโดแสนสิริ จะก้าวสู่การเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในใจผู้บริโภคแล้ว แต่คุณอุทัยกล่าวย้ำว่า แสนสิริจะยังคงเดินหน้าสร้างความแข็งแกร่งต่อไป ภายใต้ยุทธศาสตร์ ‘Made for Life…Made for Everyone’ เพื่อสร้างภาพแบรนด์ที่จับต้องง่ายขึ้น และเป็น ‘แบรนด์ที่ทุกคนเข้าถึงได้’ รวมทั้งมุ่งมั่นมอบไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยที่มากกว่า เพื่อชีวิตดีดี ของทุกคน
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ Website: Marketeeronline.co
Facebook: www.facebook.com/marketeeronline



