คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นายวิลาศ เฉลยสัตย์ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง หรือ MEA เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ในโอกาสนี้ Marketeer ได้รับเกียรติให้ร่วมพูดคุยกับ ว่าที่ผู้ว่าการ MEA คนที่ 18 แบบ Exclusive ถึงแนวคิดและวิสัยทัศน์ในการขับเคลื่อนองค์กรเข้าสู่ยุคใหม่ หลังจากสถานการณ์ COVID-19 พร้อมยกระดับการบริการภายใต้ Smart Service ที่พร้อมตอบโจทย์วิถีชีวิตยุค Next Normal ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ชูวิสัยทัศน์ “พลังงานเพื่อวิถีชีวิตเมืองมหานคร” มุ่งสู่การเป็น Smart Energy

คุณวิลาศ เริ่มต้นสนทนาโดยเล่าประสบการณ์ทำงานกับ MEA และโครงการต่าง ๆ ที่ได้รับผิดชอบในฐานะ Project Engineer และ Project Manager ซึ่งล้วนเป็นงานในโครงการขนาดใหญ่เป็นหลัก ในจุดนี้เองทำให้ได้รับทักษะและประสบการณ์การจัดการโครงการติดตัวมาด้วย และนำมาปรับใช้ในการบริหารงานเสมอมา

ตลอดระยะเวลาการทำงานมากกว่า 30 ปี คุณวิลาศ ได้มีส่วนร่วมในการพัฒนา MEA มากมาย ซึ่งรูปแบบการทำงานของ MEA นั้นมีการจัดการระบบอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด

“ทีมผู้บริหารและวางยุทธศาสตร์ของ MEA เป็นทีมเดียวกัน ทำให้ผมได้มีส่วนร่วมในการวางแผนการพัฒนา ทิศทางวิสัยทัศน์ขององค์กร และเห็นพัฒนาการด้านต่าง ๆ มาโดยตลอด

และในสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปตลอด ไม่ว่าจะทางธุรกิจ หรือสภาวะทางแวดล้อมต่าง ๆ ในฐานะผู้นำองค์กรจึงต้องมีการปรับปรุงและพัฒนา เรียนรู้และนำกลยุทธ์ของตัวเองมาขับเคลื่อนองค์กรท่ามกลางความท้าทายใหม่ ๆ

ซึ่งตอนนี้ยุทธศาสตร์ที่ทาง MEA ได้กำหนดไว้มีทั้งหมด 3 ช่วง ตามกรอบแผนงานที่วางไว้ เพื่อผลักดันองค์กรไปสู่เป้าหมายตามที่ได้วางเอาไว้ โดยยึดหลักการว่า ต้องเร็ว ต้องชัดเจน และมุ่งไปสู่การเป็น Smart Energy ในอนาคต เพื่อต่อยอดธุรกิจพลังงานที่ยั่งยืนด้วยนวัตกรรมครบวงจรต่อไป”

ในส่วนของวิสัยทัศน์ในบทบาทว่าที่ผู้ว่าการ MEA คนที่ 18 ของคุณวิลาศ ยังคงเป็นการเน้นย้ำในการมุ่งให้ MEA เป็น “พลังงานเพื่อวิถีชีวิตเมืองมหานคร” ที่จะขับเคลื่อน MEA ให้พร้อมตอบโจทย์วิถีชีวิตคนเมืองอย่างสมบูรณ์แบบ

“MEA จะคอยติดตามพฤติกรรมการใช้ชีวิตของคนในเมืองหลวงและพร้อมตื่นตัวตลอดเวลา เพื่อปรับเปลี่ยนให้ตอบโจทย์วิถีชีวิตให้กับคนเมืองหลวง ซึ่งภารกิจที่ผมได้วางไว้ คือ การส่งมอบนวัตกรรมบริการที่เป็นเลิศให้กับลูกค้า ขยายความร่วมมือทั้งภายในและภายนอกที่เป็นพันธมิตรเพื่อพัฒนาธุรกิจ ปรับกระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพและยั่งยืน ภายใต้ความภาคภูมิใจของทีม MEA ทุกคน”

มุ่งเน้นขับเคลื่อนองค์กร ภายใต้บทบาทผู้นำแบบ GIVE

MEA ภายใต้การบริหารของคุณวิลาศนั้น ได้นิยามบทบาทผู้นำไว้ ภายใต้กรอบคำว่า GIVE” ซึ่งมีความหมายที่ลึกซึ้ง ดังนี้

  • Good Partnership เน้นความร่วมมือภายในองค์กรในการพัฒนาบริการร่วมกัน
  • Inspiration to the next generation สร้างแรงบันดาลใจ สร้างความเชื่อมั่นและความเข้มแข็ง เพื่อให้เกิดผู้นำในการปฏิบัติงานทุกระดับ
  • Velocity เน้นการตัดสินใจเร็ว มีเป้าหมาย การวัดผล และการติดตามอย่างชัดเจน
  • Empowerment เป็นการกระจายอำนาจให้พนักงานตัดสินใจ เพื่อให้เกิดความรู้สึกรักองค์กร เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และภาคภูมิใจในตัวเอง

โดยจะเล็งเห็นว่าภายใต้บทบาทผู้นำ GIVE นั้น มุ่งเป้าไปที่การพัฒนาพนักงานในองค์กรทั้งสิ้น เพื่อให้มีความ เข้มแข็ง สามารถสร้างสรรค์ สนับสนุนในการดำเนินการเพื่อให้ MEA เป็นพลังงานเพื่อวิถีชีวิตเมืองมหานครอย่างแท้จริง

บริการ MEA Smart Service ตอบโจทย์ชีวิตยุค Next Normal

ในมุมของผู้ใช้บริการทั่วไป เราได้เห็นการเปลี่ยนแปลงในด้านบริการของ MEA ที่ชัดเจนที่สุด คือการนำเสนอ MEA Smart Service” บริการออนไลน์ ครบทุกเรื่องไฟฟ้าตลอด 24 ชั่วโมง โดยมุ่งเน้นที่จะนำไปสู่การเป็น Fully Digital Service ภายในปี 2565 ทั้งช่วยจัดการปัญหาจุกจิกเรื่องไฟฟ้า สามารถจัดการได้แค่ไม่กี่คลิก ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์สุด Smart มากมาย ไม่ว่าจะเป็น

  • MEASY : บริการขอใช้ไฟฟ้า
  • MEA e-Payment : บริการจ่ายค่าไฟ ช่องทางไหนก็สะดวก
  • MEA e-Bill : รักษ์โลก รับเอกสารออนไลน์แทนกระดาษ
  • MEA Connect : แอดไลน์รับข่าวสาร ไม่พลาดโปรโมชัน
  • MEA Smart Life : แอปเดียวจบ ครบทุกเรื่องไฟฟ้า
  • MEA e-Fix : บริการติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าจากช่างมืออาชีพ
  • MEA EV : แอปเดียวจบครบทุกเรื่องรถยนต์ไฟฟ้า

ซึ่งแนวทางของการให้บริการแบบ Smart Service นั้น คุณวิลาศได้ขยายความเพิ่มเติมว่า

“การบริการในระบบแบบเดิม เราจะมีการปรับเปลี่ยนให้มาเป็น Fully Digital Service ทั้งหมด โดยจะนำบริการของ MEA มาอยู่ในโทรศัพท์มือถือเพื่อให้สะดวกในการใช้บริการ โดยปัจจุบันสามารถติดต่อได้ทุกช่องทางผ่านโซเชียลมีเดีย รวมถึง MEA Call Center 1130 ที่เราจัดไว้คอยดูแลผู้ใช้บริการ MEA ตลอด 24 ชั่วโมง”

อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจ คือการวางแผนงานในเรื่องของ Smart Meter” เครื่องวัดหน่วยไฟฟ้าที่จะเป็นช่องทางสำคัญในการสื่อสารระหว่าง MEA กับผู้ใช้ไฟฟ้าได้อย่างไร้รอยต่อ โดยผู้ใช้สามารถเห็นค่าปริมาณการใช้ไฟฟ้าแบบกึ่งเรียลไทม์ และสามารถบริหารจัดการการใช้ไฟฟ้าด้วยตัวเองได้ และที่สำคัญเมื่อมีปัญหาไฟฟ้าขัดข้อง สามารถเข้าไปจัดการระบบไฟฟ้าได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งในปัจจุบันได้เร่งดำเนินการตามแผนงานอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ MEA ยังมีแนวทางการร่วมมือกับภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษาชั้นนำที่มีความเชี่ยวชาญในด้านต่าง ๆ ในการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ ที่จะพลิกบทบาทของ MEA ให้เป็นองค์กรที่มีความแตกต่างทั้งในเรื่องของนวัตกรรมไฟฟ้า นวัตกรรมการให้บริการ และนวัตกรรมเทคโนโลยีต่าง ๆ อย่างครบวงจร

พร้อมเคียงข้างสังคมฝ่าวิกฤตไปด้วยกัน

ในช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่ทุกพื้นที่ได้รับผลกระทบ MEA พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสังคมอย่างไม่หยุดนิ่ง

ในสถานการณ์ COVID-19  เราได้มีนโยบายให้ผู้ใช้ไฟฟ้าใช้ไฟฟ้าได้อย่างต่อเนื่อง ภายใต้มาตรการดูแลความปลอดภัยทั้งผู้ใช้ไฟฟ้าและพนักงาน และในส่วนของการให้บริการเราได้มีการลดค่าไฟให้กับผู้ใช้บริการ การขยายระยะเวลาในการจ่ายค่าไฟฟ้า โดยไม่มีดอกเบี้ยหรือค่าใช้จ่าย และในส่วนของโรงพยาบาลสนามเราได้มีการเข้าไปช่วยในเรื่องของระบบไฟฟ้า รวมถึงการมอบอาหาร หน้ากากอนามัย สิ่งของจำเป็น เพื่อช่วยเหลือตามความเหมาะสม”

ขณะที่แนวทางการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยนั้น MEA ได้มีแผนในการบริหารจัดการการใช้พลังงานไฟฟ้า และประชาสัมพันธ์ไปยังชุมชนริมคลองเพื่อลดการเกิดอันตรายจากอุทกภัยอีกด้วย ซึ่งในฐานะผู้นำขององค์กร คุณวิลาศได้ฝากถึงพี่น้องชาวไทยทุกท่านว่า

“ไม่ว่าจะประสบภัยอะไร MEA ก็พร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนตลอดเวลา ผมคิดว่า MEA หรือการไฟฟ้านครหลวง เป็นองค์กรของประชาชนทุกคน และเราจะสร้างนวัตกรรมบริการใหม่ ๆ เพื่อมอบความสุขให้กับคนเมือง”



ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ

.
Marketeer ฉบับดิจิทัล : อ่านบน Ookbee / อ่านบน meb
.
Marketeer ฉบับ PDF : https://marketeermagazine.com/
.
Marketeer ฉบับกระดาษ : สั่งซื้อทางไปรษณีย์ Inbox มาที่ เพจ Marketeer Online