ญี่ปุ่น แชมป์จุดหมายปลายทางในต่างประเทศของนักเดินทางชาวไทยปี 2023 พบเกือบครึ่งของผู้ตอบแบบสอบถาม เลือกวางแผนการเดินทางด้วยตัวเอง คาดมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 4.5 หมื่นบาท/ทริป สำหรับการเดินทางพักผ่อน
วีซ่า (Visa) เผยผลสำรวจ เทรนด์การท่องเที่ยวต่างประเทศของนักเดินทางชาวไทย ปี 2023 (Thailand’s Travel Intentions Study 2023-Outbound Edition) ดำเนินการสำรวจผู้ตอบแบบสอบถามชาวไทย 2,000 คน
พบว่า 10 อันดับแรก จุดหมายปลายทางที่นักเดินทางชาวไทยอยากไปเยือนมากที่สุดในปี 2023 ได้แก่ 1. ญี่ปุ่น 81%, 2. เกาหลีใต้ 52%, 3. นิวซีแลนด์ 43%, 4. สิงคโปร์ 41%, 5. สหราชอาณาจักร 35%, 6. สหรัฐอเมริกา 33%, 7. ออสเตรเลีย 31%, 8. ฝรั่งเศส 29%, 9. ฮ่องกง 26% และ 10. อิตาลี 23%
ญี่ปุ่นแชมป์ จุดหมายในต่างประเทศ
ของนักเดินทางไทย ปี 2023 |
|
ประเทศ | % ผู้ตอบแบบสอบถาม |
1. ญี่ปุ่น | 81% |
2. เกาหลีใต้ | 52% |
3. นิวซีแลนด์ | 43% |
4. สิงคโปร์ | 41% |
5. สหราชอาณาจักร | 35% |
6. สหรัฐอเมริกา | 33% |
7. ออสเตรเลีย | 31% |
8. ฝรั่งเศส | 29% |
9. ฮ่องกง | 26% |
10. อิตาลี | 23% |
ที่มา: Visa สำรวจผู้ตอบแบบสอบถามชาวไทย 2,000 คน |
ขณะที่ 3 ปัจจัยหลักซึ่งใช้ในการพิจารณาเลือกจุดหมายปลายต่างประเทศที่จะไปเยือน ได้แก่ 1. ค่าใช้จ่ายในการเดินทางท่องเที่ยว 65%, 2. สภาพอากาศ 49% และ 3. ความต้องการไปเยือนสถานที่ใหม่ ๆ 48%
เหตุผล 3 อันดับแรกของการตัดสินใจท่องเที่ยวต่างประเทศ ได้แก่ 1. สำรวจสถานที่ใหม่ ๆ ที่พวกเขาไม่เคยไปเยือนมาก่อน 61%, 2. การได้ใช้เวลาอันมีค่าร่วมกับครอบครัวและเพื่อนฝูง 42% และ 3. การได้ไปเยือนสถานที่ที่ชื่นชอบอีกครั้ง 36%
หากกล่าวถึงการวางแผน พบว่า 1. นักเดินทางชาวไทยส่วนใหญ่เลือกที่จะวางแผนการท่องเที่ยวทั้งหมดด้วยตนเอง 41% 2. ขณะที่กลุ่มอื่น ๆ มีทั้งที่เลือกจะไปเที่ยวแบบทัวร์ส่วนตัวที่ปรับเปลี่ยนแผนการเดินทางได้ 21% และ 3. เลือกเที่ยวเป็นกลุ่มแบบแพ็กเกจทัวร์ 11%
นอกจากนั้น จำนวนทริปที่นักเดินทางชาวไทยคาดว่าจะเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศในช่วง 12 เดือนข้างหน้า ได้แก่ 1 ครั้ง 53%, 2 ครั้ง 31% และ 3 ครั้ง 11%
โดยระยะเวลาท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมที่สุด คือ 5-7 วัน 39%, 8-10 วัน 22% และนานกว่าสองสัปดาห์ แต่ไม่เกินหนึ่งเดือน 12%
ส่วน 3 เหตุผลหลักที่นักเดินทางชาวไทยจะยอมจ่ายเงินมากขึ้น เพื่อเพิ่มอรรถรสในการท่องเที่ยวต่างประเทศ ได้แก่ 1. การรับประทานอาหารที่ดีขึ้น 56%, 2. เลือกบริการที่ให้ความสะดวกสบายมากกว่า 52% และ 3. ไปเยือนจุดหมายปลายทางที่น่าตื่นตาตื่นใจยิ่งขึ้น 36%
ทั้งคาดว่านักเดินทางชาวไทยจะมีการใช้จ่ายเฉลี่ยที่ราว 45,000 บาท/ทริป กับการเดินทางเพื่อการพักผ่อน ในขณะที่ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยของการเดินทางเพื่อธุรกิจอยู่ที่ 40,000 บาท/ทริป
ส่วนเรื่องรูปแบบการชำระเงินในต่างแดนที่นักเดินทางชาวไทยจะเลือกใช้ คือ 1. ใช้บัตรในการชำระเงิน 69%, 2. เงินสด 61% และ 3. โมบายคอนแทคเลส และกระเป๋าเงินดิจิทัล 57%
ทั้งนี้ นักเดินทางชาวไทยยังบอกอีกว่า ข้อดี 3 อันดับแรกที่เลือกชำระเงินในรูปแบบดิจิทัลระหว่างการเดินทาง คือ 1. ปลอดภัย 60%, 2. สะดวก 56% และ 3. สามารถติดตามการใช้จ่ายได้ 49%
พิภาวิน สดประเสริฐ ผู้จัดการวีซ่า ประจำประเทศไทย เผยว่า การระบาดครั้งใหญ่ที่ผ่านมาก่อให้เกิดความต้องการสะสมในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทย หลังจากที่ไม่สามารถออกไปท่องโลกได้มาเป็นเวลานาน
และเมื่อหลายประเทศได้กลับมาเปิดพรมแดนอีกครั้ง เราจึงต้องการจะศึกษาให้ลึกขึ้นถึงพฤติกรรมและความต้องการที่อาจเปลี่ยนแปลงไปของนักท่องเที่ยวชาวไทยในการออกสํารวจโลกแห่งความไม่แน่นอนใบนี้กันอีกครั้ง
เป็นที่ชัดเจนว่านักเดินทางชาวไทยมีความพร้อม และความต้องการท่องเที่ยวต่างประเทศ และในขณะเดียวกันก็พร้อมที่จะมองข้ามผ่านข้อวิตกกังวลอันเกี่ยวเนื่องกับสถานการณ์โรคระบาดในประเทศจุดหมายปลายทาง
วีซ่าหวังว่าการนำเสนอข้อมูลที่เป็นประโยชน์นี้จะช่วยให้ภาคอุตสาหกรรม พันธมิตร และลูกค้าของเราได้เข้าใจถึงพฤติกรรมการท่องเที่ยวของผู้บริโภคชาวไทยได้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้เราสามารถปรับตัวและสนับสนุนนักท่องเที่ยวชาวไทยให้สามารถออกไปเดินทางสำรวจโลกได้อีกครั้ง
–
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ Website: Marketeeronline.co
Facebook: www.facebook.com/marketeeronline



