บัตรแรบบิท ผู้มาก่อนที่กำลังสั่นคลอนจากดิจิทัลเพย์เมนต์ (กรณีศึกษา)

บัตรแรบบิท เป็นบัตรที่ผู้ใช้บริการบีทีเอสรู้จักดี

แต่คุณรู้ไหมว่า บัตรแรบบิท ที่เราแตะเข้าออกบีทีเอสถูกแบ่งออกเป็นธุรกิจถึง 3 ธุรกิจ จาก 3 บริษัท ได้แก่

ธุรกิจบัตรแรบบิท หรือแรบบิทการ์ด

บริการไมโครเพย์เมนต์ในรูปแบบออฟไลน์ผ่านบัตรแรบบิทการ์ด บริหารโดยบริษัท บางกอก สมาร์ทการ์ด ซิสเทม จำกัด

ธุรกิจแรบบิทไลน์เพย์

บริการไมโครเพย์เมนต์ในรูปแบบออนไลน์ บริหารโดย บริษัท แรบบิท-ไลน์ เพย์ จำกัด

ธุรกิจแรบบิท รีวอร์ดส

บริษัทที่จัดตั้งขึ้นมาเพื่อทำ CRM ให้กับบัตรแรบบิทและแรบบิทไลน์เพย์ ผ่านคะแนนสะสมแรบบิทรีวอร์ด เพื่อเป็นส่วนลดต่าง ๆ ในร้านค้าที่ร่วมรายการ ธุรกิจนี้บริการโดยบริษัท แรบบิท รีวอร์ดส จำกัด

 

การแบ่งธุรกิจออกเป็น 3 บริษัทมาจากแรบบิทไลน์เพย์ เป็นบริการที่บริษัท บีเอสเอส โฮลดิ้งส์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของบัตรแรบบิทร่วมทุนกับ ไลน์ (ประเทศไทย) เพื่อขยายฐานผู้ใช้งานแรบบิทไปยังผู้ใช้งานไลน์ที่ปัจจุบันมีมากถึง 47 ล้านรายทั่วประเทศ เตรียมความพร้อมในการแข่งขันในธุรกิจอีวอลเลตที่มีโอกาสเติบโตมหาศาล และยังสามารถต่อยอดไปยังบริการชำระเงินใหม่ ๆ ที่ไม่ใช่บีทีเอส ที่มีผู้ใช้งานหลักคือผู้ที่เดินทางด้วยบีทีเอส ซึ่งเป็นกลุ่มที่กระจุกตัวอยู่เฉพาะในกรุงเทพฯ และบริมณฑล

ในปัจจุบันบริษัท แรบบิท-ไลน์ เพย์ จำกัด มีเอไอเอสเข้ามาร่วมทุนด้วย

 

เมื่อบริการแรบบิทแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มธุรกิจ โดยมี 2 ธุรกิจที่แยกจากกันโดยชัดเจน

บัตรแรบบิทบริการไมโครเพย์เมนต์ที่ชำระผ่านบัตรแรบบิท ที่เป็นออฟไลน์ ผู้ใช้งานต้องเติมเงินผ่านบัตรเท่านั้น

และแรบบิทไลน์เพย์ บริการไมโครเพย์เมนต์ที่เชื่อมโยงกับกระเป๋าเงินดิจิทัลในแอปไลน์ โดยผู้ใช้บริการแรบบิทไลน์เพย์จะต้องเติมเงินเข้าไปในกระเป๋าเงินดิจิทัลของแรบบิทไลน์เพย์เพื่อใช้บริการ

ผู้ใช้บริการบัตรแรบบิทแตะเข้าออกบีทีเอสที่ใช้อยู่สามารถใช้บริการแรบบิทไลน์เพย์ได้ ด้วยการลงทะเบียนบัตรแรบบิทที่ใช้อยู่เพื่อเชื่อมต่อบริการไปยังบริษัท แรบบิท-ไลน์ เพย์ จำกัด  และหลังจากการเชื่อมต่อผู้ใช้งานสามารถเติมเที่ยวเดินทางผ่านแอปไลน์ได้

ลูกค้าที่ผูกบัตรแรบบิทกับแรบบิทไลน์เพย์ และเติมเงินผ่านช่องทางไลน์ รายได้จะตกเป็นของบริษัท แรบบิท-ไลน์ เพย์ ทันที

 

เท่ากับว่าบริษัท บางกอก สมาร์ทการ์ด ซิสเทม จำกัด ต้องสูญเสียลูกค้าส่วนหนึ่งที่เป็นลูกค้าในกลุ่มดิจิทัลให้กับลูกพี่ลูกน้องอย่าง แรบบิทไลน์เพย์ไปแบบง่าย ๆ

 

แต่ไม่ใช่ว่าลูกค้าบัตรแรบบิทที่แอคทีฟ 7 ล้านราย จากจำนวนบัตรในระบบมากกว่า 14 ล้านราย จะผูกบัตรแรบบิทกับแรบบิทไลน์เพย์ทั้งหมด

เพราะยังมีลูกค้าที่เดินทางด้วยการหักเงินจากบัตรแรบบิทตามระยะทางที่เดินทาง ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้ไม่สามารถใช้บริการจากแรบบิทไลน์เพย์ได้ เนื่องจากระบบตัดเงินของบีทีเอสจะตัดเงินค่าเดินทางจากกระเป๋าเงินที่เติมผ่านบัตรเท่านั้น

และกลุ่มลูกค้าที่มองว่าการผูกบัตรแรบบิทกับแรบบิทไลน์เพย์เป็นเรื่องยุ่งยากในการเติมเงิน หรือไม่มั่นใจในความปลอดภัยของการเติมเงินผ่านระบบดิจิทัล

การได้มาของรายได้ใหม่ ๆ ผ่านบริการบัตรแรบบิทของบริษัท บางกอก สมาร์ทการ์ด ซิสเทม จำกัด จึงใช้วิธีการขยายอีโคซิสเต็มของการใช้งานบัตรแรบบิทที่นอกเหนือจากรถไฟฟ้าบีทีเอส ด้วยการจับมือกับพาร์ตเนอร์ในกลุ่มคมนาคม ขยายการชำระเงินไปสู่ระบบขนส่งสาธารณะอื่น ๆ เช่น ไมโครบัส รถเมล์ เรือโดยสาร รถโดยสารประจำทาง ในหัวเมืองต่าง ๆ

รวมถึงการจับมือกับร้านอาหาร โดยเฉพาะร้านอาหารและเครื่องดื่มที่เป็นเชน, ผู้ให้บริการศูนย์อาหารประเภทฟู้ดคอร์ด และบริการที่เป็นไลฟ์สไตล์อื่น ๆ เช่น ดูหนัง

ซึ่งการขยายอีโคซิสเต็มจุดรับชำระเงินด้วยบัตรแรบบิท เป็นการจับมือไปด้วยกันกับแรบบิทไลน์เพย์ เป็นทางเลือกให้ผู้ใช้บริการไมโครเพย์เมนต์ของแรบบิททั้ง 2 ระบบ เนื่องจากการชำระเงินผ่านระบบไมโครเพย์เมนต์ในกลุ่มร้านอาหารมีการแข่งขันสูงจากอีเพย์เมนต์อื่น ๆ ที่เข้ามาแย่งชิงลูกค้าให้ควักเงินที่อยู่ในระบบของตัวเองออกมาชำระเช่นกัน

ที่ผ่านมาบัตรแรบบิทมียอดการใช้งานเฉลี่ย 100-500 บาท

และผู้ถือบัตรแรบบิททั้งหมด 7 ล้านใบ ใช้งานบัตรแรบบิทเพื่อการเดินทาง 70% และร้านอาหารกับไลฟ์สไตล์อื่น ๆ 30% ซึ่งการใช้เพื่อการเดินทางส่วนใหญ่ยังเป็นการใช้กับบีทีเอส

 

แต่ถ้ามองในมุมการแข่งขันในภาพรวมของไมโครเพย์เมนต์จุดที่ทำให้บัตรแรบบิทที่บริหารงานโดย บางกอก สมาร์ทการ์ด ซิสเทม มีภาษีที่เหนือกว่า คือการนำบัตรแรบบิทและเทคโนโลยีที่มีอยู่เข้าไปรุกตลาด B2B ซึ่งเป็นสิ่งที่แรบบิทไลน์เพย์ และอีเพย์เมนต์อื่น ๆ ที่อยู่ในรูปแบบดิจิทัลทำไม่ได้

