ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และก่อสร้าง หลังโควิด ถึงเวลาต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอด (วิเคราะห์)

อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้างในประเทศไทยจัดได้ว่าเป็นหนึ่งในภาคธุรกิจหลักที่ส่งผลต่อการเติบโตของ GDP ของประเทศไทยเป็นตัวเลขประมาณ 8-9% และยังเป็นอุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลให้มีอัตราการจ้างงานสูงขึ้น ในยุคที่มีความวิตกกังวลในเรื่องเศรษฐกิจ การเฝ้าสังเกตอุตสาหกรรมหลักของประเทศจึงเป็นเรื่องที่พึงกระทำโดยเร่งด่วน โดยเฉพาะธุรกิจในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจก่อสร้างที่เคยได้รับผลกระทบอย่างหนักจากวิกฤตการณ์ฟองสบู่แตกในปี พ.ศ. 2540 ในบทความนี้จะอธิบายถึงโครงสร้างมหภาคของอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้างและมาดูกันว่าการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อธุรกิจในอุตสาหกรรมนี้อย่างไรบ้าง

โครงสร้างพื้นฐานของอุตสาหกรรมก่อสร้าง

ปัจจุบันบริษัทที่ทำการจดทะเบียนบริษัทในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ภายใต้หมวดหมู่ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างมีจำนวนทั้งสิ้น 22 บริษัท มูลค่าตลาดโดยรวมของธุรกิจในกลุ่มนี้อยู่ที่ประมาณ 1 แสนล้านบาท โดยที่บริษัทยักษ์ใหญ่ 5 อันดับ ได้แก่ บริษัท ช. การช่าง ชิโนไทย เอสทีพี แอนด์ ไอ  อิตาเลียนไทย และ ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น มีสัดส่วนทางการตลาดรวมกันถึง 71% ของมูลค่ารวมของตลาดทั้งหมด กลุ่มลูกค้าแบ่งเป็น 2 กลุ่มหลัก ๆ  ดังนี้คือ กลุ่มงานราชการและงานเอกชน ซึ่งมีสัดส่วนอยู่ที่ 55:45  กลุ่มงานราชการหลัก ๆ เป็นงานเกี่ยวกับการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ในขณะที่ส่วนงานเอกชนเป็นการก่อสร้างที่พักอาศัย เช่น คอนโดมิเนียมและบ้านพัก สืบเนื่องจากกฎหมายและข้อบังคับต่าง ๆ จากรัฐบาลทำให้โครงการใหญ่ ๆ หรือที่เรียกว่าเมกะโปรเจกต์ จะถูกประมูลโดยบริษัทขนาดใหญ่เท่านั้น โดยในส่วนของบริษัทรับเหมาก่อสร้างขนาดกลางและเล็กจะได้งานจากกลุ่มงานราชการไปในลักษณะเป็นรับเหมาช่วง หรือเป็น sub contract จากบริษัทใหญ่อีกที

โครงการเมกะโปรเจกต์ต่าง ๆ อาทิ การก่อสร้างรางรถไฟรางคู่เพื่อรองรับโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง โครงการมอเตอร์เวย์ โครงการก่อสร้างเพื่อรองรับการขนส่งทางน้ำและทางอากาศ เป็นโครงการที่ให้ผลตอบแทนจำนวนมหาศาล และยิ่งไปกว่านั้นงานที่เกี่ยวกับโครงการรับเหมาก่อสร้างยังสามารถได้รับประโยชน์จากการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศเพื่อนบ้าน อย่างเช่น ประเทศกัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม ซึ่งบริษัทอสังหาริมทรัพย์ใหญ่ ๆ เหล่านี้ยังได้รับโอกาสเข้าร่วมประมูลงานและก่อสร้างให้กับประเทศเพื่อนบ้านอีกด้วย

อุตสาหกรรมก่อสร้างกับวิกฤตโควิด-19

การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้มีการล็อกดาวน์เกิดขึ้นในหลาย ๆ ประเทศ ส่งผลให้กิจกรรมทางธุรกิจต่าง ๆ ต้องหยุดชะงักลง รวมถึงส่งผลกระทบต่อโครงการก่อสร้างต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโครงการที่เกิดขึ้นก่อนวิกฤต หรือโครงการในอนาคตที่ถูกวางแผนไว้แล้ว เนื่องด้วยการระบาดของเชื้อไวรัสโควิดยังเป็นไปอย่างต่อเนื่อง จำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกก็ยังคงเพิ่มขึ้น บางประเทศถึงขั้นมีการระบาดเป็นระลอกที่สองแล้วอีกด้วย การคาดคะเนถึงระดับความรุนแรงต่อเศรษฐกิจและระยะเวลาในการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ไม่สามารถทำได้ง่ายนัก

ผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 นี้ ทำให้โครงการภาคเอกชนหลาย ๆ โครงการต้องถูกเลื่อนระยะเวลาการก่อสร้างออกไปอย่างไม่มีกำหนด หรือบางโครงการอาจจะถูกยกเลิกไปเลย ซึ่งผลกระทบนี้ยังไม่ส่งผลที่ชัดเจนมากนักในไตรมาสแรกของปี พ.ศ. 2563 อันเนื่องมาจากการที่มียอดรายรับที่ได้ขายหรือถูกจองไปก่อนหน้านี้ รายรับรวมของอุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้างของไตรมาสแรกอยู่ที่ 34,365 ล้านบาท หรือเติบโต 2% จากปี พ.ศ. 2562 ถึงแม้ยอดขายจะไม่แตกต่างจากปีก่อนมากนัก แต่ในส่วนของกำไรนั้นลดลงมากถึง 828 ล้านบาท หรือคิดเป็นการหดตัวของกำไรถึง 74% เมื่อเทียบกับปีก่อน สาเหตุหลักมาจากผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมจากโควิด-19  อาทิ มูลค่าตลาดได้ลดลงอย่างมากเนื่องจากราคาหุ้นในตลาดดิ่งลงอย่างรุนแรงในเดือนมีนาคม-พฤษภาคม การเสียหายจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งผลจากการที่โครงการก่อสร้างจะถูกเลื่อนและยกเลิกไปนั้นจะเริ่มเห็นผลชัดเจนในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ถึงไตรมาสแรกของปีหน้า

