SME Think Tank/ดร. เกษม พิพัฒน์เสรีธรรม

แม้ว่าขณะที่เขียนบทความตอนนี้ (28 มิ.ย. 2563) ประเทศไทยจะไม่มีผู้ป่วยรายใหม่ในประเทศจากโรคระบาด COVID 19 มา 33 วันแล้ว และที่ดียิ่งไปกว่านั้น เราไม่มีคนตายเพิ่มมาหลายวันแล้ว ต้องชื่นชมความสามารถของบุคลากรทางการแพทย์ สาธารณสุข รัฐบาล และความร่วมมือร่วมใจของเราชาวไทยทุกคนที่ร่วมมือกันปฏิบัติตามกฎ กติกา และคำแนะนำของทีมแพทย์ จนประเทศไทยเราได้รับการยอมรับและเชื่อถือในระบบสาธารณสุขและการแพทย์ เรื่องนี้จะมีส่วนสำคัญในการผลักดันประเทศไทยให้เป็นประเทศที่น่ามาเที่ยวน่ามาลงทุน

แต่อย่างที่เตือนกันติดปากว่า “การ์ดอย่าตก” เพราะเจ้าโรค COVID-19 ยังคงอยู่บนโลกนี้ไปอีกนานจนกว่าจะมีวัคซีนมาป้องกันการระบาด องค์การอนามัยโลก (WHO) บอกว่ากว่าวัคซีนจะมีพอใช้ภายในสิ้นปีหน้า

หลายประเทศ รวมทั้งประเทศไทยเราต่างเร่งศึกษาและพยายามผลิตวัคซีนแต่คงไม่เร็วว่าสิ้นปีนี้หรือต้นปีหน้า

เราจำใจต้องอยู่กับเจ้า COVID-19 ไปอีกนานพอสมควร เลยมีเรื่องชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) หลายเรื่องที่เราต้องทำและยอมรับ เช่น การสวมหน้ากาก (เข้าหากัน) การอยู่กันห่าง ๆ กัน ฯลฯ

ผมว่า มันอาจจะไม่ใช่เรื่อง New Normal อีกต่อไป หากเราต้องเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมแบบนี้กันไปนานพอที่จะเคยชินกับมัน และมันก็จะไม่เป็นเรื่องปกติอีกต่อไป Never Normal

การปิดประเทศ ปิดเมือง ปิดธุรกิจ กันนานทำให้เศรษฐกิจซบเซา และธุรกิจหลายรายไปต่อไม่ไหวแม้รัฐบาลจะมีมาตรการเยียวยา และโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ทยอยกันออกมาช่วยเหลือ และสถานการณ์การระบาดของโรคนี้ดีขึ้นในหลายประเทศรวมทั้งบ้านเรา

สำหรับธุรกิจขนาด SME ที่ประคองตัวอยู่รอดมาจนถึงวันนี้ต้องนับว่าท่านเยี่ยมยอดพอสมควรและถึงเวลาที่ต้องคิดและเตรียมการเพื่อไปต่อครับ

ผมเชื่อว่าท่านที่สามารถประคองธุรกิจให้อยู่รอดมาได้ 3-4 เดือนนี้เพราะท่านสามารถปรับตัวและธุรกิจมีความยืดหยุ่นพอสมควร

การทำธุรกิจต่อจากนี้จะไม่มีทางเหมือนปกติเดิม ๆ มันจะ Never Normal

เพราะฉะนั้นไม่ใช่ปรับธุรกิจรับ New Normal แต่ในหลาย ๆ เรื่องมันจะ Never Normal ท่านต้องคาดการณ์ คิดล่วงหน้าและปรับตัว

ผมเชื่อว่าท่านต้องปรับตัวปรับธุรกิจในเรื่องเหล่านี้

1. บุคลากร

เจ้า COVID-19 ทำให้คนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับเรื่องสุขอนามัย และเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ตระหนักถึงภัยคุกคามจากโรคระบาดซึ่งยังคงมีมาอีกในอนาคต เพราะฉะนั้นในการทำธุรกิจท่านต้องให้ความสำคัญกับสุขภาพความปลอดภัยของพนักงาน มีงบประมาณสำหรับเรื่องนี้ พร้อมปรับนโยบายและระเบียบการทำงานให้เหมาะกับกฎหมาย กติกาสังคมที่เปลี่ยนไป ท่านควรมีแผนงานที่พร้อมรองรับเหตุการณ์ฉุกเฉินที่อาจจะเกิดขึ้นอีกจากภัยคุกคามของโรคระบาด เช่น แผนอพยพพนักงาน แผนปรับการทำงานที่บ้านที่บริษัท ท่านต้องปรับเพิ่มการใช้เทคโนโลยีให้เหมาะสม ไม่ควรมีพนักงานมากเกินไป เรื่องที่สำคัญคือประสิทธิภาพ ประสิทธิผลการทำงานและการให้พนักงานมีส่วนร่วม มีความคิดว่ามีส่วนเป็นเจ้าของกิจการ มีส่วนได้เสีย สามารถออกความเห็นได้ เรื่องที่พนักงานจะให้ความสำคัญมากขึ้นคือเรื่องความสมดุลของการทำงานและการใช้ชีวิต (work-life balance) เพราะฉะนั้นต้องไม่ใช้พนักงานทำงานมากเกินไปแม้ว่าท่านคิดว่าท่านจ่ายให้เขาพอ เพราะเขาไม่ต้องการ ธุรกิจควรมีขนาดพอดี คล่องตัว ไม่มีพนักงานมากเกินไป

