สองบริษัทใหญ่รุ่นใหม่ของอินโดนีเซียเปิดไฟเขียวจับมือกัน ท่ามกลางการขยายตัวของธุรกิจในกลุ่ม Digital Economy ที่มีแนวโน้มสดใส โดย Gojek เบอร์ใหญ่วงการแอปในการเดินทางสัญชาติอินโดนีเซียกับ Tokopedia – E-commerce Platform ร่วมชาติ เริ่มเดินหน้าสู่การควบรวมกิจการ เพื่อประโยชน์ในการขยายธุรกิจ เกิดเป็นบริษัทใหม่มูลค่าเกือบ 18,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 539,000 ล้านบาท) ก่อนทำ IPO ที่ตลาดหลักทรัพย์ในประเทศ อีกไม่กี่เดือนนับจากนี้
ด้วยขนาดพื้นที่ราว 5,100 ตารางกิโลเมตร และจำนวนประชากรกว่า 270 ล้านคน อินโดนีเซียจึงเป็นตลาดใหญ่สุดของกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ASEAN) และเป็นขุมทองที่ไม่ว่าบริษัทไหนในธุรกิจใดต่างต้องการครองส่วนแบ่งเบอร์ต้น ๆ ให้ได้
แน่นอนว่า บริษัทอินโดนีเซียเองที่รู้และเข้าใจลูกค้าดีกว่า ย่อมมีแต้มต่อและโอกาสทางธุรกิจมากกว่าบริษัทต่างชาติ
ราว 10 ปีมานี้กลุ่มธุรกิจ Digital Economy ที่ครอบคลุมตั้งแต่ E-commerce FinTech ไปจนถึงแอปเรียกใช้บริการระบบขนส่งของอินโดนีเซีย มีมูลค่าตลาดกับอัตราเติบโตมากกว่าประเทศเพื่อนบ้านใน ASEAN ทั้งหมด และยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป
มีการประเมินว่าเมื่อปี 2020 ที่ผ่านมามูลค่าตลาด Digital Economy ของอินโดนีเซีย อยู่ที่ 44,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 1.3 ล้านล้านบาท) จะเพิ่มเป็น 124,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 3.7 ล้านล้านบาท) ในอีก 5 ปีข้างหน้า
บรรดาเบอร์ใหญ่ ๆ ใน Digital Economy อินโดนีเซีย ทราบดีถึงแนวโน้มเชิงบวกดังกล่าว และเตรียมแผนธุรกิจไว้รองรับ โดย Bloomberg สำนักข่าวธุรกิจชื่อดังรายงานอ้างแหล่งข่าวใน Gojek และ Tokopedia ว่า ทั้งสองบริษัทเริ่มเดินแผนการควบรวมกิจการแล้ว ผ่านทั้งการเจรจาและลงนามเบื้องต้นในเอกสาร เพื่อปูทางสู่การควบรวมกิจการ และ IPO
รายงานดังกล่าวระบุว่าหากแผนควบรวมกิจการดำเนินไปอย่างราบรื่นและเสร็จสิ้น จะเกิดเป็นบริษัทใหม่ที่มูลค่าสูงเกือบ 18,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 539,000 ล้านบาท) และมีธุรกิจหลากหลายตั้งแต่การขนส่งทั้งสินค้าและอาหาร แอปด้านการเดินทาง และ E-commerce เหมือนมีทั้ง Amazon PayPal และ Uber อยู่ใต้ชายคาเดียวกัน ครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของอินโดนีเซีย
มีแนวโน้มว่าการควบรวมกิจการครั้งนี้คงเป็นไปอย่างราบรื่น เพราะผู้ก่อตั้งของ Gojek และ Tokopedia มีวัยใกล้เคียงกัน และรู้จักกันเป็นอย่างดี ประกอบกับรัฐบาลอินโดนีเซียคงเปิด ‘ไฟเขียว’ เพราะเป็นการแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าของประเทศ และทั้งสองบริษัทไม่ได้ทำธุรกิจเดียวกัน
ต่างจากการควบรวมกิจการระหว่าง Gojek และ Grab ที่ยืดเยื้อมา 2 ปี เพราะเผชิญข้อติดขัดมากมาย ทั้งความเห็นไม่ตรงกันในการบริหารตลาดในอินโดนีเซีย การเป็นบริษัทสัญชาติสิงคโปร์ของ Grab
ความเห็นไม่ตรงกันเรื่องสัดส่วนการถือหุ้น และอาจ ‘ติดไฟแดง’ เพราะรัฐบาลอินโดนีเซียเห็นว่าเป็นการผูกขาด จนเมื่อธันวาคมที่ผ่านมาต้องล่มไป
รายงานดังกล่าวยังระบุด้วยว่า หากธุรกิจไปต่อได้สวย บริษัทที่เกิดจากการควบรวมกิจการระหว่าง Gojek และ Tokopedia นี้อาจ ‘โกอินเตอร์’ ทำ IPO ในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ ผ่านบริษัทที่มีจุดประสงค์พิเศษในการซื้อกิจการ (SPAC) หรือที่รู้จักกันในหมู่นักลงทุนว่า บริษัทเช็คเปล่า
ถ้าสำเร็จจะเป็นบริษัทในกลุ่ม Digital Economy ของ ASEAN แห่งที่ 2 ต่อจาก Sea Limited บริษัทแม่ของเกมออนไลน์ Garena ที่ IPO ไปเมื่อปี 2017 และมาปี 2020 ราคาหุ้นโตถึง 400% จากการที่เกมออนไลน์ฮิตสุด ๆ ช่วงล็อกดาวน์/bloomberg, yahoo, statista, wikipedia, expandedrambling
–
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