“เป้าหมายของแมคโดนัลด์ในปี 2566 คือการเติบโต 20% ด้านยอดขาย และสร้างผลกำไรให้กลับมามากที่สุด
จากปีที่ผ่านมาที่แมคโดนัลด์มียอดขาย 5,500 ล้านบาท เติบโต 40% และทำกำไรได้มากถึง 120 ล้านบาท และเป็นกำไรครั้งแรกหลังจากที่ขาดทุนต่อเนื่องมาตลอด 3-4 ปีที่ผ่านมา” กิตติวรรณ อนุเวชสกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แมคไทย จำกัด ให้ข้อมูลในวันแถลงทิศทางแมคโดนัลด์ 2566
การเติบโตในปีที่ผ่านมาของแมคโดนัลด์เป็นการเติบโตกว่าเป้าหมายจากเดิมที่วางไว้ 20% ส่วนหลักมาจากยอดขายในไตรมาสสี่ ที่มียอดขายสูงสุดในช่วง 10 ปีที่ผ่าน เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกัน จากการปรับตัวและวางกลยุทธ์ใหม่ทั้งช่องทางจำหน่าย เซตเมนูพิเศษ และการสร้างประสบการณ์ที่ดีกับแบรนด์ผ่านพนักงาน บริการ เทคโนโลยีอำนวยความสะดวก และการทยอยปรับร้านใหม่ 23 สาขา ให้มีความทันสมัยและอบอุ่น พร้อมกับเปิดสาขาใหม่เพิ่ม 4 สาขา
ส่วนปี 2566 การมุ่งไปสู่เป้าหมายเติบโต 20% กิตติวรรณ วางกลยุทธ์การเติบโต 3 ประการ ประกอบด้วย
1. ผลักดันตลาดผ่านไก่ทอด เข้าถึง Gen Z
ในปีนี้แมคโดนัลด์มีแผนสร้างสัดส่วนรายได้ไก่ทอดจากเดิม 17% ของรายได้ทั้งหมดให้เพิ่มสูงขึ้น ผ่านการบุกตลาดไก่ทอดเชิงรุก ปรับสูตรไก่ทอดใหม่ เน้นแป้งน้อย กรอบนอก ฉ่ำในเข้าเนื้อ ให้เป็นเมนูที่สามารถสร้างจุดแข็งเรื่องความหลากหลาย
แมคโดนัลด์ให้ข้อมูลว่าไก่ทอดกรอบนอก ฉ่ำใน เข้าเนื้อ เป็นรสชาติที่ตรงกับคำตอบของ ChatGPT หรือ AI Chat Bot เมื่อถามถึงไก่ทอดที่อร่อยสมบูรณ์แบบนั้นเป็นอย่างไร
การลงเล่นตลาดไก่ทอดเชิงรุกเป็นหนึ่งในโอกาสที่จะสร้างการเติบโตเนื่องจากตลาดไก่ทอด 25,000 ล้านบาท เป็นตลาดที่มีมูลค่าสูงสุดในเซกเมนต์อาหาร QSR (Quick Service Restaurant) จากพฤติกรรมผู้บริโภคไทย และเอเชียนิยมรับประทานไก่มากกว่าเนื้อสัตว์อื่น ๆ ประกอบกับในกลุ่มนี้มีการแข่งขันของผู้เล่นจำนวนมากที่ดึงดูดผู้บริโภคให้เข้ามารับประทานไก่ทอดแบรนด์ของตัวเอง
การรุกตลาดไก่ทอดในครั้งนี้แมคโดนัลด์เน้นการสื่อสารเข้าถึงกลุ่ม Gen Z ให้เข้ามาเป็นลูกค้าที่แมคโดนัลด์เป็นหลัก
เหตุผลที่ต้องการผลักดันไก่ทอดสู่กลุ่ม Gen Z เพราะกลุ่ม Gen Z มีศักยภาพและกำลังซื้อ และเป็นกลุ่มที่นิยมไก่ทอดมากเป็นเศษ
แม้เมนูไก่ทอดไม่ใช่ของใหม่สำหรับแมคโดนัลด์ เพราะเป็นเมนูที่มีมาอย่างยาวนานมากกว่า 20 ปี แต่เป็นเมนูที่กิตติวรรณเป็นผู้ริเริ่มนำมาให้บริการ เป็นหนึ่งในเมนูดึงดูดกลุ่มลูกค้าให้มีความหลากหลายในการรับประทานอาหารในแมคโดนัลด์ นอกเหนือจากเบอร์เกอร์ เมนูที่สร้างยอดขายหลักให้กับแบรนด์
เนื่องจากในอดีตที่ผ่านมากิตติวรรณเคยร่วมงานกับแมคโดนัลด์ในยุคของเดช บุลสุข ผู้ก่อตั้งแมคโดนัลด์ในประเทศไทย ก่อนออกไปหาประสบการณ์ใหม่ ๆ จากการเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทโฆษณาและที่ปรึกษาด้านการตลาด และกลับมาเป็นประธานกรรมการบริหาร แมคโดนัลด์ อีกครั้งในปีที่ผ่านมา
2. ยังคงให้ความสำคัญกับเซตเมนูอร่อยสุดคุ้ม ที่เข้าถึงง่าย สร้างความถี่ในการใช้บริการ
เซตเมนูอร่อยสุดคุ้ม 99 บาท เมนูเบอร์เกอร์ 4 ชนิด+เฟรนช์ฟรายส์ และน้ำอัดลม ที่ออกมาให้บริการในปีที่ผ่านมาถือเป็นเมนูที่ประสบความสำเร็จของแมคโดนัลด์ในฐานะเมนูที่ช่วยเพิ่มความถี่ให้กลุ่มลูกค้าเข้ามาใช้บริการแมคโดนัลด์บ่อยขึ้น
และสามารถสร้างยอดขายได้มากกว่า 25 ล้านบาทต่อเดือน คิดเป็นสัดส่วนยอดขาย 8.2% ของยอดขายทั้งหมด
ในปีนี้กิตติวรรณยังคงให้ความสำคัญกับชุดเมนูสุดคุ้ม ผ่านเมนูเบอร์เกอร์ 4 ชนิดเดิม และต่อยอดนำไก่ทอดเมนูชูโรงในปีนี้จัดเซตเป็นหนึ่งในเมนูสุดคุ้มเพิ่มขึ้นมาเพื่อเพิ่มความหลากหลายและเข้าถึงกลุ่มลูกค้ามากขึ้น
และมีการทำโปรโมชั่นจับคู่ McSaver 55 บาท เข้าถึงกลุ่มนักเรียน นักศึกษาอีกด้วย
3. พัฒนาบริการ รีโนเวต ขยายสาขา สร้างประสบการณ์ที่มีความทันสมัย
แมคโดนัลด์ยังคงให้ความสำคัญกับการพัฒนาบริการ นวัตกรรมใหม่ ๆ สนองความต้องการของลูกค้าต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา
เพราะกิตติวรรณมองว่าบริการสร้างความประทับใจให้ลูกค้ายังเป็นกุญแจสำคัญของแมคโดนัลด์ ที่ให้ลูกค้ารับรู้ว่าแมคโดนัลด์ไม่ได้ขายเพียงเบอร์เกอร์ แต่ขายประสบการณ์ที่ดีกับแบรนด์ผ่าน Experience of the Future มีความทันสมัย บนเทคโนโลยีและนวัตกรรม และความใส่ใจของพนักงานที่ให้บริการดูแลลูกค้า เพื่อสร้างความสะดวกสบายให้กับลูกค้ามากที่สุด เช่น ตู้คีออสสั่งอาหารด้วยตัวเอง พนักงานต้อนรับที่ให้บริการลูกค้าทุกเรื่องในร้าน
และบริการเสิร์ฟอาหารถึงโต๊ะในกรณีที่ลูกค้าไม่ต้องการยืนรอรับอาหาร ซึ่งเป็นบริการที่สร้างความแตกต่างจากแบรนด์ QSR อื่น ๆ
และในปีนี้ยังคงเดินหน้าเปิดสาขาเพิ่ม 10-15 สาขา จากปัจจุบันที่มีอยู่ 228 สาขา และรีโนเวตสาขาเพิ่มขึ้น 30 สาขา ด้วยงบลงทุนทั้งหมด 300 ล้านบาท
การรีโนเวตสาขาของแมคโดนัลด์เป็นหนึ่งในแนวทางที่สามารถสร้างยอดจำหน่ายให้กับสาขาที่รีโนเวตเพิ่มขึ้นได้อีกทางหนึ่ง
4. ต่อยอด 3D Delivery, Drive Thru และ Digital
Delivery, Drive Thru และ Digital ยังคงเป็นกลยุทธ์หลักที่สร้างการเติบโตของแมคโดนัลด์ ในปีนี้ส่วนของ Delivery เน้นนำตลาดและแคมเปญต่าง ๆ ผ่านการจับมือร่วมกับพาร์ตเนอร์แพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี พร้อมกับอำนวยความสะดวกให้กับไรเดอร์ที่เป็นตัวแทนรับอาหาร จัดพื้นที่จอดรถ นั่งรอ น้ำดื่ม และจุดชาร์จแบตมือถือ
Drive Thru จัดแคมเปญ Drive Thru Challenge ทุกเดือนให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการจับเวลาความเร็วในการรอรับอาหาร เกินเวลากำหนดได้อาหารฟรี
Digital ผ่านแอปพลิเคชันแมคโดนัลด์ ช่องทางที่กิตติวรรณมองว่าจะสามารถเชื่อมโยงการให้บริการลูกค้าในรูปแบบ Omni Channel ระหว่างโลกออนไลน์และช่องทางบริการต่าง ๆ
และเป็นช่องทางที่ทำให้แมคโดนัลด์รู้จักลูกค้ามากขึ้น ผ่านดาต้าเบสที่เข้ามาใช้บริการผ่านแอป
พร้อมกับดึงดูดลูกค้าให้ใช้บริการผ่านแอปด้วย มีแคมเปญพรีวิเลจและส่วนลดต่าง ๆ ซึ่งปัจจุบันมีลูกค้าดาวน์โหลดใช้บริการมากกว่า 3 ล้านราย
ทั้งนี้การบุกตลาดของแมคโดนัลด์คือหนึ่งในเกมกลยุทธ์ที่ต่อยอดรายได้ในขาอื่น ๆ ให้แข็งแกร่งเพิ่มขึ้น จากเดิมที่เป็นผู้นำด้านเบอร์เกอร์ ที่มีส่วนแบ่งตลาดมากถึง 60% ในปีที่ผ่านมา
–
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ Website: Marketeeronline.co
Facebook: www.facebook.com/marketeeronline



