AIA ถอดรหัสลับผู้นำตลาดประกันชีวิต ทำไมยืนหนึ่งในใจผู้บริโภค

ท่ามกลางการเกิดโรคอุบัติใหม่และการดูแลรักษาสุขภาพที่ค่าใช้จ่ายด้านการแพทย์สูงขึ้นเรื่อย ๆ ประกอบกับความตระหนักถึงความมั่นคงในชีวิตของผู้บริโภค ส่งผลให้ธุรกิจประกันแข่งขันกันอย่างดุเดือด

สำหรับ เอไอเอ ประเทศไทย เรียกได้ว่าได้พิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง ภายใต้ความมุ่งมั่นที่จะดูแลลูกค้าอย่างดีที่สุด ควบคู่ไปกับความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาตัวเองให้เป็นมากกว่าบริษัทประกันชีวิต เพื่อสร้างสรรค์โซลูชันด้านผลิตภัณฑ์และการบริการที่มีนวัตกรรม พร้อมตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทุกช่วงชีวิต ตามคำมั่นสัญญา ‘Healthier, Longer, Better Lives – เพื่อสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น’ 

จากความมุ่งมั่นที่ว่าทำให้ในปีนี้ชื่อ เอไอเอ ประเทศไทย ยังคงรักษาความเป็นอันดับหนึ่งในใจผู้บริโภค โดยสามารถคว้ารางวัล “Marketeer No.1 Brand Thailand 2023” ติดต่อกันเป็นปีที่ 12 โดยในปีนี้ได้รับรางวัลแบรนด์ยอดนิยมอันดับ 1 ของประเทศไทย ถึง 2 รางวัล คือ สาขาประกันชีวิต (Life Insurance) และสาขาประกันสุขภาพ (Health Insurance)

เอกรัตน์ ฐิติมั่น ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด เอไอเอ ประเทศไทย อัปเดตเทรนด์การแข่งขันในตลาดประกันให้ฟังว่า

เทรนด์การแข่งขันในธุรกิจประกันนั้นสอดรับกับเทรนด์ของผู้บริโภค เราจะเห็นว่าหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ผู้บริโภคมีความตื่นตัว มีความรู้ความเข้าใจ และเริ่มมองหาประกันสุขภาพเพื่อดูแลตัวเองเพิ่มมากขึ้น ทำให้เราเห็นบรรดาบริษัทประกันต่างพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพใหม่ ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้อุตสาหกรรมมีนวัตกรรมประกันใหม่ ๆ ที่สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคได้หลากหลาย ที่สำคัญคืออุตสาหกรรมประกันเองพัฒนาเร็วขึ้นด้วย

3 กุญแจสำคัญของการเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในใจผู้บริโภค 12 ปีซ้อน

เมื่อถามถึง Key Success สำคัญที่ทำให้เอไอเอ ประเทศไทยเป็นแบรนด์ประกันชีวิตและประกันสุขภาพที่ผู้บริโภคยกให้แบรนด์อันดับหนึ่งในใจ เอกรัตน์ตอบด้วยน้ำเสียงฉะฉานและภาคภูมิใจว่า

1. ความเชื่อมั่นของผู้บริโภค

ความเชื่อมั่นนี้เกิดจากความมั่นคงของเอไอเอประเทศไทย ทั้งในมิติของการดำเนินธุรกิจในประเทศที่ยาวนานถึง 85 ปี ดูแลคนไทยอย่างใกล้ชิดและดีที่สุด รวมถึงในมิติของความแข็งแกร่งด้านการเงิน โดยผลประกอบการครึ่งปีแรกของปี 2566 กลุ่มบริษัทเอไอเอมีมูลค่าธุรกิจใหม่เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 37 กำไรจากการดำเนินงานหลังหักภาษีต่อหุ้น เพิ่มขึ้นร้อยละ 4 รวมถึงเงินปันผลระหว่างกาลต่อหุ้น เพิ่มขึ้นร้อยละ 5 ความแข็งแกร่งดังกล่าวส่งผลให้ผู้บริโภคมั่นใจว่าเอไอเอสามารถดูแลเขาได้ในระยะยาว

2. การพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

ซึ่งเป็นจุดแข็งสำคัญที่ทำให้เอไอเอเป็นผู้นำในตลาดเสมอมา โดยเอไอเอได้พัฒนานวัตกรรมโซลูชันในด้านต่าง ๆ ตามโจทย์และความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละยุคสมัย ทั้งในด้านการดูแลสุขภาพ เพื่อสุขภาพที่ดีและยั่งยืน “Total Health Solution” 

