รถไฟพลังไฮโดรเจนสาย Coradia iLint ในรัฐ Lower Saxony ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของเยอรมนีเปิดให้บริการแล้ว โดยถือเป็นโครงการที่เต็มไปด้วยนัยสำคัญ ทั้งทางด้านสิ่งแวดล้อมและพลังงาน
พร้อมกันนี้ยังเริ่มใช้ในช่วงที่ประเทศกำลังต้องการแหล่งพลังงานใหม่ ๆ เพื่อลดการพึ่งพารัสเซียอีกด้วย
โครงการนี้เริ่มขึ้นเมื่อปี 2012 เป็นความร่วมมือระหว่างบริษัทขนส่งระบบราง Alstrom ของฝรั่งเศส กับฝ่ายปกครองรัฐ Lower Saxony ผ่าน LNVG การรถไฟของแคว้น โดยทั้งโครงการมีมูลค่า 93 ล้านยูโร (ราว 3,300 ล้านบาท) และประกอบไปด้วยรถไฟพลังไฮโดรเจน 15 ขบวน (1 ขบวนมี 2 ตู้โดยสาร)
ช่วงแรกเริ่มให้บริการก่อน 5 ขบวน และจะทยอยเพิ่มจำนวนจนครบ 15 ขบวนเพื่อแทนที่รถไฟที่ใช้น้ำมันดีเซลเป็นเชื้อเพลิงภายในปลายปีนี้ โดยนอกจากสามารถประหยัดพลังงานได้เกือบ 1 ใน 4 แล้ว เติมไฮโดรเจนครั้งเดียวก็วิ่งได้หลายรอบของรถไฟสายนี้ที่มีระยะทางเพียง 100 กิโลเมตร และก่อมลพิษทางเสียงน้อยแล้ว รถไฟขบวนนี้ยังไม่ปล่อยมลพิษสู่ชั้นบรรยากาศเลยอีกด้วย
Stephan Weil ผู้ว่าการรัฐ Lower Saxony กล่าวว่าโครงการนี้น่าจะเป็นต้นแบบให้ทั่วโลกและถือเป็นหมุดหมายสำคัญของระบบขนส่งมวลชนใส่ใจสิ่งแวดล้อม
โครงนี้ถือว่ามีทั้งความสำคัญและนัยสำคัญ เพราะรถไฟและระบบรางคิดเป็น 20% ของการเดินทางที่ประชาชนใช้กันอยู่ในเยอรมนี
และการมีระบบขนส่งที่ใช้พลังอื่น ๆ อย่างไฮโดรเจน นอกเหนือไปจากน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ จะทำให้เยอรมนีมีทางเลือกด้านพลังงาน โดยเฉพาะพลังงานสะอาดมากขึ้น ตามแผนลดการนำเข้าน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียที่ความสัมพันธ์ร้าวฉาน
หลังเยอรมนีเป็นแกนนำประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปคว่ำบาตรรัสเซียที่เปิดฉากทำสงครามยูเครน ซึ่งรัสเซียก็ตอบโต้ด้วยการงดส่งก๊าซธรรมชาติไปให้
ประเด็นเรื่องขาดแคลนพลังงานงาน ยังทำให้รัฐบาลเยอรมนีที่นำโดยนายกรัฐมนตรี Olaf Shultz จำเป็นต้องหันกลับไปหาพลังงานถ่านหิน และเดินทางไปแคนาดาเพื่อทำสัญญาซื้อพลังงานไฮโดรเจนสะอาด
ท่ามกลางรายงานว่าฟืนในเยอรมนีเริ่มขาดตลาดเพราะประชาชนพากันไปซื้อเก็บไว้ใช้ทำความร้อนช่วงฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึง
ความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจเกี่ยวกับรถไฟไฮโดรเจนในยุโรปต่อจากนี้คือ จำนวนรถไฟไฮโดรเจนที่จะเพิ่มขึ้น โดย Frankfurt จะเป็นเมืองต่อไปของเยอรมนีที่นำรถไฟไฮโดรเจนมาใช้ ส่วนที่อิตาลีกับฝรั่งเศสมีแผนจะนำมาใช้เช่นกัน
ท่ามกลางคาดการณ์ว่าเมื่อถึงปี 2035 ยุโรปจะถือเป็นตลาดสำคัญของรถไฟพลังไฮโดรเจน ด้วยสัดส่วนการใช้ตามเมืองต่าง ๆ โดยเฉพาะแถบชนบทในยุโรปที่น่าจะเพิ่มเป็น 15-20% / cnn, afp, aljazeera, dw
–
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