เวียดนามขึ้นแท่นประเทศผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานโซลาร์เซลล์มากที่สุดใน ASEAN รวมอยู่ที่ 16.660GW เหตุรัฐส่งนโยบายตอบโจทย์ ส่วนไทยตามมาห่าง ๆ ในอันดับ 2 รวมอยู่ที่ 3.049GW แต่ทรินา โซลาร์ ซัปพลายเออร์ด้านโซลาร์เซลล์ ทอป 3 ของไทย เผยว่าไทยมีศักยภาพตลาดที่โตได้ไม่แพ้กัน หลังจากนี้
ลิม ชอง บูน (LIM Cheong Boon) หัวหน้าฝ่ายผลิตภัณฑ์และการตลาด ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของ ทรินา โซลาร์ บริษัทด้านโซลูชันพลังงานแสงอาทิตย์ หรือโซลาร์เซลล์ แบบครบวงจร เผยว่า บริษัทก่อตั้งขึ้นในปี 1997 ที่ประเทศจีน และก้าวเข้ามาเป็นผู้ผลิตโซลาร์เซลล์รายใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกในปี 2014
รวมแล้วเปิดบริษัทมาครบ 25 ปีในปีนี้ และได้มีการส่งกระแสไฟฟ้าจากพลังงานโซลาร์เซลล์ไปแล้วทั่วโลก กว่า 100GW ทั้งมีลูกค้ารวมทั่วโลกกว่า 100 บริษัทนับเฉพาะในเอเชียแปซิฟิก ช่วง 4 ปีที่ผ่านมาบริษัทมีการส่งกระแสไฟฟ้าจากพลังงานโซลาร์เซลล์ไปแล้วกว่า 4GW ติดทอป 3 ของภูมิภาคนี้
ก่อนเริ่มเข้ามารุกตลาดในไทยตั้งแต่ปี 2010 และเปิดโรงงานผลิตโซลาร์เซลล์นอกประเทศจีนครั้งแรก ณ จังหวัดระยอง ประเทศไทย ในปี 2016
โดยเป็นโรงงานผลิตสำหรับส่งออกนอกประเทศเท่านั้น ซึ่งมีกำลังผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานโซลาร์เซลล์ รวมอยู่ที่ 1 กิกะวัตต์ (Gigewatt : GW) = 1,000 เมกะวัตต์ = 1,000,000 กิโลวัตต์ = 1,000,000,000 วัตต์ หรือเท่ากับพลังงานที่ใช้ในการยกแอปเปิล 1 พันล้านลูก ขึ้นสูงจากพื้นโลก 1 เมตร
และมีพนักงานอยู่ 700 คน จนดันให้บริษัทกลายมาเป็นซัปพลายเออร์ด้านโซลาร์เซลล์ระดับทอป 3 ของประเทศไทย
มาวันนี้บริษัทเตรียมประกาศเปิดตัวแผงโซลาร์เซลล์รุ่นใหม่ Vertex DE19R อย่างเป็นทางการที่งาน ASEAN Sustainable Energy Week กรุงเทพฯ ที่จัดขึ้นในวันที่ 14-16 กันยายน 2022
โดยแผงโซลาร์เซลล์รุ่น Vertex DE19R สามารถผลิตกำลังไฟฟ้าได้สูงสุดถึง 580 วัตต์ และมีประสิทธิภาพสูงสุดถึง 21.5% ซึ่งพัฒนาและผลิตขึ้นโดยใช้แพลตฟอร์มเทคโนโลยีเซลล์ 210 มม.
แต่ต่างจากรุ่น DE19 ก่อนหน้า โดยตัว ‘R’ แสดงให้เห็นว่าแผงโซลาร์เซลล์ เป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า แทนที่จะเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส เพื่อการผลิตพลังงานที่สูง มีการพัฒนาให้ปฏิบัติงานได้อย่างดีเยี่ยมยิ่งขึ้นกับอินเวอร์เตอร์ เหมาะกับการติดตั้งบนหลังคาที่มีพื้นที่จำกัด เพื่อใช้ในเชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรมเป็นอย่างมาก
และช่วยให้ค่าอุปกรณ์ประกอบระบบ (BOS) ลดลง ทำให้ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าต่อหน่วยปรับเฉลี่ย (LCOE) ลดลงด้วย อีกทั้งยังมีความเสถียรสูง
ทั้งยังจะมีการเปิดตัว DE21 รุ่นที่ 2 ซึ่งเป็นแผงโซลาร์เซลล์รุ่นสองหน้า ในไตรมาส 1/2566 ในประเทศไทย โดยรุ่นนี้จะมีการใช้เซลล์เอ็นไทป์ ขนาด 210 มม.
ส่วนการรับประกันอายุการใช้งานโซลาร์เซลล์ของบริษัท เบื้องต้นอยู่ที่ 25 ปี ขณะที่ด้านการรีไซเคิลหลังผลิตภัณฑ์หมดอายุการใช้งาน ก็จะมีการปรับเปลี่ยนตามเทคโนโลยีและความเหมาะสมในประเทศนั้น ๆ
กอปรกับกลไกราคาโซลาร์เซลล์ในตลาดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งลดลงถึง 80% โดยหากมองในภาคอุตสาหกรรมเรียกว่าแทบจะเท่ากับต้นทุนด้านการผลิตพลังงานประเภทอื่น ๆ
ส่วนความคุ้มทุน ส่วนใหญ่จะคำนวณอยู่ที่ประมาณ 6 ปี ถึงจะเรียกว่าคุ้มทุนการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ในภาคอุตสาหกรรม
ด้านภาพรวมตลาดโซลาร์เซลล์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ASEAN) อ้างอิงข้อมูลจาก International Renewable Energy Agency 2021 ซึ่งทำการเผยแพร่ออกมาเมื่อเดือนมีนาคม 2022
พบว่า เวียดนามครองแชมป์ผลิตกระแสไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์มากสุดใน ASEAN รวมอยู่ที่ 16.660GW โดยไทยตามมาห่าง ๆ ในอันดับ 2 อยู่ที่ 3.049GW
ส่วนอันดับ 3 ตกเป็นของฟิลิปปินส์ ที่ผลิตกระแสไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ รวมอยู่ที่ 1.370GW
ลิม ชอง บูน ให้ความเห็นเกี่ยวกับประเด็นที่ไทยยังคงตามห่างเวียดนามอยู่มากในเรื่องการผลิตกระแสไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ ตลอดจนการดำเนินงานในด้านพลังงานสีเขียว หรือพลังงานสะอาดประเภทอื่น ๆ ว่า จริง ๆ ประเทศไทยเริ่มในเรื่องการพัฒนาโซลาร์เซลล์ และพลังงานสะอาดมาก่อนเวียดนาม แต่เนื่องจากทิศทางและนโยบายของภาครัฐ ที่ยังไม่มีความชัดเจนและต่อเนื่องในเรื่องนี้ ทำให้ยังเติบโตได้ไม่มากเท่าที่ควร
ต่างจากเวียดนามที่มีนโยบายและแรงจูงใจเกี่ยวกับการพัฒนาโซลาร์เซลล์อย่างชัดเจน ทั้งยังผลักดันเรื่องนี้มาต่อเนื่อง ตั้งแต่ก่อนเกิดโควิด-19 หรือ ปี 2020 ทำให้ช่วงหลังสามารถเดินหน้าเรื่องการพัฒนาโซลาร์เซลล์ ได้รวดเร็วมาก
| เวียดนามไปไกลลิบ
ผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์มากสุด |
|
| ประเทศ | ยอดรวมการผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ |
| 1. เวียดนาม | 16.660GW |
| 2. ไทย | 3.049GW |
| 3. ฟิลิปปินส์ | 1.370GW |
| *ไทยตั้งเป้าผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ 15.6GW ภายในปี 2036 | |
| ที่มา: International Renewable Energy Agency 2021 | |
แต่ทั้งนี้เมื่อเทียบกับแผนพัฒนาพลังงานของไทยที่มีอยู่ตอนนี้ ตัวเลขการผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ รวม 3.049GW ของไทยเรียกว่ายังอยู่ในระดับเพียง 20% ของแพลนที่วางไว้จากเป้าหมายที่จะผลิตให้ได้ 15.6GW ภายในปี 2036
เกิดเป็นโอกาสทางการตลาด และศักยภาพในการพัฒนาโซลาร์เซลล์ ที่มีความต้องการพุ่งขึ้นสูงมากในไทยหลังจากนี้ จนทรินา โซลาร์ เริ่มเล็งเห็น และจะหันมาให้ความสำคัญมากขึ้นต่อไปในอนาคต
–