2. การเงิน

สถานการณ์ปัจจุบันที่ธุรกิจถูกปิด ทำให้การผลิตลดลง ปัจจัยการผลิตขาดแคลน ความต้องการของลูกค้าลดลง การจ่ายชำระหนี้ช้าลงหรือไม่จ่าย ขายได้น้อย สินค้าคงคลังมาก ภาระแบบนี้ทำให้หลายธุรกิจเกิดปัญหาทางการเงิน ขาดสภาพคล่อง เงินหมุนเวียนไม่พอ เพราะฉะนั้นบทเรียนนี้ทำให้ท่านต้องพิจารณาว่าท่านควรมีสภาพคล่องเท่าไร กระแสเงินสดเท่าไร ทั้งในการดำเนินธุรกิจในสถานการณ์ปกติและสถานการณ์คับขัน

ท่านควรมีสภาพคล่องอย่างน้อยที่สุด 3 เดือนเพียงพอสำหรับการทำธุรกิจในสถานการณ์เลวร้ายคือไม่มีรายได้เข้ามาเลยมีแต่รายจ่าย

ท่านควรพิจารณาแหล่งเงินทุนหรือเงินกู้สำรองในกรณีจำเป็นต้องใช้ ทั้งจากการช่วยเหลือของรัฐบาล ธนาคาร หรือแม้แต่คู่ค้า เพื่อนและเครือข่ายธุรกิจ

ท่านต้องเตรียมแผนงานว่าในกรณีที่จำเป็นต้องมีกระแสเงินสด (cash flow) ท่านต้องทำอะไรบ้าง เช่น ปริมาณที่เหมาะสมของสินค้าคงคลัง ลูกหนี้/เจ้าหนี้ นโยบายการให้เครดิตการค้า ฯลฯ

เรื่องสำคัญคือต้องมีจำนวนเงินทุนหมุนเวียนเพียงพอกับการทำธุรกิจ พิจารณาว่าขนาดธุรกิจของท่านทั้งในสถานการณ์ดีที่สุดหรือเลวร้ายที่สุด ควรมีเงินทุนหมุนเวียนเท่าไร ถ้าจะขยายธุรกิจต้องใช้เงินทุนหมุนเวียนเท่าไร และจะหาจากที่ไหน อย่างไร

3. ห่วงโซ่ปัจจัยการผลิต (supply chain)

การระบาดของ COVID-19 ทำให้ supply chain ทั่วโลกมีปัญหา การพึ่งพาปัจจัยการผลิตจากแหล่งเดียว ประเทศเดียว อย่างประเทศจีน ทำให้เกิดการขาดแคลนปัจจัยการผลิตในหลายอุตสาหกรรมเมื่อประเทศจำเป็นต้องปิดประเทศ ปิดการผลิต เพื่อหยุด/ควบคุมการระบาดของ COVID-19 แม้ในหลายธุรกิจไม่ประสบปัญหาเช่นนี้ แต่ก็ประสบปัญหาไม่สามารถส่งสินค้าไปขายได้ เพราะประเทศคู่ค้าปิดประเทศ ปิดการขนส่ง การคมนาคมระหว่างกัน รวมทั้งเมื่อประเทศจีนเกิดปัญหา บริษัทเดินเรือสินค้าต่าง ๆ ก็เกิดการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ที่ใช้ในการขนส่งสินค้า

เพราะฉะนั้นท่านต้องหาแหล่งหรือผู้ขายปัจจัยการผลิตมากกว่า 1 ราย มีแหล่งสำรองในกรณีที่จำเป็นต้องใช้แม้ว่าอาจจะมีราคาแพงกว่า หรือทำสัญญาการส่งปัจจัยการผลิตระยะยาว เรื่องแบบนี้ต้องพิจารณาจำนวนสินค้าคงคลังที่เพียงพอเหมาะสมกับการขาย เพราะหากกลัวเรื่องการขาดแคลนปัจจัยการผลิตจนมีสินค้าคงคลังมากเกินไปก็จะทำให้เงินทุนจมและเกิดปัญหาสภาพคล่องทางการเงินได้

ท่านต้องสร้างความยืดหยุ่นและประสิทธิภาพในการทำงาน เช่น อาจจะมีเครือข่ายคู่ค้าที่ท่านสามารถว่าจ้างช่วยผลิตได้ในกรณีจำเป็น หรือมีโรงงานผลิตมากกว่า 1 แหล่งเพื่อกระจายความเสี่ยง

