บริทาเนีย (BRI) ปิดปี 2565 กวาดกำไรสุทธิ สูงสุดนับแต่ก่อตั้ง 1.4 พัน ลบ. ตั้งเป้าปี 2566 เปิดตัวบ้านจัดสรรใหม่ All Time High รวม 20 โครงการ มูลค่า 2.2 หมื่น ลบ. เน้นเจาะเซกเมนต์ผู้บริโภค ราคา 5-10 ลบ. เหตุเป็นกลุ่มกำลังซื้อกลับมาโตสุดของภาคอสังหาฯ แนวราบ ในไทย ธงยอดขายทั้งปี 1.3 หมื่น ลบ. ยอดรับรู้รายได้ 9 พัน ลบ.
นายสุรินทร์ สหชาติโภคานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI บริษัทผู้พัฒนาบ้านจัดสรร เผยว่า ปี 2565 บริษัทเปิด 9 โครงการบ้านจัดสรรใหม่ มูลค่า 12,000 ล้านบาท ยอดขาย 11,045 ล้านบาท โต 32% YoY ยอดรับรู้รายได้ 6,296 ล้านบาท โต 65% YoY มีกำไรสุทธิ 1,471 ล้านบาท โต 144% YoY สูงสุดนับแต่ก่อตั้งบริษัทในปี 2016 รวมโครงการพัฒนาแล้ว 30 โครงการ มูลค่าโครงการสะสม 36,449 ล้านบาท
ขณะที่ แผนการดำเนินงาน ปี 2566 บริษัทจะเปิดตัวโครงการใหม่ และเป้าตัวเลข สูงสุด นับแต่ตั้งบริษัท รวม 20 โครงการ มูลค่ารวม 22,500 ล้านบาท ตั้งเป้ายอดขาย 13,000 ล้านบาท ยอดรับรู้รายได้ 9,000 ล้านบาท
แบ่งอยู่ใน 4 แบรนด์ในเครือบริษัท ทั้ง 1. เบลกราเวีย (Belgravia) บ้านเดี่ยวลักชัวรี (ราคา 20-50 ล้านบาท) เปิดใหม่ 2 โครงการ
2. แกรนด์ บริทาเนีย (Grand Britania) บ้านเดี่ยวและบ้านแฝดระดับ High-End (ราคา 8-20 ล้านบาท) เปิดใหม่ 4 โครงการ
3. บริทาเนีย (Britania) บ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม ระดับ Mid-End (ราคา 4-8 ล้านบาท) เปิดใหม่ 12 โครงการ
4. ไบรตัน (Brighton) บ้านแฝด และทาวน์โฮม (ราคา 2.5-4 ล้านบาท) เปิดใหม่ 2 โครงการ
กระจายตัวบุกทำเลทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล อาทิ สมุทรปราการ, นนทบุรี, ปทุมธานี, เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) อย่าง ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา ตลอดจนหัวเมืองใหญ่ในต่างจังหวัด นำร่องที่ ขอนแก่น
โครงการไฮไลท์ ได้แก่ เบลกราเวีย ราชพฤกษ์-นครอินทร์ (Belgravia Ratchapruek-Nakornin) และเบลกราเวีย พุทธมณฑล สาย 3 (Belgravia Phuttamonthon Sai 3)
ซึ่งถือเป็นการนำแบรนด์บ้านเดี่ยวลักชัวรีของบริษัทกลับมาเจาะตลาดอีกครั้ง ในทำเลที่เชื่อมต่อเมือง และการเดินทางได้สะดวก ทั้งได้รับการตอบรับที่ดีอย่างมากในช่วงก่อนหน้านี้ ชูจุดเด่นด้วยจำนวนยูนิตน้อย เพิ่มความเป็นส่วนตัวกับพื้นที่ตัวบ้านมากกว่า 100 ตร.ว.
นอกจากนั้น บริษัทยังประเมินว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์แนวราบในไทย ปี 2566 จะกลับมามีดีมานด์จากผู้บริโภคต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเซกเมนต์ใหญ่สุดของอสังหาฯ แนวราบ หรือบ้านจัดสรร อย่างระดับราคา 5-10 ล้านบาท จะเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อกลับมาเติบโตแข็งแกร่งที่สุด และเป็นตลาดที่บริษัทจะโฟกัสเป็นหลัก
ดังจะเห็นได้จากการเปิดตัวโครงการใหม่ในแบรนด์บริทาเนีย (Britania) บ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม ระดับ Mid-End (ราคา 4-8 ล้านบาท) มากที่สุดจาก 4 แบรนด์ในเครือ อยู่ที่ 12 โครงการ
ด้านกลยุทธ์การทำงานของบริษัท จะดำเนินอยู่ภายใต้ “B To The Top” สู่เป้าหมายผู้นำธุรกิจพัฒนาบ้านจัดสรรระดับทอป ใน 3 มิติ ได้แก่ 1. B The Growth เปิดตัวโครงการใหม่ สูงที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท
2. B The Craft สร้างประสบการณ์ผ่านนวัตกรรมการอยู่อาศัย พื้นที่ส่วนกลาง ที่ตั้งใจออกแบบจาก Customer Insight การดูแลความปลอดภัย พร้อมยกระดับมาตรฐานการบริการ ทั้งก่อนและหลังการขายอย่างครบวงจร
3. B The Goodness เป็นบริษัทที่รับผิดชอบต่อชุมชน และสังคม มุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero ในปี 2050 ผ่านการดำเนินงานตลอดห่วงโซ่คุณค่าตั้งแต่ต้นน้ำ คือ การออกแบบ เลือกใช้วัสดุฉลากเขียว และการก่อสร้าง การเพิ่มพื้นที่สีเขียว การจัดการขยะ จนถึงปลายน้ำ คือ สนับสนุนการใช้พลังงานสะอาด ตั้งเป้าติดตั้งโซลาร์รูฟทอป ณ คลับเฮาส์ทุกโครงการ และติดตั้งจุดเชื่อมต่อ EV Charger ให้กับบ้านทุกหลัง
–
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ Website: Marketeeronline.co
Facebook: www.facebook.com/marketeeronline