โดยบางกอก สมาร์ทการ์ด ซิสเทมจับมือกับองค์กรที่สนใจ นำบัตรแรบบิทเข้าไปเป็นบัตรพนักงานแทนบัตรพนักงานและบัตรนักเรียนแบบเดิม ๆ เพื่อสร้างฐานลูกค้าใหม่ ๆ

เพราะนอกเหนือจาก บัตรแรบบิท จะกลายเป็นบัตรพนักงานแล้ว ยังสามารถใช้เติมเงินชำระค่าสินค้า อาหาร บริการต่าง ๆ เหมือนบัตรแรบบิททั่วไปได้

ซึ่งธุรกิจนี้บางกอก สมาร์ทการ์ด ซิสเทม ทำมาแล้ว 3 ปี

อย่างเช่นที่ผ่านมา บางกอก สมาร์ทการ์ด ซิสเทมเข้าไปให้บริการบัตรแรบบิทเป็นบัตรพนักงานให้กับบริษัท สิงห์ เอสเตท และสหพัฒนพิบูล จับมือร่วมกับแสนสิรินำบัตรแรบบิทแทนคีย์การ์ดในโครงการคอนโดมิเนียม และโรงเรียนนานาชาติเวอร์โซ แทนบัตรนักเรียน  เป็นต้น

แต่จุดอ่อนของบัตรแรบบิทกับบริการแรบบิทไลน์เพย์ คือเงินที่เติมผ่านระบบออนไลน์ ที่นอกเหนือจากการซื้อตั๋วเดินทาง ผู้ใช้บริการไม่สามารถใช้ผ่านบัตรแรบบิทได้ เนื่องจากเงินที่เติมไปนั้นอยู่คนละกระเป๋ากัน ทำให้บัตรแรบบิทพัฒนาแอปพลิเคชันของตัวเองขึ้นมาให้บริการสำหรับผู้ถือบัตรแรบบิทที่ไม่ได้ลงทะเบียนกับแรบบิทไลน์เพย์ด้วย

อย่างไรก็ดี ที่ผ่านมารายได้ของบริษัท บางกอก สมาร์ทการ์ด ซิสเทม จำกัด มากกว่าเมื่อเทียบกับบริษัทลูกพี่ลูกน้องอย่างบริษัท แรบบิท-ไลน์เพย์ จำกัด และบริษัท แรบบิท รีวอร์ดส จำกัด โดยรายได้ทั้งหมดนี้อ้างอิงจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า

บริษัท บางกอก สมาร์ทการ์ด ซิสเทม จำกัด ถือเป็นบริษัทที่สร้างรายได้สูงสุด และเป็นบริษัทที่มีกำไรเพียงบริษัทเดียว โดยรายได้ของทั้ง 3 บริษัท มีดังนี้

 

รายได้ บริษัท บางกอก สมาร์ทการ์ด ซิสเทม จำกัด

2561       416,932,787.00 กำไร 31,604,313.00

2562      407,494,516.00  กำไร 17,145,170.00

2563      502,639,631.00 กำไร 6,687,553.00

           

รายได้ บริษัท แรบบิท-ไลน์เพย์ จำกัด

2560     36,646,988.00    ขาดทุน 216,568,414.00

2561     198,650,506.00  ขาดทุน 366,553,570.00

2562     130,095,383.00 ขาดทุน 353,776,073.00  

 

รายได้ บริษัท แรบบิท รีวอร์ดส จำกัด

2561     21,119,778.00 ขาดทุน 71,594,827.00

2562     56,991,474.00 ขาดทุน 59,701,887.00

2563     62,889,242.00 ขาดทุน 56,066,964.00

*หมายเหตุบริษัท บางกอก สมาร์ทการ์ด ซิสเทม จำกัด และบริษัท แรบบิท รีวอร์ดส จำกัด จบปีปฏิทิน 2563 ในเดือนมิถุนายน 2563

 

cr. ภาพจากเฟซบุ๊ก Rabbit Card

อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ 
Website : Marketeeronline.co / Facebook : www.facebook.com/marketeeronline


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer