เอสซีจี แถลงผลประกอบการ ไตรมาส 1/2566 กำไรสุทธิ 16,526 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 87% จากช่วงเดียวกันปีก่อน อานิสงส์ท่องเที่ยวคึกคัก-จีนเปิดประเทศ เร่งสร้างการเติบโตระยะยาว ด้วย SCG Cleanergy – ปิโตรเคมีครบวงจร LSP ณ เวียดนาม และ SPV บรรจุภัณฑ์กระดาษพรีเมียม ณ เวียดนาม  

 

 รุ่งโรจน์ รังสิโยภาส (คนที่ 3 จากทางซ้ายของภาพ) กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จํากัด (มหาชน) และบริษัทย่อย หรือ เอสซีจี (SCG) แถลงผลประกอบการ ไตรมาส 1/2566

 

ท่องเที่ยวฟื้น-จีนเปิดประเทศ

ส่ง เอสซีจี กำไร Q1/2566

แตะ 1.65 หมื่น ลบ.

ส่วนงานธุรกิจ สินทรัพย์รวม ณ 31 มี.ค. ช2566/ล้านบาท รายได้จากการขาย/ล้านบาท QoQ กำไรสุทธิ/ล้านบาท
ซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง 240,194

 

50,800

 

3% 13,463
เคมิคอลส์ (SCGC) 385,524

 

46,805

 

8% 1,356
แพคเกจจิ้ง (SCGP) 198,506 33,729

 

1% 1,220
ส่วนงานอื่น 383,702 425 N/A 842
งบการเงินรวม 923,725 128,748

 

5% 16,526
ไตรมาส 1/2566 เอสซีจี มีรายจ่ายเงินลงทุน 8,921 ล้านบาท สัดส่วนลงทุน เคมิคอลส์ 52%, ซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง 19%, แพคเกจจิ้ง 19% และ ส่วนงานอื่น 10%
ที่มา: เอสซีจี จัดอันดับตามรายได้ของส่วนงานธุรกิจ / เมษายน 2566

 

ภาพรวมผลประกอบการของ เอสซีจี พบว่าเริ่มมีการฟื้นตัวในทุกกลุ่มธุรกิจ

 

โดย กำไรสุทธิ 16,526 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 87% จากช่วงเดียวกันปีก่อน มาจากกำไรการปรับมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุนใน SCG Logistics จากการรวมธุรกิจ SCGJWD Logistics 11,956 ล้านบาท แต่หากไม่รวมรายการพิเศษ มีกำไรลดลง 42% อยู่ที่ 4,516 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,446 ล้านบาท จากไตรมาสก่อน เหตุเพราะยอดขายที่ปรับเพิ่มขึ้นในทุกกลุ่มธุรกิจ

สำหรับสินค้าและบริการที่มีมูลค่าเพิ่ม (High Value Added Products & Services – HVA) ในไตรมาส 1/2566 มีรายได้ อยู่ที่ 42,184 ล้านบาท คิดเป็น 33% ของรายได้จากการขายรวม

นอกจากนี้ เอสซีจี ยังมีรายได้จากการดำเนินธุรกิจในต่างประเทศ รวมการส่งออกจากประเทศไทย ไตรมาส 1/2566 ทั้งสิ้น 53,468 ล้านบาท หรือ คิดเป็น 42% ของรายได้จากการขายรวม

มี เงินสดภายใต้การบริหารงาน 94,100 ล้านบาท เทียบกับสิ้นไตรมาส 4/2565 อยู่ที่ 95,402 ล้านบาท เงินทุนหมุนเวียนสุทธิ 103,714 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า 2% คาดการณ์รายจ่ายลงทุน และเงินลงทุน ทั้งปี 2566 อยู่ที่ 40,000-50,000 ล้านบาท

 

ทิศทางดำเนินงานในแต่ละกลุ่มธุรกิจ ดังนี้

ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง สัญญาณบวกมาจาก 2 ปัจจัยหลัก 1. การฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยว โดยเฉพาะการเปิดประเทศของจีน ที่ส่งให้ความต้องการรีโนเวตพื้นที่ให้บริการ ช่วยดันตลาดซีเมนต์ และวัสดุก่อสร้างเพิ่มขึ้น

และ 2. ความสามารถในการลดต้นทุนเชื้อเพลิงสำหรับการผลิตในกลุ่มธุรกิจ ด้วยการเพิ่มสัดส่วนเชื้อเพลิงทดแทน จาก 34% ในปี 2565 เป็น 38% ในไตรมาส 1/2566

ขเพิ่มสัดส่วนพลังงานแสงอาทิตย์ จาก 177 เมกะวัตต์ ในปี 2565 เป็น 179 เมกะวัตต์ ในไตรมาส 1/2566

 

ธุรกิจเคมิคอลส์ (SCGC) ความต้องการเคมีภัณฑ์ที่สูงขึ้น หลังจีนเปิดประเทศ ส่งให้โรงงานระยองโอเลฟินส์ (ROC) เร่งกลับมาดำเนินการผลิตให้ทันความต้องการของตลาด

ล่าสุด โครงการปิโตรเคมีครบวงจร LPS เวียดนาม ก็เริ่มทดลองเดินเครื่องในส่วนพอลิโอเลฟินส์ (PP, HDPE, LLDPE) เพื่อผลิตเม็ดพลาสติกป้อนตลาดเวียดนาม ซึ่งมีฐานลูกค้าอยู่แล้ว และจะดำเนินการเชิงพาณิชย์ในกลางปีนี้

 

ธุรกิจแพคเกจจิ้ง (SCGP) การฟื้นตัวของกำลังซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคในประเทศ และการท่องเที่ยว มีส่วนสำคัญให้ผลประกอบการของ SCGP ปรับตัวดีขึ้น โดยได้เตรียมลงทุนใน Starprint Vietnam Joint Stock Company (SPV) เวียดนาม ซึ่งเป็นผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์กระดาษพรีเมียมคุณภาพสูง

ด้านการทำงานที่เกี่ยวข้องกับส่วน Sustainability และช่วยภาครัฐ, ธุรกิจ และอุตสาหกรรม รับมือภาระต้นทุนพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้น

 

รุ่งโรจน์ เสริมว่า SCG มีกลุ่มธุรกิจ SCG Cleanergy ให้บริการซื้อ-ขายไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดครบวงจร สำหรับภาครัฐ, ธุรกิจ และอุตสาหกรรม ได้รับการตอบรับอย่างดี ด้วยระบบเทคโนโลยีอัจฉริยะ (Smart Grid) สำหรับการซื้อ-ขาย ไฟฟ้าพลังงานสะอาด ที่สะดวก-รวดเร็ว ต่อยอดให้ลูกค้าขายไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดได้เองในอนาคต

ล่าสุด ได้รับคัดเลือกเป็นผู้ผลิต-ขายไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ให้ภาครัฐ จำนวน 10 โครงการ ขนาด 367 เมกะวัตต์ ซึ่งเทียบเท่าการใช้ไฟฟ้าเฉลี่ยของบ้าน 180,000 หลังคาเรือน

ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง นวัตกรรมกรีน อย่าง ปูนงานโครงสร้าง เอสซีจี สูตรไฮบริด ช่วยลดโลกร้อน มีสัดส่วนการใช้เพิ่มขึ้น 50% โดยไตรมาส 1/2566 ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ในกระบวนการผลิตได้กว่า 80,000 ตัน หรือเทียบเท่าการปลูกต้นไม้ 8 ล้านต้น

ใช้ก่อสร้างแล้วในหลายโครงการตามมาตรฐานอาคารเขียว อาทิ โครงการ ONE BANGKOK และคอนโดมิเนียม ศุภาลัย ลอฟท์ รัชดาฯ-วงศ์สว่าง หรือ SCG Solar Roof Solutions ก็เติบโต 313% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

SCGC ได้เดินหน้า SCGC GREEN POLYMERTM นวัตกรรมเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม คาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่องในปี 2566 หลังจาก SCGC Green Polymer มียอดขายกว่า 140,000 ตันในปี 2565 ที่ผ่านมา

ทั้งร่วมมือกับธุรกิจระดับโลก อาทิ บริษัท คอลเกต-ปาล์มโอลีฟ (ประเทศไทย) จำกัด พัฒนาบรรจุภัณฑ์น้ำหนักเบาจากเม็ดพลาสติกรีไซเคิลคุณภาพสูง (High Quality Post-Consumer Recycled Resin – PCR) สำหรับสินค้ากลุ่มแป้ง ภายใต้แบรนด์แคร์ และโพรเทคส์

 

และร่วมกับ บริษัท SACMI ดีไซน์ฝาขวดน้ำอัดลมรักษ์โลก ที่มีวงแหวนยึดติดกับคอขวด (Tethered Caps) ช่วยลดการหลุดลอดสู่สิ่งแวดล้อม นำกลับเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ด้าน SCGP ร่วมกับ Origin Materials บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำจากสหรัฐอเมริกา พัฒนา Bio-based Plastic จากชิ้นไม้ยูคาลิปตัสสับ มาผ่านกระบวนการแปรรูปจนได้เป็นสารตั้งต้น Bio-PTA เพื่อใช้ผลิตเป็น Bio-PET สำหรับนำไปผลิตบรรจุภัณฑ์และสินค้าต่าง ๆ



อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ Website: Marketeeronline.co
Facebook: www.facebook.com/marketeeronline

ติดตาม Marketeer Online ทาง LINE Official


เพิ่มเพื่อน