กล่าวโดยละเอียดจากผลกระทบของวิกฤตโควิด-19 ต่ออุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้างในครั้งนี้ บริษัทที่ได้รับผลกระทบหนักสุดคือบริษัทขนาดกลางและเล็กที่ไปรับเหมาช่วงต่อมาอีกที ซึ่งอาจส่งผลให้บริษัทเหล่านี้ขาดสภาพคล่องอย่างรุนแรงและทำให้ต้องปิดกิจการลงไปในที่สุด ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อไปยังโครงการที่กำลังดำเนินการก่อสร้างอยู่ ทำให้เกิดความล่าช้าในการก่อสร้าง โครงการต้องแบกรับต้นทุนทั้งด้านค่าแรง ดอกเบี้ยเงินกู้ และขาดความสามารถที่จะชำระหนี้ในที่สุด ซึ่งโดยส่วนมากแล้วบริษัทรับเหมาก่อสร้างมักจะมีโครงสร้างของเงินทุนที่มาจากการกู้เงินเป็นส่วนใหญ่

ในประเทศสหรัฐอเมริกา นายเคน ซิมอนซัน Chief economist ของ AGC ได้ทำการสำรวจผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 ต่ออุตสาหกรรมธุรกิจก่อสร้างเป็นจำนวน 909 บริษัท และได้พบว่า 28% ได้ดำเนินการหยุดโครงการที่กำลังจะก่อสร้างในอนาคต 11% หยุดงานก่อสร้างที่กำลังดำเนินงานอยู่  22% ได้รับการแจ้งว่าผู้รับเหมาย่อยจะขอเลื่อนส่งงานหรือขอยกเลิกงาน 16% ขาดวัสดุก่อสร้าง และ 8% ได้รับการรายงานผู้ติดเชื้อในคนงานและอาจจะมีการแพร่ระบาดในส่วนหน้างานก่อนสร้างได้

ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และก่อสร้าง กับการบริหารจัดการวิกฤตครั้งนี้

บริษัทธุรกิจก่อสร้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัทขนาดกลางและเล็กในกลุ่มนี้ ควรวางแผนเพื่อรองรับผลกระทบและปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยปัญหาหลักที่จะพบ คือการยกเลิกหรือยืดระยะเวลาในการก่อสร้างออกไป เพราะการซื้อขายในตลาดอสังหาริมทรัพย์จะมีแนวโน้มลดต่ำลงทั้งในช่วงและหลังวิกฤตโควิด-19 บริษัทควรเตรียมเงินสด เพื่อรักษาสภาพคล่องภายในบริษัทและรักษาการเป็นลูกหนี้ชั้นดี ถ้ากลุ่มธุรกิจก่อสร้างนี้ไม่ได้รับการสนับสนุนที่ดีจากภาครัฐ อาจจะก่อให้เกิดผลกระทบอย่างรุนแรงเปรียบเสมือนถูกคลื่นระลอกใหญ่ที่ซัดให้เศรษฐกิจของประเทศไทยต้องตกอยู่ในที่นั่งลำบากอีกครั้ง ซึ่งมีแนวโน้มที่อาจจะหนักกว่าทุก ๆ วิกฤตเศรษฐกิจที่เคยเกิดขึ้นในอดีต ดังแนวคิดของลามาร์ค ที่กล่าวไว้ว่า การเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมมีผลให้สิ่งมีชีวิตต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง เพื่อให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ และสิ่งมีชีวิต มีพลังชีวิต (Vital force) ภายในเป็นแรงผลักดันให้เปลี่ยนแปลงตัวเองอยู่ตลอดเวลา” ดังนั้น เพื่อความอยู่รอด บริษัทที่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์จำเป็นต้องปรับตัวตามสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป

Reference and data

Office of the national Economic and Social Development Council

https://www.pwc.com/us/en/library/covid-19/coronavirus-impacts-engineering-construction.html

Krungsri research

SETSMART

https://www.ecmweb.com/covid-19/article/21126812/covid19s-impact-on-the-construction-industry

 

บทความนี้เขียนโดย

  1. ศาสตราจารย์ ดร.ศิริมล ตรีพงษ์กรุณา University of Western Australia
  2. รองศาสตราจารย์ ดร.พัฒนาพร ฉัตรจุฑามาส Sasin School of Management
  3. ศาสตราจารย์ ดร.ภรศิษฐ์ จิราภรณ์ Pennsylvania State University
  4. นางสาว นพรัตน์ วงศ์สินหิรัญ Sasin PhD. candidate
  5. นางสาว ณลินี​ เด่นเลิศชัยกุล Sasin Ph.D. candidate

อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ 
Website : Marketeeronline.co / Facebook : www.facebook.com/marketeeronline



อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ Website: Marketeeronline.co
Facebook: www.facebook.com/marketeeronline

ติดตาม Marketeer Online ทาง LINE Official


เพิ่มเพื่อน