และการวางแผนการเงิน เพื่อชีวิตที่มั่นคงและมั่งคั่ง  “Total Wealth Solution” ยกตัวอย่าง เอไอเอ เฮลธ์ เซฟเวอร์ (AIA Health Saver)” ประกันสุขภาพเหมาจ่ายใหม่ล่าสุดที่เอไอเอตั้งใจมอบความฟินให้ลูกค้าทั่วไทยกับผลประโยชน์ที่ดีเวอร์

ด้วยผลประโยชน์ค่ารักษาพยาบาลเหมาจ่ายสูงสุด 500,000 บาท เยอะเวอร์กับการเบิ้ลความคุ้มครอง 2 เท่า สำหรับ 6 โรคร้ายแรงยอดฮิต ซึ่งเป็นประกันสุขภาพเหมาจ่ายที่เอไอเอมั่นใจว่าจะสามารถช่วยเติมเต็มความคุ้มครองด้านสุขภาพให้ลูกค้าทุกกลุ่มทั่วไทยได้อุ่นใจยิ่งขึ้น

อีกผลิตภัณฑ์ที่มาจากความเข้าใจอินไซต์ความต้องการของลูกค้าที่ในปัจจุบัน อย่าง “AIA Vitality Unit Linked” ซึ่งมาจากความกังวลของลูกค้าถึงการวางแผนทางการเงินเพื่อใช้ยามเกษียณ ขณะเดียวกันก็มีความตื่นตัวในเรื่องการดูแลสุขภาพมากขึ้น

โดย AIA Vitality Unit Linked เป็นผลิตภัณฑ์ที่มอบการดูแลทั้งในด้านความคุ้มครองชีวิตและการเงินผ่านแบบประกันเอไอเอ อิสระ พลัส (ยูนิต ลิงค์) ที่มีความยืดหยุ่นสูงและเหมาะสำหรับใช้วางแผนสร้างความมั่งคั่งในระยะยาว

ตลอดจนการดูแลด้านสุขภาพผ่านโครงการ เอไอเอ ไวทัลลิตี้ ซึ่งเป็นโครงการสุขภาพที่มีสมาชิกมากที่สุดในประเทศไทยกว่า 500,000 ราย ซึ่งลูกค้าเอไอสามารถเลือกจับคู่แบบประกันเอไอเอ อิสระ พลัส (ยูนิต ลิงค์) กับสัญญาเพิ่มเติมโรคร้ายแรง หรือสัญญาเพิ่มเติมสุขภาพ เพื่อได้รับความคุ้มครองที่ครอบคลุมยิ่งขึ้น

เอไอเอเองต้องการเห็นคนไทยมีอายุยืนยาวอย่างมีคุณภาพ ซึ่งจำเป็นต้องมีการวางแผนการเงินที่รอบคอบ ควบคู่กับการวางแผนสุขภาพที่ควรเริ่มตั้งแต่ตอนยังมีสุขภาพดี เพราะหากเรามีสถานะการเงินที่มั่นคงแต่มีสุขภาพที่อ่อนแอ หรือมีสุขภาพแข็งแรงแต่ขาดการวางแผนทางการเงินที่ดี ย่อมไม่ส่งผลดีต่อคุณภาพชีวิตในระยะยาวอย่างแน่นอน จึงเป็นที่มาของการนำ 2 ผลิตภัณฑ์ที่แข็งแกร่งอย่าง เอไอเอ ไวทัลลิตี้ และ เอไอเอ ยูนิต ลิงค์ มาผสานเข้าด้วยกัน ออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ AIA Vitality Unit Linked”

3. การเป็นองค์กรผู้นำด้าน ESG (Environment Social and Governance) 

นอกจากความมุ่งมั่นเดินหน้ามอบสุขภาพและความมั่นคงทางการเงินให้แก่ลูกค้าแล้ว เอไอเอ ประเทศไทยยังขยายไปสู่สังคมและคนทั่วไปภายใต้กิจกรรมตอบแทนสังคมที่ทำอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลานาน โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือ การเป็นองค์กรผู้นำด้าน ESG (Environment Social and Governance)

เอกรัตน์ยกตัวอย่างการดำเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืนที่ผ่านมาของเอไอเอ ประเทศไทยให้เห็นภาพมากขึ้น เช่น โครงการ AIA East Gateway อาคารสีเขียวที่ได้มาตรฐาน Well Building Standard มีดีไซน์ที่สอดรับกับไลฟ์สไตล์และคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้ใช้งาน

รวมถึงประหยัดพลังงานและใช้พลังงานทางเลือก, โครงการ Cashless และ Paperless ที่เอไอเอสามารถลดปริมาณการใช้กระดาษไปได้มากกว่า 6 ล้านแผ่น หรือเทียบเท่าระยะทางจากเหนือสุดไปใต้สุดของประเทศไทย

หรือ AIA Healthiest Schools-โครงการ สุดยอดโรงเรียนสุขภาพดี” โครงการที่กลุ่มบริษัทเอไอเอและเอไอเอ ประเทศไทย ริเริ่มขึ้นเพื่อมุ่งเสริมสร้างและปลูกฝังพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ดีต่อสุขภาพของนักเรียนอายุระหว่าง 5-16 ปี ครอบคลุมทั้งหมด 4 ด้าน คือ การรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ การใช้ชีวิตอย่างกระฉับกระเฉง การมีสุขภาพใจที่ดี และการดูแลสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืน

AIA VITALITY ส่งเสริมให้คนรุ่นใหม่ใส่ใจสุขภาพและสนใจซื้อประกันมากขึ้น

อีกหนึ่งความมุ่งมั่นของ เอไอเอ ประเทศไทย คือ การผลักดันให้คนไทยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตอย่างจริงจัง เพื่อส่งเสริมการมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืนในระยะยาว เอไอเอได้จับมือกับพันธมิตรต่าง ๆ ครอบคลุมในหลากหลายอุตสาหกรรมมากขึ้น เพื่อร่วมกันมอบสิทธิประโยชน์ที่เหมาะสมสำหรับลูกค้า รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ AIA Vitality ประกันสำหรับคนรักสุขภาพที่สนับสนุนให้ผู้คนดูแลสุขภาพให้ดีขึ้น พร้อมมอบส่วนลดเบี้ยประกันภัย และสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ เพื่อสร้างแรงจูงใจให้คุณสนุกกับการออกกำลังกาย และมีสุขภาพที่ดีขึ้นได้จริง

ลูกค้า AIA Vitality ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าที่มีอายุน้อยเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์ประกันอื่นๆ ขณะเดียวกัน AIA Vitality เป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้ตัวแทนเอไอเอสามารถเข้าถึงลูกค้าที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้ง่ายขึ้น เนื่องจากมีความสนใจเรื่องการรักษาสุขภาพ การดูแลตัวเอง ประกอบกับความชอบในแรงจูงใจอย่างส่วนลดเบี้ยประกันที่มาจากการออกกำลังกาย ซึ่งทำให้เขารู้สึกสนุกไปด้วย

ทั้งโรคและโลกที่ก้าวไปข้าง ทำให้ในวันนี้เอไอเอ ประเทศไทย ยังคงขับเคลื่อนธุรกิจเพื่อคุ้มครองลูกค้าให้ได้รับผลกระทบจากโรคภัยไข้เจ็บน้อยที่สุด และเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการในปัจจุบันและ Unmet Need ของผู้บริโภค

เอไอเอมีการนำ  Insurtech เข้ามาใช้ในการทำงาน ส่วนแรกคือ Digital Solution สำหรับลูกค้า ทั้งการพัฒนาแอปพลิเคชัน การให้บริการต่าง ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกและสอดรับกับพฤติกรรมของลูกค้าให้มากที่สุด

อีกส่วนคือการนำเทคโนโลยีต่าง ๆ มาช่วยให้กระบวนการทำงานของเอไอเอง่ายขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น ยกตัวอย่าง รายการเคลมประกันหรือสินไหมกว่า 5,000 รายการต่อวัน ระบบของเอไอเอสามารถประเมินผลและแจ้งให้กับลูกค้าได้ทันที หรือการนำเทคโนโลยีมาใช้เรื่องการตลาด ตลอดจนการจัดเก็บข้อมูล (Data) การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อทำความเข้าใจพฤติกรรม ความต้องการของลูกค้ามากขึ้น เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคได้อย่างครอบคลุม” เอกรัตน์ กล่าวทิ้งท้าย

อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ 
Website : Marketeeronline.co / Facebook : www.facebook.com/marketeeronline


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer