อ้วยอันโอสถ พลิกแบรนด์ด้วย Music Marketing เพื่อเชื่อมคนทุกเจนฯ
พูดถึง ‘อ้วยอันโอสถ’ หลายคนนึกถึงสมุนไพรไทย ตำนาน และความเก่าแก่
ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะ ‘อ้วยอันโอสถ’ คือแบรนด์สมุนไพรไทยที่อยู่คู่คนไทยมากว่า 70 ปี จากร้านขายยาเล็ก ๆ หนึ่งคูหาที่ขึ้นชื่อว่าเป็นต้นตำรับยาลูกกลอนโบราณ สู่ยุคทายาทรุ่น 2 คิดค้นและแตกไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ได้อย่างรวดเร็ว พร้อมขยายโรงงานรองรับเทรนด์การเติบโตของตลาดยาสมุนไพร
มาถึงทายาทรุ่น 3 ที่ต่อยอดโดยการเพิ่มเทคโนโลยีนวัตกรรม และความรู้ใหม่ ๆ ให้กับผลิตภัณฑ์ที่ปัจจุบันมีมากกว่า 100 SKU ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายทุก Generations และทุกกลุ่มความต้องการ พร้อมพาอ้วยอันโอสถเติบโตจนกลายเป็นสินค้ายอดฮิตในกลุ่มนักท่องเที่ยว วางขายในร้านขายยา Convenience Store, King Power และ Tourist Spot ทั่วประเทศ
Key Success ที่ทำให้อ้วยอันโอสถเติบโตได้ทุกวันนี้ ประการแรกคือ ความสามารถในการคิดค้นผลิตภัณฑ์ได้เร็ว ยาอมสมุนไพรอ้วยอัน คือเจ้าแรก ๆ ที่วางขายตามร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศ ในยุคเริ่มต้นของตลาดยาสมุนไพร อ้วยอันสามารถผลิตสมุนไพรประเภทต่าง ๆ เช่น ขมิ้นชัน ฟ้าทลายโจร รองรับความต้องการของตลาดได้ทันท่วงที นั่นคือวิสัยทัศน์ในการมองการณ์ไกลและการปรับตัวอย่างรวดเร็วของผู้บริหารในยุคนั้น
ถัดมาคือ Motto ของแบรนด์ที่มีมาตั้งแต่รุ่น 1 คือการให้ความสำคัญเรื่อง ‘คุณภาพของผลิตภัณฑ์’ เป็นที่มาของชื่อแบรนด์ ซึ่งในภาษาจีนหมายความว่า สะอาดและปลอดภัย และกลายเป็นหลักและแนวทางในการผลิตสินค้าของอ้วยอันมาจนถึงปัจจุบัน ที่คุณภาพมาตรฐานการผลิตได้พัฒนาไปตามยุคสมัยและเทียบกับยาแผนปัจจุบัน
แต่ในยุคปัจจุบันที่ตลาดยาสมุนไพรก้าวเข้าสู่ Red Ocean นอกจากการคิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ หรือการใส่ใจในคุณภาพสินค้าอาจไม่เพียงพอต่อการแข่งขัน…
เป็นที่มาของการเดินทางมาพูดคุยกับ นิชา สมบูรณ์เวชชการ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อ้วยอันโอสถ จำกัด ถึงประเด็นสำคัญอย่างการตลาดและการสร้างแบรนด์ของ “อ้วยอันโอสถ”


ที่ล่าสุดใช้กลยุทธ์ Music Marketing กับแคมเปญ #ไอจัสวอนนาแฮฟอ้วยอันได้บ่ ที่นำเพลงฮิตติดหูอย่าง “อ้ายจัสวอนน่าเป็นแฟนยูได้บ่?” ของ สิงโต นำโชค มาดัดแปลงเนื้อร้อง ออกแบบท่าเต้น พร้อมทำ MV ขึ้นมาใหม่ เพื่อให้เสียงเพลงเป็นสื่อกลางในการเชื่อมต่อคนทุกเจนฯ
ก่อนเจาะลึกเบื้องหลังแคมเปญดังกล่าว คุณนิชาเล่าประวัติการสร้างแบรนด์ของอ้วยอันโอสถให้ฟังคร่าวๆ ว่า ย้อนกลับไป 10 ปีก่อน ยาสมุนไพรค่อนข้างคล้ายกันเกือบทุกแบรนด์ ประกอบกับมีผู้เล่นมากมายในตลาด อ้วยอันโอสถจึงพยายามหาจุดแตกต่างเพื่อสร้างความโดดเด่น จึงเริ่มสร้างแบรนด์ (Branding) อย่างจริงจัง
“การสร้างแบรนด์เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้คนรุ่นใหม่หรือคนใหม่รู้จักเราและเป็นส่วนสำคัญทำให้ธุรกิจเติบโต อ้วยอันโอสถจึงลงทุนในเรื่องนี้ โดยเริ่มต้นจากการสร้างแบรนด์ภายในองค์กรตั้งแต่พนักงาน ไปจนถึงการปรับโลโก้ เปลี่ยนแพ็กเกจจิ้ง ให้ดูเด็กลง เข้ากับคนทุก Gen มากขึ้น
“จากนั้นเราจึงเริ่มสร้าง Brand Awareness ในตอนนั้น (ปี 2017) เราเลือกวิธีใช้พรีเซนเตอร์ ซึ่งก็คือคุณแต้ว ณฐพร ตัวแทนของผู้หญิงยุคใหม่ ทันสมัย แต่ในขณะเดียวกันก็มีความเป็นไทย โดยทุก Process การทำงานเราลงลึกถึงรายละเอียด เจาะอินไซต์ผู้บริโภคว่าอยากเห็นแบรนด์สมุนไพรไทยเป็นอย่างไร เราได้รับการตอบรับที่ดี คนรู้จักอ้วยอันโอสถมากขึ้น จากนั้นมีการเปิดตัวยาสำหรับเด็ก ตอนนั้นเราได้คุณโอปอล์ ปณิสรา น้องอลินและน้องอลันมาเป็นพรีเซนเตอร์ เปิดตัวได้ไม่นานก็เจอกับสถานการณ์โควิด-19 เลยเงียบไป”
#ไอจัสวอนนาแฮฟอ้วยอันได้บ่
หลังโควิดคลี่คลายสถานการณ์เริ่มกลับมาใกล้เคียงปกติมากขึ้น อ้วยอันโอสถก็พร้อมเดินหน้าปรับภาพลักษณ์แบรนด์ให้มีความทันสมัย และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ครอบคลุมทุกเพศทุกวัยอีกครั้ง
แต่ด้วยแนวคิดในการทำการตลาดที่ไม่ยึดติดกับกรอบเดิม ๆ ทำให้ครั้งนี้อ้วยอันโอสถมองหากลยุทธ์ใหม่ ๆ ที่ช่วยให้แบรนด์สามารถเข้าไป Touch ใจกลุ่มเป้าหมายได้อย่างครอบคลุม
“โจทย์ในการทำตลาดของเรา คือ ทำให้อ้วยอันโอสถ ซึ่งเป็นของดีของไทยที่ทุกคนนิยมใช้มานาน สามารถเข้าถึงไปพร้อม ๆ กับขยายฐานกลุ่มลูกค้า ที่มีตั้งแต่กลุ่มสูงวัยไปจนถึงกลุ่ม young gen แน่นอนว่าลูกค้าแต่ละกลุ่มก็มีไลฟ์สไตล์และพฤติกรรมในการเสพสื่อที่แตกต่างกัน เราจึงต้องเลือกกลยุทธ์ที่สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ครอบคลุม นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เราเลือกหยิบกลยุทธ์การตลาดยอดฮิต อย่าง Music Marketing มาใช้เป็นครั้งแรก
อย่างที่เกริ่นในข้างต้นว่า อ้วยอันโอสถเลือกนำเพลงฮิตติดหูอย่าง “อ้ายจัสวอนน่าเป็นแฟนยูได้บ่?” ของ สิงโต นำโชค ซึ่งเป็นเพลงที่เป็นที่รู้จักในวงกว้าง การันตีด้วยยอดวิวบนยูทูบที่สูงถึง 150 ล้านวิว มาดัดแปลงเนื้อร้องพร้อมใช้ชื่อเพลงใหม่เป็น #ไอจัสวอนนาแฮฟอ้วยอันได้บ่
ที่น่าสนใจคือ อ้วยอันโอสถ มีการออกแบบท่าเต้นเพื่อให้เหล่าคอนเทนต์ครีเอเตอร์สามารถนำไปต่อยอดเนื้อหาความบันเทิง เพื่อสร้างกระแสไวรัลในโลกออนไลน์บนแพลตฟอร์มต่าง ๆ ซึ่งตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ได้เป็นอย่างดี
โดยเนื้อหาของเพลง #ไอจัสวอนนาแฮฟอ้วยอันได้บ่ มีการสอดแทรกจุดเด่นของอ้วยอันโอสถแบบ “เข้าใจง่าย” โดยคงความสนุกสนานแบบต้นฉบับไว้ นั่นทำให้เพลงนี้ติดหูและร้องตามได้ไม่ยาก
ขณะที่ตัว MV เล่าเรื่องผ่านผู้ชายตัวจิ๋วที่เข้าไปอยู่ในพิพิธภัณฑ์สมุนไพรอ้วยอันโอสถ ทำคนดูฉุกคิดได้ว่าจริง ๆ ผลิตภัณฑ์ยาสมุนไพรนั้นไม่ใช่แค่เกี่ยวพันกับชีวิตของคนไทยมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย แต่ยังสอดแทรกอยู่ในชีวิตประจำวันของคนไทยทุกวัย
ด้วยเนื้อเพลงที่เข้าใจง่ายและบทเพลงที่เข้าถึงคนทุก Gen การเลือกใช้กลยุทธ์ Music Marketing ถือว่าอ้วยอันโอสถตีโจทย์แตก เพราะผลลัพธ์ที่ได้นอกจากจะทำให้แบรนด์ดูเด็กลง เข้าถึงง่ายขึ้นแล้ว ที่สำคัญคือกลุ่มเป้าหมายรู้สึกใกล้ชิดกับอ้วยอันโอสถมากขึ้นด้วย
คุณนิชาทิ้งท้ายไว้ว่า นี่เป็นเพียง Beginning Stage ในโปรเจกต์การสร้างแบรนด์ครั้งใหญ่ของอ้วยอันโอสถเท่านั้น จากนี้ไปจะได้เห็น Movement สนุก ๆ จากแบรนด์ยาสมุนไพรไทยยุคใหม่ที่พร้อมก้าวทันไปกับกระแสโลก ตอกย้ำแนวคิด “เลือกแล้ว อ้วยอันโอสถ สมุนไพรของไทย”
–
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ Website: Marketeeronline.co
Facebook: www.facebook.com/marketeeronline



