Sport Tourism

=

การท่องเที่ยวที่ใช้กีฬาเป็น Magnet หลักเพื่อดึงให้นักท่องเที่ยวเดินทางมายังจุดหมายปลายทาง

เทรนด์รักสุขภาพ หรือกระแสจากโครงการก้าวคนละก้าวของพี่ตูน ทำให้ทุกวันนี้เราจะเห็นงานวิ่งมาราธอนจัดขึ้นแทบทุกสัปดาห์

แต่สังเกตไหมว่าแทบไม่มีงานวิ่งงานไหนของไทย ที่สร้างชื่อเสียงจนสามารถดึงให้ชาวต่างชาติบินข้ามน้ำข้ามทะเลมาเหมือนกับงานวิ่งของต่างประเทศได้ แม้รายการวิ่งนั้นจะมีความเก่าแก่หรือจัดมาหลายปีแล้วก็ตาม

ตรงนี้เองจึงเป็น Point ที่ทำให้ ไมซ์ แอนด์ คอมมูนิเคชั่น (ผู้ที่เคยจัดงานวิ่งระดับประเทศอย่างบางแสนฮาล์ฟมาราธอน) จับมือกับ Sundown รายการวิ่งตอนกลางคืนชื่อดังที่วนไปมาแล้วหลายประเทศ

เพื่อร่วมกันจัดงาน Sundown Marathon Thailand Series ขึ้นในไทยเป็นครั้งแรก โดยหวังจะใช้แบรนด์ของ Sundown ดึงนักท่องเที่ยวแนว Sport Tourism เข้ามาในไทย ที่ไม่ใช่แค่ประโยชน์ในแง่ของการเผยแพร่วัฒนธรรมเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงศักยภาพของนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ที่ รัฐ จิโรจน์วณิชชากร (กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมซ์ แอนด์ คอมมูนิเคชั่น จำกัด) ได้บอกกับ Marketeer ว่า

“นักท่องเที่ยวกลุ่ม Sport Tourism อย่างน้อยที่สุดจะพกเงินมา 20,000-30,000 บาท และอยู่ไม่น้อยกว่า 3 วัน เพื่อให้ร่างกายปรับสภาพและพร้อมลงแข่งขัน ซึ่งพอหลังจากแข่งขันเสร็จส่วนใหญ่ก็จะเลือกพักต่ออีกสัก 1-2 วันเพื่อให้ร่างกายรีแล็กซ์ โดยส่วนมากก็จะมากันเป็น Group ใหญ่ และเลือกพักโรงแรมที่ไม่ต่ำกว่า 3 ดาว

สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่านักท่องเที่ยวกลุ่ม Sport Tourism นั้นมีศักยภาพในการใช้จ่ายเป็นอย่างมาก

โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนจีน ในจำนวนประชากร 1,300-1,400 ล้านคนของเขา 20% หรือกว่า 300 ล้านคนคือคนที่มีความสนใจในการวิ่ง และในเมื่อไทยคือ Destination ที่คนจีนให้ความสนใจอยู่แล้ว นี่จึงยิ่งเป็นโอกาสที่ดีของเรา”-รัฐ จิโรจน์วณิชชากร

ซึ่ง Sport Tourism ในรูปแบบที่เป็น Active หรือการที่นักท่องเที่ยวเข้ามาเป็นนักกีฬาเอง รายได้จากการจำหน่ายบัตรจะไม่มากเท่ากับ Sport Tourism แบบ Passive หรือการซื้อบัตรเข้าชม

ฉะนั้นลำพังรายได้จากการจำหน่ายบัตรแบบ Active เพียงอย่างเดียวนั้นไม่อาจเพียงพอที่ทำให้ผู้จัดอยู่รอดได้ สัดส่วนของรายได้ส่วนใหญ่จึงมาจากสปอนเซอร์เป็นหลัก ยิ่งมีสปอนเซอร์เข้ามามากก็ยิ่งดี เพราะไม่ใช่แค่ในเรื่องของเม็ดเงินสนับสนุนเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการที่จะมีบูธต่าง ๆ มารองรับนักวิ่งได้เพียงพอด้วยเช่นกัน

โดยสำหรับงาน Sundown Marathon ในครั้งนี้ที่สามารถรองรับนักวิ่งได้ประมาณ 4,000 คน รัฐ จิโรจน์วณิชชากร หวังว่าจะมีนักกีฬาที่เป็นต่างชาติเข้าร่วมประมาณ 500 คน และไม่ได้หวังว่าการจัด Sundown Marathon จะได้กำไรอะไรมากมาย เพียงแต่ขอให้ไม่ขาดทุน แต่อยากให้ผู้คนมีการรับรู้แบรนด์ จนนำไปสู่การจัดงานครั้งต่อไปที่จะสามารถสร้างกำไรได้ในอนาคต

ติดตามข่าวสารการตลาดได้ที่ MarketeerTheDaily

 


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer