ตลาดเบียร์ เดือด ไทยเบฟ ทุ่มพันล้าน รุกตลาดเเมสพรีเมียม ดัน ‘ช้าง โคลด์ บรูว์’ เกาะตลาดเบียร์ Low Energy

ไทยเบฟทุ่มงบ 1,000 ล้าน เสริมเเกร่งช้าง โคลด์ บรูว์ ลุยตลาดเบียร์เเมสพรีเมียมมูลค่า 25,000 ล้านบาท ดันส่วนเเบ่งพอร์ต 15% ของเบียร์ในไทยเบฟ

ธุรกิจสุราและเบียร์ ยังคงเป็นพอร์ตใหญ่ที่สุดที่ขับเคลื่อนการเติบโตแก่ไทยเบฟ  โดยล่าสุดหันมาผลักดัน ‘ช้าง โคลด์ บรูว์’ เเบรนด์เบียร์ที่เกิดขึ้นสามปีก่อน เพื่อฉลองครบรอบ 25 ปีของเเบรนด์ช้าง เป็นทางเลือกเเก่ผู้บริโภคที่ชอบดื่มเบียร์รสชาตินุ่ม  เมื่อได้รับผลตอบรับอย่างดีจากผู้บริโภค จึงผลักดันให้กลายเป็น Key Product ของเเบรนด์เบียร์ช้าง

เลสเตอร์ ตัน ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุดสายธุรกิจเบียร์ประเทศไทย บริษัท ช้าง อินเตอร์เนชั่นเเนล จำกัด กล่าวว่า เเม้ช่วงโควิดจะทำตลาดเบียร์โดยรวมตกลง เเต่ในปีนี้มีเเนวโน้มฟื้นกลับมาได้

ปีที่ผ่านมาเบียร์เเมสพรีเมียม เป็นเซกเมนต์ที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว สูงถึง 10%  ด้วยมูลค่ากว่า 25,000 ล้านบาท เเละเบียร์ โคลด์ บรูว์ เติบโตเป็นอันดับหนึ่งในบรรดาเบียร์ที่เปิดตัวใหม่ในช่วง 15 ปีมานี้

แม้ตลาดเเมสพรีเมียมมีสัดส่วนทิ้งห่างจากไฮพรีเมียม เเต่มีการเติบโตมากที่สุดในทุกเซกเมนต์ โดยที่ ตลาดเบียร์ ในภาพรวม เเบ่งได้เป็นกลุ่ม High Premium ประมาณ 70% Mass Premium 15% Economy 12% เเละ Mass 2%

ด้วยกระเเส Low Energy ได้กลายเป็นเทรนด์มาเเรง โดยเฉพาะหลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย ผู้คนเปลี่ยนพฤติกรรมการดื่ม มีกลุ่มที่มุ่งเน้นความ Relax มากขึ้น เป็นโอกาสของ ‘ช้าง โคลด์ บรูว์’ เข้าช่วงชิงตลาด จับกระเเส Low Energy ที่กำลังมาเเรง เพื่อสร้างการเติบโตไปได้แบบระยะยาว

ตามกลยุทธ์การเติบโต 3 เสา

1. Product  ชูความเป็นเบียร์เเบรนด์เเรกในไทย ที่ผลิตจากมอลต์ 100% ผ่านกระบวนการผลิตโคลด์บรูว์ กรองในอุณหภูมิต่ำกว่าจุดเยือกเเข็ง (Sub Zero Filtration) ทำให้รสชาตินุ่ม สดชื่น ดื่มง่าย

2. Innovation ให้ความสำคัญกับการสร้างนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์รูปแบบใหม่ ๆ ซึ่งปีที่ผ่านมา ช้าง โคลด์ บรูว์ ออกผลิตภัณฑ์เบียร์สดถัง 5 ลิตร เเละกล่องเเพ็กเเบบยาว  ส่งผลให้เเบรนด์ได้กระเเสจากการเป็นไวรัลในสังคมออนไลน์

3. การขยายช่องทางการขายอย่างครอบคลุม ที่ผ่านมา ช้าง โคลด์ บรูว์ ช่องทางการจำหน่ายจะต่างกับช้างคลาสสิค โดยจะจำกัดการขายเเค่ในเฉพาะภาคกลางเเละภาคเหนือ เพื่อลองตลาดก่อน อีกทั้งยังจำหน่ายในช่องทางออนเทรดเเละโมเดิร์นเทรดเป็นหลักเท่านั้น

แต่เมื่อเเบรนด์เริ่มเป็นที่ต้องการมากขึ้น ในปีนี้จึงรุกขยายไปยังช่องทางค้าปลีก (Traditional Trade) มากขึ้น ในสัดส่วนมากกว่า 80% ของการขายจะอยู่ในช่องทางนี้ อำนวยความสะดวกเเก่ลูกค้า หาซื้อได้ง่ายขึ้น ครอบคลุมทุกช่องทาง

สำหรับการขยายฐานผู้บริโภค มุ่งเน้นกลุ่มในกรุงเทพฯ เเละหัวเมืองใหญ่เป็นหลัก โฟกัสคนรุ่นใหม่ หรือ First Jobber เเละผู้ต้องการเครื่องดื่มรสชาตินุ่มที่ให้ความผ่อนคลาย

อย่างไรก็ตาม การมีสินค้าภายใต้ชื่อเเบรนด์เดียวกันผู้บริโภคเกิดความสับสน จึงต้องออกกลยุทธ์การตลาดที่เเตกต่าง เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายต่างกัน ช้างคลาสสิคจะวางตำแหน่งอยู่ในกลุ่ม High Energy ที่เน้นการสังสรรค์ ขณะที่ช้าง โคลด์ บรูว์ สำหรับกลุ่ม Low Energy ต้องการเครื่องดื่มในเวลาผ่อนคลาย

โดยจะทุ่มงบ 1,000 ล้านบาท ในช่วงปีงบประมาณ เพื่อสร้างการเติบโตเเละสร้างการจดจำแก่ ช้าง โคลด์ บูรว์ ผ่านกิจกรรมดนตรีเเละคอนเสิร์ตทั้งในเเละนอกประเทศ ดันส่วนแบ่งพอร์ตให้ถึง 15% ของเบียร์ในไทยเบฟทั้งหมด

คุณเลสเตอร์ให้ความเห็นในตอนท้ายว่า ในอนาคตความนิยมเครื่องดื่ม Low Energy จะไม่ใช่เพียงเทรนด์ชั่วคราว เเต่จะเป็นความนิยมในระยะยาว อีกทั้งเบียร์พรีเมียมเเมสจะเติบโตได้อย่างรวดเร็ว อาจใช้เวลาเพียงสามปีในการเติบโตไปถึง 20%

อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ 
Website : Marketeeronline.co / Facebook : www.facebook.com/marketeeronline



อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ Website: Marketeeronline.co
Facebook: www.facebook.com/marketeeronline

ติดตาม Marketeer Online ทาง LINE Official


เพิ่มเพื่อน