เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ โชว์ผลงาน 1H/63 กวาดรายได้ 3,836 ล้านบาท เติบโต 43% เทียบปีก่อนหน้า หลังแคมเปญช่วงไตรมาส 2 ประสบผลสำเร็จ กระตุ้นยอดขายและยอดโอนโครงการพร้อมอยู่ต่อเนื่อง สร้างกระแสเงินสดกลับคืนสู่บริษัท ชี้ครึ่งปีหลังมีปัจจัยบวกจากสถานการณ์เศรษฐกิจภาพรวมฟื้นตัว และมีโครงการสร้างเสร็จใหม่ทยอยโอนเพิ่มเติมอีก 3 โครงการ ได้แก่ โครงการมิวนิค สุขุมวิท 23, โครงการมารุ เอกมัย 2 และโครงการมารุ ลาดพร้าว หนุนภาพรวมทั้งปีกวาดรายได้มากกว่าปี 2562 ตามเป้าหมายที่วางไว้ 

นางสาวเพชรลดา พูลวรลักษณ์ กรรมการบริหาร บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ (MJD) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในครึ่งปีแรกของปี 2563 (ม.ค.-มิ.ย.63) บริษัทมีรายได้รวมทุกประเภทธุรกิจอยู่ที่ 3,836 ล้านบาท เติบโตขึ้น 43% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยเป็นรายได้จากยอดโอนกรรมสิทธิ์ในโครงการที่อยู่อาศัยถึง 92% ทั้งกลุ่มโครงการที่เพิ่งก่อสร้างแล้วเสร็จในปีนี้ อาทิ โครงการเมทริส พระราม 9-รามคำแหง โครงการเมทริส ลาดพร้าว และโครงการที่ทยอยโอนอย่างต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน บริษัทมีกำไรสุทธิในช่วงดังกล่าวอยู่ที่ 118 ล้านบาท

“ช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา ถือเป็นช่วงเวลาแห่งความท้าทายของทุกบริษัทที่ต้องเผชิญกับผลกระทบจากสถานการณ์ COVID19 อาทิ ผู้บริโภคไม่สามารถเดินทางไปเยี่ยมชมโครงการด้วยตัวเองได้ ผู้ประกอบการแข่งขันกันอย่างดุเดือดเพื่อระบายสินค้าคงค้าง หรือ Inventory เครือเมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ของเราถือเป็นบริษัทแรก ๆ ที่ปรับตัวอย่างรวดเร็ว พร้อมให้ความสำคัญกับความสามารถในการเข้าถึงโครงการที่อยู่อาศัยของผู้บริโภค และเรื่องการรักษาระดับกระแสเงินสดของบริษัทให้พร้อมรับมือทุกสถานการณ์ จึงมุ่งเข้าถึงลูกค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น และจัดแคมเปญ Secret Deal ทำให้เราสามารถระบายสินค้ากลุ่ม Inventory ออกไปได้อย่างต่อเนื่อง สร้างยอดขายและยอดโอนในกลุ่มโครงการพร้อมอยู่ และยังคงรักษาระดับกระแสเงินสดของบริษัทไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม” นางสาวเพชรลดากล่าว

นางสาวเพชรลดากล่าวอีกว่า สำหรับสถานการณ์ในครึ่งปีหลัง คาดว่าเศรษฐกิจไทยในภาพรวมมีสัญญาณการฟื้นตัวที่ดี เนื่องจากได้มีการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ตั้งแต่ช่วงปลายไตรมาส 2 บรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยก็กลับเข้าสู่สภาวะปกติมากขึ้น โดยเฉพาะในหัวเมืองธุรกิจและหัวเมืองท่องเที่ยวสำคัญ อาทิ กรุงเทพฯ พัทยา หัวหิน ธุรกิจประเภทต่าง ๆ ทยอยกลับมาเปิดให้บริการได้ตามปกติ รวมถึงธุรกิจโรงแรมในเครือเมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ได้แก่ โรงแรมเซ็นทรา บาย เซ็นทารา มาริส รีสอร์ท จอมเทียน โรงแรมมาราเกช หัวหิน รีสอร์ท แอนด์ สปา โรงแรมมาเวน สไตลิสต์ โฮเต็ล กรุงเทพฯ และโรงแรมมาเวน สไตลิสต์ โฮเต็ล หัวหิน ซึ่งปัจจุบันกลับมาเปิดให้บริการได้ตามปกติ พร้อมสร้างรายได้กลับมาสู่เครืออย่างต่อเนื่องตลอดครึ่งปีหลัง

ทั้งนี้ ในครึ่งปีหลังปี 2563 บริษัทจะมีโครงการคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จใหม่พร้อมทยอยโอนกรรมสิทธิ์เพิ่มเติมอีก 3 โครงการ มูลค่ารวมมากกว่า 7,000 ล้านบาท ได้แก่ โครงการมิวนิค สุขุมวิท 23, โครงการมารุ เอกมัย 2 และโครงการมารุ ลาดพร้าว นอกจากนี้ ในช่วงไตรมาส 2/2563 บริษัทยังสามารถปิดการขายโครงการมาร์ค สุขุมวิท และคาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้ทั้งหมดในช่วงครึ่งปีหลัง ขณะเดียวกันโครงการที่สร้างเสร็จในช่วงครึ่งปีแรกทั้งโครงการเมทริส พระราม 9-รามคำแหง และโครงการเมทริส ลาดพร้าว ก็จะยังคงทยอยโอนกรรมสิทธิ์และรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลังเช่นกัน

“กลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายของเครือเมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ คือกลุ่มตลาดระดับลักชัวรี ซึ่งเป็นกลุ่มที่อ่อนไหวต่อสภาวะเศรษฐกิจน้อยกว่า และฟื้นตัวเร็วกว่าเซกเมนต์อื่น ๆ เมื่อประกอบกับความสามารถในการสร้างสรรค์โครงการที่อยู่อาศัยคุณภาพให้แล้วเสร็จได้ตามกำหนด เราจึงมั่นใจว่าจะสามารถสร้างทั้งยอดขายและยอดโอนได้อย่างต่อเนื่องในครึ่งปีหลัง และทำรายได้รวมทั้งปีได้มากกว่าปี 2562 ตามเป้าหมายที่วางไว้” นางสาวเพชรลดากล่าว

สำหรับบริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับลักชัวรี มีธุรกิจหลักในเครืออยู่ 3 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ 1. กลุ่มธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย 2. กลุ่มโครงการอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ และ 3. กลุ่มธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ มีวิสัยทัศน์ในการเติบโตอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างโครงการระดับลักชัวรีที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer