ท่ามกลางการฟื้นตัวของสภาพเศรษฐกิจที่ส่งผลให้การแข่งขันธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ร้อนระอุขึ้นเรื่อยๆ บิ๊กแบรนด์อย่าง เอพี ไทยแลนด์ ปิดปี 65 แบบสวยๆ ด้วยการเปิดตัวโครงการใหม่มากถึง 51 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 63,600 ล้านบาท กวาดยอดขายสุทธิ New High Record ที่ 50,415 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนหน้าถึง 44%
ล่าสุด เอพี ไทยแลนด์ ประกาศแผนธุรกิจปี 2566 AP INCLUSIVE GROWTH ที่สุดของปีกับการเติบโตร่วมกัน ตั้งเป้าใหม่ใหญ่กว่าเดิมกับการเปิดตัวแบบดุดันถึง 58 โครงการ มูลค่ากว่า 77,000 ล้านบาท ตั้งเป้าทั้งปีปูพรมรวม 192 โครงการทั่วไทย มูลค่าพร้อมขายกว่า 165,600 ล้านบาท ตั้งเป้ายอดขาย 58,000 ล้านบาท และเป้ารับรู้รายได้ 57,500 ล้านบาท
วิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กรและการสร้างสรรค์ บมจ. เอพี ไทยแลนด์ กล่าวว่า
“ภาพรวมเศรษฐกิจไทยปีนี้ถือว่าเริ่มมีสัญญาณที่ดี หลายธุรกิจเริ่มขยับตัวขึ้น เชื่อว่าจากปัจจัยบวกในเรื่องของการท่องเที่ยว และการบริโภคภายในประเทศจะกระตุ้นเซนติเมนต์ที่ดีให้เกิดขึ้น ขณะที่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ถ้าดูจากกราฟการเปิดตัวโครงการใหม่ในปีที่ผ่านมา จะเห็นรูปแบบของกราฟที่เริ่มปรับตัวเป็นขาขึ้น สะท้อนได้ถึงภาพตลาดที่เริ่มฟื้นตัวคืนกลับ จึงมั่นใจได้ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ปีนี้น่าจะสดใสและขับเคลื่อนไปต่อ
“เอพี ไทยแลนด์เอง ต้อนรับศักราชใหม่กับกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจภายใต้แผน 2023 AP INCLUSIVE GROWTH ที่สุดของปีกับการเติบโตร่วมกัน ด้วยแผนการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ควบคู่ไปกับการขยายภาคธุรกิจ โดยใช้ความชำนาญที่มีมาสร้างโอกาส และข้อได้เปรียบให้เกิดขึ้นในหลากหลายมิติ ภายใต้ปรัชญาที่ต้องการส่งมอบชีวิตดีๆ ที่ทุกคนเลือกเองได้ ผ่านการดำเนินงาน 3 มิติคือ
1. DIVE DEEPER IN PROPERTY BUSINESS ทำงานแบบเจาะลึก เข้มข้นยิ่งขึ้น เพื่อครองความเป็นผู้นำในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัย
ผ่าน 3 กลุ่มธุรกิจหลัก คือ กลุ่มธุรกิจพัฒนาคอนโดมิเนียม กลุ่มธุรกิจพัฒนาบ้านเดี่ยว และกลุ่มธุรกิจพัฒนาทาวน์โฮม โดยปีนี้ เอพี ไทยแลนด์ ยังคงตั้งเป้าการทำงานที่ท้าทายตัวเองมากขึ้น ด้วยแผนการเปิดตัวโครงการใหม่ที่มีมูลค่ามากที่สุดในตลาด จำนวน 58 โครงการ มูลค่ากว่า 77,000 ล้านบาท เป็นบ้านเดี่ยว 22 โครงการ มูลค่า 34,800 ล้านบาท ทาวน์โฮมจำนวน 27 โครงการ มูลค่า 26,400 ล้านบาท คอนโดมิเนียม 4 โครงการ มูลค่า 11,800 ล้านบาท และโครงการในต่างจังหวัด 5 โครงการ มูลค่า 4,000 ล้านบาท ส่งผลให้ทั้งปีเอพีจะมีโครงการพร้อมขายทั้ง กทม. และต่างจังหวัดมากกว่าถึง 192 โครงการ มูลค่ากว่า 165,600 ล้านบาท โดยตั้งเป้ายอดขาย 58,000 ล้านบาท เป้ารายได้รวม 100% JV ที่ 57,500 ล้านบาท
2. HATCH NEW BUSINESS ต่อยอดความชำนาญในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ด้วยการค้นหาช่องว่างตลาดใหม่
โดยการนำทรัพยากรที่มีไปบ่มฟักนักคิด นักสร้างสรรค์รุ่นใหม่ เพื่อต่อยอดสร้างสรรค์ธุรกิจใหม่ๆ ที่สามารถนำกลับมาสนับสนุนธุรกิจในระยะยาวแบบองค์รวม ทั้งในมิติธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบใหม่ๆ หรือเพื่อเสริมธุรกิจอื่นๆ ในเครืออย่าง สมาร์ท เซอร์วิส แอนด์ แมเนจเมนท์ (SMART) หรือ บางกอก ซิตี้สมาร์ท (BC) พร็อพเพอร์ตี้โบรกเกอร์แบบครบวงจร เป็นต้น
ต่อยอด FitFriend เทรนเนอร์เดลิเวอรี่
หนึ่งในไฮไลต์สำคัญคือ FitFriend เทรนเนอร์เดลิเวอรี่ ที่ประสบความสำเร็จในการเปิดตัวเมื่อที่ผ่านมา เนื่องจากสามารถตอบโจทย์ เทรนด์ในเรื่องของสุขภาพ ทำให้ FitFriend มีคนใช้บริการมากกว่า 6,000 คลาส ปัจจุบันมีเทรนเนอร์อยู่ในระบบมากกว่า 100 คน และทุกคนผ่านการรับรองจากสถาบันชั้นนำและผ่านการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมจึงมั่นใจได้ในมาตรฐานของเทรนเนอร์ที่ไม่ต่างจากการใช้บริการในฟิตเนส ชื่อดัง
ที่สำคัญ นอกจากจะให้บริการแก่บุคคลทั่วไปผ่านระบบ Line Official-FitFriend แล้ว วันนี้ FitFirend ยังสเกลอัพไปเป็นอีกหนึ่งเซอร์วิส ภายใต้การบริหารจัดการของสมาร์ท เซอร์วิส แอนด์ แมเนจเมนท์ เพื่อให้บริการแก่ลูกบ้านเอพี ไทยแลนด์ที่สมาร์ทบริหารจัดการกว่า 370 โครงการอีกด้วย
3. PEOPLE & SOCIAL ร่วมขับเคลื่อนสังคมให้เติบโตไปร่วมกัน ด้วยการสานต่อความตั้งใจที่จะเป็นองค์กรที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพ ‘คน’
ด้วยการมอบทักษะแห่งอนาคตแก่ทุกคน ทั้งพนักงานในเครือ นิสิต นักศึกษา หรือบัณฑิตผู้พิการ เพื่อสนับสนุนให้ทุกคนมีชีวิตดีๆ ที่เลือกเองได้ ผ่านโครงการเพื่อสังคมต่างๆ ที่ทำอย่างต่อเนื่อง เช่น AP OPEN HOUSE โปรแกรมฝึกงานในฝันของนิสิตนักศึกษาทั่วประเทศ ที่จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 8 จนได้รับการยอมรับว่าเป็นโปรแกรมการฝึกงานที่ดีที่สุดในประเทศไทย หรือแคมเปญ I AM POWER ที่จัดขึ้น เพื่อเอ็มพาวเวอร์บัณฑิตผู้พิการให้มีโอกาสเข้าถึงทักษะการทำงานใหม่ๆ
เจาะลึกทิศทาง 3 กลุ่มธุรกิจหลัก
Unlock Vertical Life ไปกับกลุ่มธุรกิจทาวน์โฮม
ในปี 2565 ที่ผ่านมากลุ่มธุรกิจทาวน์โฮมเอพีมีอัตราการเติบโตที่เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะด้านยอดขายที่เติบโตกว่า 30% ในปีที่ผ่านมา และโตกว่า 90% หากเทียบกับปี 2562
เมธา รักธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานพัฒนาธุรกิจกลุ่มสินค้าทาวน์โฮม บมจ. เอพี ไทยแลนด์ ระบุว่า “สำหรับในปีนี้กลุ่มธุรกิจทาวน์โฮม ตั้งเป้าสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ภายใต้โรดแมป Unlock Vertical Life พื้นที่ชีวิตแนวตั้ง ที่เลือกเองได้ เพื่อยังคงครองภาพการเป็นผู้นำตลาดทาวน์โฮมในเมือง ในปีนี้กลุ่มธุรกิจทาวน์โฮมเตรียมเปิดตัวทาวน์โฮมใหม่จำนวน 27 โครงการ มูลค่า 26,400 ล้านบาท ครอบคลุมครบทั้ง 6 Sub-Brand ตั้งแต่ระดับราคา 1.69 – 25 ล้านบาท
โดยไฮไลต์สำคัญคือ การขยายพอร์ตสินค้าในกลุ่มบ้านแฝดมากยิ่งขึ้น ด้วยแบรนด์บ้านกลางเมือง THE EDITION (ดิ อิดิชั่น) ซึ่งเป็นแบรนด์บ้านแฝด 3 ชั้น ที่มีหน้ากว้างที่มากสุดถึง 12.8 เมตร และ GRANDE PLENO (แกรนด์ พลีโน่) เป็นบ้านแฝด 2 ชั้น หน้ากว้าง 13.5 เมตร รวมถึงการเปิดตัว Luxury Townhome ซึ่งทำเลใหม่ในปีนี้ของเราคือ บ้านกลางเมือง คลาสเซ่ รัชโยธิน คาดว่าจะพร้อมเปิดตัวในช่วงประมาณไตรมาส 3
พาบ้านเดี่ยวรุกตลาด Super Luxury
ขณะที่กลุ่มธุรกิจบ้านเดี่ยวยังคงเดินหน้าเปิดตัวโครงการใหม่ในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น ทั้งในมิติด้านมูลค่าโครงการและจำนวนโครงการที่เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว
รัชต์ชยุตม์ นันทโชติโสภณ รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานพัฒนาธุรกิจกลุ่มสินค้าบ้านเดี่ยว บมจ.เอพี ไทยแลนด์ กล่าวว่า “ในปีนี้เอพี ไทยแลนด์เตรียมเปิดบ้านเดี่ยวใหม่ จำนวน 22 โครงการ มูลค่า 34,800 ล้านบาท โดยไฮไลต์สำคัญคือ การรุกเข้ากินแชร์ตลาดบนใน 2 เซกเมนต์ คือ บ้านเดี่ยวระดับ Luxury ราคา 20 – 50 ล้านบาท และบ้านเดี่ยวระดับ Super Luxury ราคา 50 – 100 ล้านบาท
โดยเตรียมเปิดตัว THE CITY (เดอะ ซิตี้) บ้านเดี่ยวโมเดลใหม่ ขนาดพื้นที่ 100-127 ตารางวา พื้นที่ใช้สอยประมาณ 386-560 ตารางเมตร ใน 3 โครงการ ได้แก่
- THE CITY จรัญฯ – ปิ่นเกล้า จำนวน 58 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,350 ล้านบาท ซึ่งจุดเด่นของโครงการนี้คือ แบบบ้านสไตล์อังกฤษ พร้อมห้องใต้หลังคา ที่มีให้เลือก 4 โมเดล
- THE CITY ปิ่นเกล้า-บรมฯ 3 จำนวน 68 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,420 ล้านบาท กับแบบบ้าน 3 แบบในสไตล์ Modern Classic
- THE CITY สุขุมวิท-อ่อนนุช 2 จำนวน 64 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,380 ล้านบาท ซึ่งทั้ง 3 โครงการพร้อมเปิดขายในไตรมาส 1 นี้
“นอกจากนั้น ในปีนี้กลุ่มธุรกิจบ้านเดี่ยวไม่หยุดนิ่งที่จะมองหาโอกาสในการพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวในทำเลเมือง โดยเรามีเป้าที่จะเปิดตัวโครงการบ้านกลางกรุง บ้านเดี่ยวขนาด 4 – 5 ชั้นในทำเลเมือง หลังจากที่โครงการบ้านกลางกรุงสาธุประดิษฐ์ – พระราม 3 ที่เปิดตัวไปเมื่อปี 2564 ประสบความสำเร็จ รวมถึงการอัพสเกลคฤหาสน์หรู THE PALAZZO (เดอะ พาลาสโซ่) เพื่อตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มมั่งคั่งอีกด้วย”
กลุ่มธุรกิจคอนโดมิเนียม กำลังสำคัญผลักดัน Inclusive Growth ให้สำเร็จ
กมลทิพย์ บำรุงชาติอุดม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานพัฒนาธุรกิจกลุ่มสินค้าคอนโดมิเนียม บมจ. เอพี ไทยแลนด์ กล่าวว่า “ภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมในปี 2566 นี้น่าจะฟื้นตัวกลับเข้าสู่ภาวะใกล้เคียงกับปีก่อนเผชิญโควิด-19 ซึ่งหากดูจากยอดขายคอนโดมิเนียมเครือเอพีในปีที่ผ่านมา จะพบว่ามีอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้นกว่า 4 เท่า หรือคิดเป็น 11,440 ล้านบาท โดยในปีนี้กลุ่มธุรกิจคอนโดมิเนียม เตรียมเปิดตัว 4 คอนโดมิเนียมใหม่ มูลค่ารวม 11,800 ล้านบาท”
นอกจากแผนการเปิดตัวโครงการใหม่แล้ว อีกหนึ่งมิติที่กลุ่มธุรกิจคอนโดจะร่วมผลักดันให้เป้าหมาย Inclusive Growth ในภาพใหญ่เอพี ไทยแลนด์ประสบความสำเร็จ คือ การสานต่อความร่วมมืออย่างต่อเนื่องกับทางมิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป ซึ่งปีนี้ถือเป็นการครบรอบ 10 ปีของความร่วมมือระหว่างเอพี ไทยแลนด์กับทางมิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป โดยที่ผ่านมาได้พัฒนาโครงการร่วมกันมาแล้วทั้งสิ้น 21 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 1 แสนล้านบาท และยังคงมีแนวคิดร่วมกันที่จะผลักดันการพัฒนาคอนโดมิเนียมไทยให้ตอบโจทย์การอยู่อาศัยร่วมกันของทุกคน (Inclusive Living) มากยิ่งขึ้น
ในปีนี้กลุ่มธุรกิจคอนโดเตรียมส่งมอบ 4 คอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ มูลค่ารวมกว่า 16,200 ล้านบาท มีทั้งคอนโดในเซกเมนต์ Prestige Lux อย่าง THE ADDRESS สยาม-ราชเทวี (ดิ แอดเดรส สยาม-ราชเทวี) คาดว่าจะพร้อมส่งมอบประมาณ ไตรมาส 3, คอนโดในเซกเมนต์ Luxury กับ RHYTHM เจริญกรุง พาวิลเลี่ยน (ริธึ่ม เจริญกรุง พาวิลเลี่ยน) ที่เปิดตึกพร้อมโอนกรรมสิทธิ์เป็นที่เรียบร้อย และ ASPIRE (แอสปาย) จำนวน 2 โครงการ กับ ASPIRE ปิ่นเกล้า-อรุณอมรินทร์ และ ASPIRE รัตนาธิเบศร์ เวสต์ตัน ซึ่งทั้ง 2 โครงการ เป็น ASPIRE คอนโด ในคอนเซ็ปต์ใหม่ที่ก่อสร้างเสร็จเป็น 2 โครงการแรก
#APInclusiveGrowth #APBusinessDirection #APThai #ชีวิตดีๆที่เลือกเองได้ #APNewHome2023
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ Website: Marketeeronline.co
Facebook: www.facebook.com/marketeeronline



