ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ เดินเกมเทกโอเวอร์เพื่อก้าวต่อไปที่ใหญ่กว่า (วิเคราะห์)
ในที่สุดดีลใหญ่ของการซื้อโรงแรมจํานวน 3 แห่ง ราคา 1,050 ล้านบาท ของ บมจ. ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ “ORI”) จากบริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จํากัด (มหาชน) และบริษัท เอราวัณ นาคา จํากัด ได้เสร็จสมบูรณ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2565
.
โรงเเรม ทั้ง 3 เเห่งประกอบไปด้วย โรงแรมไอบิส ภูเก็ต กะตะ โรงแรมไอบิส หัวหิน และโรงแรม ไอบิส สไตล์ กระบี่ อ่าวนาง




เป็นดีลใหญ่สำคัญอีกครั้งหนึ่งของ ออริจิ้น บริษัทอสังหาฯ ที่มีสไตล์การเติบโตค่อนข้าง Aggressive ทั้งที่มีอายุเพียง 15 ปี
.
แต่ได้พัฒนาคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรมาแล้ว 103 โครงการ (ณ สิ้นไตรมาส 1/2565) รวมมูลค่าโครงการกว่า 154,900 ล้านบาท
.
ภายใต้การบริหารของ พีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ที่ทำให้ออริจิ้นโตขึ้นอย่างต่อเนื่องจนยอดขายทะลุ 1 หมื่นล้านบาท กำไรกว่า 3 พันล้านบาท ในช่วงเวลาเพียง 10 ปี
.
และสามารถฝ่าวิกฤตโควิดจนทำรายได้ถึง 15,266 ล้านบาท กำไร 3,193 ล้านในปี 2564 ที่ผ่านมา
.
เป็นปลาเล็กที่ว่ายเร็ว แซงปลาใหญ่ รุ่นพี่ ๆ ไปอยู่อันดับต้น ๆ ของบริษัทอสังหาฯ เมืองไทยไปแล้ว
.
ออริจิ้นเริ่มเข้าสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เมื่อปี 2552 ในช่วงแรกจะเน้นทำธุรกิจคอนโดมิเนียมเป็นหลัก เริ่มจากจับกลุ่มตลาดกลาง-ล่าง พอตลาดไม่ดี หนี้สินครัวเรือนสูง ลูกค้ากลุ่มนี้หดหาย ก็พลิกมาจับตลาดบน เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงทันที
.
โดยต้นปี 2560 ได้เข้าไปเทกโอเวอร์บริษัท พราวด์ เรสซิเดนซ์ จำกัด ของ ‘ตระกูลลิปตพัลลภ’ และขยายแบรนด์ “พาร์ค ออริจิ้น” ทำให้สามารถขยายฐานลูกค้าใน ‘กลุ่มตลาดบนและต่างชาติ’ ที่มีกำลังซื้อสูง
.
เป็นการปรับตัวที่ไว ซึ่งเป็นคีย์ซักเซสหนึ่งของความสำเร็จของออริจิ้น


.
สำหรับธุรกิจโรงแรมดำเนินการผ่านบริษัท วัน ออริจิ้น ฮอสพิทัลลิตี้ จํากัด โดยมีโรงแรมสเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก ทองหล่อ เป็นโรงแรมแห่งแรกที่บริษัทฯ พัฒนาร่วมกับบริษัท โนมูระ เรียลเอสเตท ดีเวลล็อปเมนท์ จำกัด เปิดดำเนินการเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2563
.
เป็นการกระจายความเสี่ยงในการทำธุรกิจของ ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ รวมทั้งมีความเชื่อมั่นในตลาดการท่องเที่ยวของไทยหลังวิกฤตโควิด-19
.
ปัจจุบันออริจิ้นมีโรงเเรมในมือ 10 โครงการ ทั้งเป็นเจ้าของเองและรับจ้างบริหาร
.
วันนี้ออริจิ้นยังมีโครงสร้างธุรกิจหลากหลาย ประกอบด้วย 1. ธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย 2. ธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ เช่น โรงแรม เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ ค้าปลีก 3. ธุรกิจบริการ เช่น ธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์
.
และพีระพงศ์เองยังมีวิสัยทัศน์ในการขยายประเภทธุรกิจใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง อาทิ ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจเฮลท์แคร์ ธุรกิจบริหารสินทรัพย์ ธุรกิจพลังงาน ฯลฯ
.
เป็นผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์อีกคนที่มีแนวคิดในการทำธุรกิจที่น่าจับตามอง
–
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ ที่
Website : Marketeeronline.co / Facebook : www.facebook.com/ marketeeronline
Website : Marketeeronline.co /
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ Website: Marketeeronline.co
Facebook: www.facebook.com/marketeeronline



