ยังคงเดินหน้าสร้างปรากฏการณ์อย่างต่อเนื่อง สำหรับ The First Slamdunk หนังอนิเมะภาคจบของมังงะ บาสเกตบอลเรื่องดังยุค 90
โดยเฉพาะญี่ปุ่น ประเทศบ้านเกิดที่โกยเงินไปแล้วมากกว่า 10,000 ล้านเยน (ราว 2,550 ล้านบาท) และประสบความสำเร็จในทุกประเทศแถบเอเชียที่เข้าฉาย
ในเกาหลีใต้ จำนวนผู้ชมมากเกิน 2.61 ล้านคน แซง Howl’s Moving Castle ขึ้นเป็นหนังอนิเมะญี่ปุ่นผู้ชมมากสุดอันดับ 2 ท่ามกลางการจับตามองว่า จะแซงสถิติ 3.79 ล้านคนที่ Your Name ทำไว้เมื่อปี 2016 ได้หรือไม่
และทุกประเทศที่หนังเข้าฉายยังทำให้เวอร์ชันมังงะและสินค้าเกี่ยวกับ Slamdunk กลับมาขายดี นอกจากนี้ ยังทำให้เกิดการไปเที่ยวยังสถานที่จริงหรือฉากสำคัญในญี่ปุ่น
โดยเฉพาะทางข้ามรถไฟสถานีคามาคูระ โคโคมาเอะ ในจังหวัดคานากาวะ เพื่อตามรอยหนังอนิเมะของแฟน ๆ จากทั่วเอเชียอีกด้วย ซึ่งมีทั้งคุณพ่อชาวไต้หวันวัยกลางคนที่พาครอบครัวมาด้วย สาววัย 32 ปีชาวอินโดนีเซีย และคู่รักวัยรุ่นจากเกาหลีใต้วัย 20 ปี
คอหนังที่ไปซื้อตั๋วชม The First Slamdunk ทั่วเอเชีย รวมถึงไทย ส่วนใหญ่มีอายุ 30-40 ปี ที่เคยอ่านเวอร์ชันมังงะมาก่อนเพราะอยากรู้ว่าตอนจบที่รอมานาน 26 ปี จะลงเลยอย่างไร
สื่อญี่ปุ่นวิเคราะห์ผ่านทัศนะของนักวิชาการในประเทศว่า การแห่ไปดู The First Slamdunk เป็นปรากฏการณ์ทางจิตวิทยาที่เรียกว่า Zeigarnik effect ซึ่งตั้งชื่อตามนักจิตวิทยาชาวลิทัวเนียยุคอดีตสหภาพโซเวียต
ผู้ให้คำจำกัดความเรื่องที่ยังค้างคา และผลกระทบรุนแรงหรือความต้องการอยากรู้ฉากจบเพื่อเต็มเติมความทรงจำให้สมบูรณ์ ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้หนังภาคต่อโดยเฉพาะภาคสุดท้ายประสบความสำเร็จ
สำหรับ Slamdunk เป็นหนึ่งในมังงะและอนิเมะกีฬาเรื่องดังที่สุดของญี่ปุ่น แต่งโดย ทาเคฮิโกะ อิโนะอูเอะ เมื่อยุค 90 และเคยปลุกกระแสบาสเกตบอลในญี่ปุ่นให้คึกคักจนเมื่อปี 2010 สมาคมบาสเกตบอลญี่ปุ่น มอบรางวัลเชิดชูเกียรติให้เขา
ความสำเร็จของ Slamdunk ยังเป็นการตอกย้ำว่า แม้ปัจจุบันหนังและซีรีส์ญี่ปุ่นถูกเกาหลีใต้แซงไปไกลแล้วทั้งในระดับเอเชียและระดับโลก
แต่มังงะ อนิเมะ รวมไปถึงการ์ตูนแขนงต่าง ๆ ของญี่ปุ่น ยังถือเป็น Soft power ที่แข็งแกร่ง และสามารถสร้างกระแสได้เสมอ เพราะมีฐานแฟนอยู่อย่างเหนียวแน่นและองค์ความรู้ที่สั่งสมมายาวนานนั่นเอง/nikkei
–
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ Website: Marketeeronline.co
Facebook: www.facebook.com/marketeeronline



