Fast and Furious 7 ,Age of Ultron ,Mission Impossible : Rogue Nation และ 007 Spectre คือรายชื่อของภาพยนตร์ภาคต่อฟอร์มยักษ์ที่เข้าฉายสร้างความสุขให้คอหนังตลอดปี 2015 แต่ไม่มีเรื่องเลยที่ระดับความคาดหวังของผู้ชมและค่ายหนังจะสูงได้เท่ากับ Star Wars : The Force Awakens เพราะนี่คือภาพยนตร์ที่คนรู้จักมากสุดในโลกอันมาพร้อมโอกาสทางการตลาด สามารถต่อยอดสู่สินค้าได้อีกมากมาย โดย J.J. Abrams ผู้กำกับมากฝีมือแห่งยุคคือคนที่ถูกเลือกให้มาเป็น “ผู้ปลุกอุบัติการณ์แห่งพลัง”

Abrams ลืมตาขึ้นมาดูโลก เมื่อ 27 มิถุนายน 1966 ที่เมือง New York ของสหรัฐฯ มีพ่อและแม่เป็นผู้อำนวยการสร้าง ต้นทุนทางครอบครัวดังกล่าวผนวกกับความชอบส่วนตัว หลังจบมัธยม Abrams จึงเลือกเรียนต่อสายภาพยนตร์ที่วิทยาลัย Sarah Lawrence College โดยผลงานหนังสั้นระหว่างเรียนที่เข้าตานักวิจารณ์สังกัดหนังสือพิมพ์ Los Angles Times ทำให้เขาได้รางวัลเป็นเด็กทำความสะอาดฟิล์มหนัง 8 มม.เก่าให้กับ Steven Spielberg เป็นเวลา 2 เดือน

ความที่ J.J. Abrams เป็นมีคนหัวด้านดนตรีด้วย โดยเฉพาะคีย์บอร์ด ส่งคอหนังแฟนพันธ์แท้วง Beastie Boys ผู้นี้ ได้งานแรกในวงการภาพยนตร์เป็นผู้แต่งเพลงประกอบให้กับ Nightbeast หนังสัตว์ประหลาดสยองขวัญเมื่อปี 1982 ด้วยวัยเพียง 16 ปี

อีก 8 ปีถัดมาได้ค่าตอบแทนจากการเป็นผู้เขียนบทครั้งแรกเมื่อบทที่เขียนร่วมกับเพื่อนถูกซื้อและนำไปพัฒนาต่อเป็น Taking Care of Business หนังตลกปี 90 แต่ผลงานสร้างชื่อให้เจ้าตัวจริงๆ คือ Forever Young หนังรักข้ามเวลา ปี 1992 นำโดยแสดงโดย Mel Gibson ที่กวาดรายได้ถล่มทลาย

ตลอดยุค 90 คาบเกี่ยวมาถึงครึ่งแรกของทศวรรษที่ 2000 Abramsมีชื่ออยู่ในหนังอีกหลายเรื่อง ในหลายหน้าที่ ทั้งผู้เขียนบท ผู้อำนวยการสร้าง หรือแม้กระทั่งตัวประกอบ และก้าวสู่วงการโทรทัศน์พร้อมขยับขึ้นเป็นผู้กำกับ 3 ซี่รี่ย์ดังอย่าง Felicity ,Alias และ Lost ภายใต้ชายคา Bad Robot บริษัทที่เขานั่งเก้าอี้ประธานบริษัท

ความดังของเรื่องที่ 2 ซึ่งว่าด้วยเรื่องของสายลับสาว ยังส่งให้ปี 2006 คนบันเทิง Gen X รายนี้ ได้เปิดตัวในฐานะผู้กำกับหนังฟอร์มยักษ์ภาคต่อครั้งแรกกับ Mission Impossible III ซึ่งกวาดความสำเร็จอย่างงดงามทั้งด้านรายได้และคำชม อานิสงส์จาก MI:III ทำให้ Abrams ได้งานกำกับ Star Trek เวอร์ชั่นจอเงินครั้งใหม่อีก 2 ภาค แน่นอนว่ากวาดทั้งรายได้และคำชมอีกเช่นเคย