4. ความคล่องตัวในการรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ

ในธุรกิจขนาดเล็กเรื่องแบบนี้เจ้าของธุรกิจต้องทำเองครับ ท่านต้องมีข้อมูลเพียงพอและเปิดรับฟังข้อมูล ความคิดความเห็นของคนในวงการหรือผู้เชี่ยวชาญอยู่เสมอ ท่านจะทำธุรกิจแบบเดิม ๆ ไม่รู้ร้อนรู้หนาว ไม่ได้แล้ว ท่านต้องเตรียมการล่วงหน้าว่าหากความต้องการของลูกค้าลดลง ท่านจะทำอย่างไร ท่านต้องสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและมั่นคงกับลูกค้าโดยเฉพาะรายสำคัญ มีการติดต่อสม่ำเสมอ

ในด้านผู้ขายปัจจัยการผลิตท่านก็ต้องทำเช่นกันเพื่อจะได้ช่วยเหลือเกื้อกูลกันในยามจำเป็น

ที่สำคัญคือการทำธุรกิจต้องมีขนาดเหมาะสม ไม่มีต้นทุนคงที่ ทรัพย์สิน หรือสิ่งที่เปลี่ยนแปลงเป็นเงินสดยากมากเกินไป ทำให้ขาดความคล่องตัวในการปรับตัวรับสถานการณ์ต่างๆ

5. เตรียมพร้อมกับการดำเนินธุรกิจ

ท่านต้องพร้อมที่จะไปต่อในสถานการณ์ที่ COVID-19 จากไป (หวังว่าคงไม่นาน) และโลกมีวัคซีนป้องกันการระบาด ท่านต้องมีความพร้อมในทุกด้านที่จำเป็นในการดำเนินธุรกิจต่อไป แน่นอนครับ หลายเรื่องอาจจะต้องเลิกทำ หลายเรื่องต้องสร้างใหม่ เพราะโลกจะเปลี่ยนไป Never Normal

พฤติกรรมและทัศนคติของลูกค้าเปลี่ยนไป ท่านต้องพิจารณาว่าการปรับรูปแบบการดำเนินธุรกิจ ต้องทำอะไรบ้าง ใช้งบประมาณและเวลาเท่าไร ความพร้อมในการเริ่มธุรกิจใหม่ หรือเดินเครื่องธุรกิจใหม่ ต้องพิจารณาเทคโนโลยีอะไรที่ต้องปรับมาใช้

COVID-19 ทำให้โลกเปลี่ยนไปจริง ๆ และแน่นอน ธุรกิจไม่ว่าจะขนาดไหนก็ต้องเปลี่ยน เทคโนโลยีและดิจิทัลเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่พ้น มันไม่ใช่ Disruption อีกต่อมัน มันเป็นเรื่องต้องทำ

แม้แต่คนสูงวัยยังต้องรู้จักการซื้อสินค้าหรือสั่งอาหารผ่านมือถือ ร้านค้า ร้านอาหารที่ไม่รู้จักปรับตัวปรับการดำเนินธุรกิจรับกระแสดิจิทัล การขายอาหารผ่าน Application ร้านคงต้องปิดกันยาว ๆ จนอาจจะไม่ได้กลับมาอีกเลย

อย่าคิดว่าเรื่องแบบนี้จะเป็นเพียงกระแส New Normal ที่จะหมดไปพร้อมกับการจากไปของเจ้าโรคระบาด COVID 19

การอยู่กับโรคระบาดแบบนี้ยาวนานจนเราต้องยอมรับและเคยชินกับมันจนทำกันเป็นปกติเป็นเรื่องที่จะไม่ใหม่อีกต่อไป

I-


ดร.เกษม พิพัฒน์เสรีธรรม

จบการศึกษา บธบ. (การบัญชี) ม.รามคำแหง, ปริญญาเอก ด้านการตลาด และด้าน E-Learning Methodology MBA (Business Admin.) Tarleton State University, USA, Cer.inComputer System Analysis & Design, UCLA, USA

เคยเป็นผู้บริหารด้านการตลาดและผลิตภัณฑ์ให้กับบริษัทชั้นนำมากมาย อาทิ บริษัท เอฟเอ็มเอ จำกัด, บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวงไทย จำกัด, บริษัท ซีแกรม (ประเทศไทย) จำกัด, IBC, บริษัท อัลลายด์ วอล์กเกอร์ ดิสตริบิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท จาร์ดีน ไวน์ แอนด์ สปิริต (ประเทศไทย) จำกัด

ปัจจุบันเป็นกรรมการผู้จัดการ บริษัท 40 เค แอนด์ พี จำกัด, กรรมการบริหาร บริษัท โพรเพล จำกัด เป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัท และโครงการด้านต่างๆ อีกมาก


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer