สถานการณ์พลังงานในยุโรปยังได้รับผลกระทบจากสงคราม โดยล่าสุดถึงกับทำให้เสาหลักของทวีปต้องกลับไปใช้พลังงานก่อมลพิษและพรรคแกนนำรัฐบาลลำบากใจ
รัฐบาลเยอรมนีประกาศเพิ่มสัดส่วนใช้ถ่านหินเพื่อเป็นแหล่งพลังงานในการผลิตไฟฟ้าทดแทนก๊าซจากรัสเซียที่ลดลงไปอย่างมาก หลังรัสเซียสั่งลดปริมาณการส่งมาให้จากระดับปกติ เพราะข้อติดขัดทางเทคนิคแต่ฝ่ายเยอรมนีรู้ดีว่านี่คือการตอบโต้มาตรการคว่ำบาตรจากการทำสงครามกับยูเครน
ยุโรปกำลังสะเทือนจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน เพราะฝ่ายสหภาพยุโรป (EU) ร่วมมือกับสหรัฐฯ คว่ำบาตรรัสเซียผ่านมาตรการลงโทษต่าง ๆ ฝ่ายรัสเซียก็โต้กลับด้วยการลดการส่งก๊าซเข้าไปยังยุโรปผ่านทางเยอรมนีลงถึงครึ่งหนึ่งจากระดับปกติ
รัฐบาลเยอรมนีที่นำโดยนายกรัฐมนตรี Olaf Scholz ต้องเร่งกู้สถานการณ์ เพราะก๊าซที่ใช้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและเป็นแหล่งพลังงาน 55% นำเข้ามาจากรัสเซีย โดยแนวทางที่รัฐบาลประเทศเสาหลัก EU เลือกใช้คือเพิ่มสัดส่วนการใช้ถ่านหิน
Robert Habeck รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจเยอรมนีกล่าวว่า เพราะสถานการณ์กำลังตึงเครียดจึงจำเป็นต้องใช้แนวทางนี้ แต่รัฐบาลจะรับมือกับปัญหาด้วยความรอบคอบ กระชับฉับไวและระมัดระวัง
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้น่าสนใจในหลาย ๆ ด้าน ไม่ใช่เฉพาะแค่ประเด็นการต้องพึ่งพารัสเซียของเยอรมนี และแนวทางการรับมือกับสถานการณ์ของเยอรมนีเท่านั้น
เพราะเป็นที่รู้กันทั่วไปว่า ประชาคมโลกกำลังพยายามลดเชื้อเพลิงก่อมลพิษอย่าง ถ่านหิน และเยอรมนีก็ตั้งเป้ายุติใช้ถ่านหินในปี 2030
ซึ่งพรรคแกนหลักผลักดันเรื่องนี้คือพรรคที่มีนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมอย่างพรรค Green ส่วนสิ่งที่ต้องจับตามองจากนี้คือสงครามรัสเซีย-ยูเครน จะยืดเยื้อไปอีกแค่ไหน
และ EU จะลดหรือตัดขาดพลังงานรัสเซียตามที่ตั้งไว้ ได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งประเทศที่ถูกจับตามองมากสุดในเรื่องนี้ย่อมเป็นเยอรมนี เพราะเป็นทั้งเสาหลักของ EU และมีพรรค Green เป็นแกนนำรัฐบาลนั่นเอง/cnn, reuters, cna
–
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ Website: Marketeeronline.co
Facebook: www.facebook.com/marketeeronline