ด้วยภูมิหลัง ฝีไม้ลายมือ ผลงานพ่วงความสำเร็จที่ผ่านมา ทำให้ Abrams คือตัวเลือกเหมาะสมที่สุดสำหรับการกำกับ Star Wars ภาคใหม่และภาคแรก หลัง George Lucas ขายลิขสิทธ์ให้ Walt Disneyโดยเจ้าตัวเผยว่า ครั้งแรกที่ถูกทาบถามได้ปฏิเสธไปเพราะแบกรับความกดดันและความคาดหวังไม่ไหว แต่ก็ตัดสินใจรับงาน หลัง Walt Disney เสนอให้หนึ่งใน 1 ใน 3 ตัวเอกรุ่นใหม่เป็นหญิงพร้อมให้สิทธ์ปรับบทได้เต็มที่ร่วมกับ Lawrence Kasdan มือเขียนบทจาก Empire Strike Back และ Return of the Jedi สองภาคสำคัญ

การคืนชีพหนังที่มาพร้อมคำโปรยอมตะว่า “กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ณ กาแล็กซี่ อันไกลโพ้น” ภายใต้การกุมบังเหียนของ Abrams เริ่มขึ้นตั้งแต่ต้นปี 2013 และดำเนินไปอย่างพิธีพิถัน

โดยผู้กำกับวัย 49 ปี ประเดิมด้วยการกลับไปดู Star War ภาคก่อนๆ ใหม่อีกครั้ง และหนังอีกหลายเรื่องที่เป็นแรงบันดาลใจให้ George Lucas ถัดมาเป็นการคัดเลือกกลุ่มนักแสดงหน้าใหม่ที่พร้อมรับบทไปอีกหลายปีและต้องเล่นได้เข้าขากับทีมนักแสดงหลักรุ่นเก่าด้วย

ส่วนฉากก็ใช้สถานที่จริงให้ได้มากสุดเพื่อความสมจริง โดยมี Spielberg เพื่อนสนิทต่างวัยร่วมวงการ เป็นหนึ่งในคนกลุ่มแรกที่ได้ดูก่อนเพื่อตัดสินว่า เป็น “หนังครบรส บทชวนติด ภาษาภาพแสดงนัยที่ต้องการสื่อได้ตรงจุด-โดนใจ จนผู้ชมทุกเพศทุกวัยต่างสนุกไปกับหนัง ไม่ต่างจากการได้กลับไปเป็นเด็กอีกครั้งและออกจากโรงมาด้วยพร้อมความอิ่มเอม” ตามที่ต้องการ

ความทุ่มเทของ J.J. Abrams ในทั้งฐานะแฟนพันธ์แท้ Star Wars และผู้กำกับ ผลิดอกออกผลอย่างงดงาม คุ้มทั้งเวลา แรงงานและเงินของ Disney ยืนได้จากคอหนังที่มาร่วมรับรู้อุบัติการณ์แห่งพลังกันเนืองแน่นตามโรงหนังทั่วโลก

จนภาคล่าสุดของ “มหากาพย์สงครามอวกาศ” ทุนสร้าง 200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ราว 7,000 ล้านบาท) กลายเป็นหนังที่กวาดรายได้ทั่วโลกถึง 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 35,000 ล้านบาท) เร็วที่สุด หลังเข้าฉายเพียง 12 วัน พร้อมคำชมอย่างเป็นเอกฉันท์จากนักวิจารณ์ทุกสำนัก

Marketeer ธันวาคม 2558

ที่มา : wired.com ,esquire.com ,wikipedia.com ,telegraph.co.uk ,rollingstone.com และwikipedia.com

อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ 
Website : Marketeeronline.co / Facebook : www.facebook.com/marketeeronline


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer