ในเวลาใกล้ครบ 4 ทศวรรษ ของโลแลน เเบรนด์ดูเเลเส้นผมสัญชาติไทย ขวัญใจกลุ่ม Local กำลังก้าวสู่ภาพลักษณ์ใหม่ ที่ทันสมัยขึ้น ขยายฐานลูกค้าสู่กลุ่มคนเมืองรายได้สูง เเละคนรุ่นใหม่
ช่วงการเเพร่ระบาดที่ทุกคนต้องกักตัวในบ้าน เเม้ตลาดเครื่องสำอางจะได้รับผลกระทบ เเต่สำหรับผลิตภัณฑ์ดูเเลผมกลับยังเติบโตได้ การทำสีผม DIY คือกิจกรรมหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากการปิดตัวของร้านซาลอน
บริษัท เอส.ซี. เสรีชัยบิวตี้ จำกัด ผู้ผลิตเเละจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดูเเลเส้นผม เเบรนด์โลเเลน (Lolane) เปิดเผยว่า ในปี 2565 ตลาดผลิตภัณฑ์เส้นผมไทย เติบโตอย่างต่อเนื่อง กลุ่มที่เติบโตมากที่สุด คือ Color Refresh, Leave on เเละ Bleaching ขณะที่ Treatment&Color Cream เติบโตเล็กน้อยจากปีก่อน
จากผลสำรวจตั้งเเต่เดือนมกราคม-มิถุนายน 2565 พบว่า 2 กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ คือ กลุ่มทรีตเมนต์ มีมูลค่า 3,180 ล้านบาท โต 4% ส่วนกลุ่มทำสีผมมีมูลค่า 1,483 ล้านบาท โต 14% แบ่งเป็น Color Cream 642 ล้านบาท เเละ Color shampoo 618 ล้านบาท
เอกศาสตร์ สรรพช่าง รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด บริษัท เอส.ซี. เสรีชัยบิวตี้ จำกัด กล่าวว่า อานิสงส์จากช่วงโควิด ผู้คนรัดเข็มขัดค่าใช้จ่าย จึง Trade down มาใช้เเบรนด์ไทย จากที่ตัวเลือกเเรกเป็นอินเตอร์เเบรนด์ ทำให้ในระยะสามปีมานี้ โลแลนเติบโต 2 Digit ทุกปี
เเม้เจอกับการเเพร่ระบาด กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูเเลเส้นผมไม่ได้รับผลกระทบมากนัก ดีมานด์ยังคงมีมาอย่างต่อเนื่อง ยิ่งในช่วงปิดเทอม กลุ่มนักเรียนนักศึกษาให้ความสนใจกับการทำสีผม ช่วยผลักดันยอดขายในกลุ่มผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผมขึ้นอีก
ประกอบกับในปีนี้การทำสีผมจะยังคงได้รับความนิยมเช่นเดิม จากการออกไปใช้ชีวิตข้างนอกมากขึ้น ผนวกกับกระเเส KPOP กระตุ้นให้เกิดเทรนด์สีผมในกลุ่มคนรุ่นใหม่อีกทาง
โลเเลนมีผลิตภัณฑ์ทั้งหมด 500-700 รายการ ครอบคลุมการจำหน่ายทั้งในเเละ 30 ประเทศทั่วโลก ผลิตภัณฑ์เส้นผมของเเบรนด์ ครอบคลุมใน 3 หมวดหมู่หลัก ได้แก่ ผลิตภัณฑ์สำหรับบำรุงเเละดูเเลสุขภาพเส้นผม (Clean & Care) ผลิตภัณฑ์เปลี่ยนโครงสร้างผม (Transformer) เเละผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผม (Styling)
เเต่เป็นเเบรนด์ที่เริ่มต้นจากตลาดเสริมสวยซาลอนเป็นฐานเดิม สัดส่วนการขายในขณะนั้นอยู่ที่กลุ่มนี้ 90% เเต่เมื่อเกิดการบอกต่อผลิตภัณฑ์จากช่างสู่ลูกค้า เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เเบรนด์ก้าวเข้าสู่ตลาด B2C เต็มตัว สัดส่วนการขายก็สลับมายังกลุ่มนี้ 90%
เเม้ B2C จะให้กำไรที่มากกว่า เจ้าอื่น ๆ ก็ลงเล่นในตลาดนี้อย่างหนักเช่นกัน เเต่ B2B สำหรับโลแลนยังคงจำเป็น เพราะเปรียบเสมือนอิมเมจของเเบรนด์
จึงเป็นเหตุผลในการกลับมาลุยตลาด B2B ในรอบ 10 ปีของโลแลน เจาะตลาดด้วยสินค้าเรือธงอย่าง Pixxel Pro อย่างไรก็ตาม ในระยะยาว เเบรนด์มองว่าจะเเยกสินค้าสำหรับกลุ่มซาลอนออกจากภาพกำกับของโลแลน ไม่ให้กระทบภาพจำของโลเเลนในการเป็นสินค้ากลุ่มเเมส
นอกจากเจาะตลาด Professional Salon & Barberเเล้ว เเบรนด์วางเเผนเปิดตัวสินค้าในกลุ่มพรีเมียมมากขึ้น Tag On ขยายการใช้งานไปสู่ทรีตเมนต์ เเละลีฟออน รวมถึงขยายระยะเวลาโปรโมชันเเพ็กคู่เเละการลดราคาต่อเนื่อง จากการซื้อที่ลดลงของผู้บริโภค ทั้งยังเพิ่มเเบรนด์ OEM ในช่องทางออนไลน์มากขึ้น
ปริญญา ทัศคร ผู้จัดการฝ่ายการตลาดอาวุโส บริษัท เอส.ซี. เสรีชัยบิวตี้ จำกัด กล่าวเสริมว่า เเม้ที่ผ่านมา ด้วยช่องทางการจำหน่ายที่อยู่ใน Modern Trade มากกว่า 30.56% ทำให้เเบรนด์ได้รับผลกระทบอยู่บ้าง เเต่ในปีนี้ ตั้งเป้ายอดขายโต 13% พร้อมปรับภาพลักษณ์แบรนด์ให้ทันสมัย ขยายฐานลูกค้าสู่กลุ่มคนเมืองรายได้สูง จากเดิมที่ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มฐานเเมส
ขณะที่สัดส่วนตลาดต่างประเทศอยู่ในระดับ 20-25% ประกอบด้วยตลาดหลักในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เเละกลุ่มประเทศอาหรับเเละเอเชียใต้ในตลาดรอง
ผลิตภัณฑ์ขายดีส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มสีผม อาทิ Pixxel Color เเละ Cool&Easy group ซึ่งปีนี้จะเน้นรุกทำการตลาดโดยเฉพาะในจีน ที่เป็นตลาดใหญ่ เเละมีการเติบโตด้านความงามสูง
–
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ Website: Marketeeronline.co
Facebook: www.facebook.com/marketeeronline
