รพ. บางมด รับครบ 35 ปี รักษาผู้นำตลาดศัลยกรรมความงามในไทย 3 หมื่นล้านบาท ทุ่ม 3 พันล้านบาทสร้างศูนย์ศัลยกรรมครบวงจร พร้อมเปิดปี 68 ดันรายได้ทั้งกลุ่มศูนย์ฯ แตะพันล้านบาทต่อปี
นพ. สุรสิทธิ์ อัศดามงคล ประธานกรรมการบริหาร โรงพยาบาลบางมด แพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่งและเสริมสร้างใบหน้า ศูนย์ศัลยกรรมความงาม กล่าวว่า รพ. บางมดเริ่มต้นจากการที่ตนเองเป็นแพทย์ชนบทที่ได้มาเปิดคลินิกเล็ก ๆ บนถนนพระราม 2 ย่านบางมด ก่อนขยายเป็นโพลีคลินิก และ รพ. ขนาด 50 เตียง ปี 2526
แต่เดิมถนนเส้นนี้ไม่มี รพ. เลย และจากการที่ รพ. อยู่ในโซนถนนธนบุรีปากท่อ ซึ่งเป็นถนนที่มีอุบัติเหตุมากที่สุดแห่งหนึ่ง จึงได้ทำเคสอุบัติเหตุเยอะมาก เลยคิดว่าควรไปเรียนต่อเฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่ง เพื่อที่จะได้ช่วยคนไข้ให้กลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดี
หลังเรียนต่อจบ ตนเองกลับมาทำจนคนไข้เพิ่มขึ้น ขยาย รพ. บางมด เป็นขนาด 100 เตียง ก่อตั้งขึ้นวันที่ 11 ก.ค. 2531 โดยจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลในนาม บริษัท โรงพยาบาลบางมด จำกัด ก่อนขยายเป็น 400 เตียง ตั้งแต่ปี 2538
จนถึงวันนี้เป็น 35 ปีที่หมอภูมิใจมากกับความสำเร็จและความเข้มแข็งในการตั้ง รพ. บางมด ซึ่งเป็น รพ. เอกชนแห่งแรกในย่านถนนพระราม 2 และเป็น รพ. แห่งแรกที่ให้บริการศูนย์อุบัติเหตุฉุกเฉิน 24 ชม.
ตลาดศัลยกรรมเสริมความงามในไทย
3 หมื่นล้าน ชั่วโมงบินศัลยแพทย์ คีย์ซัคเซส |
|
มูลค่าตลาด / ล้านบาท / ปี | 20,000-30,000 |
อัตราเติบโตเฉลี่ยต่อปี (ไม่นับช่วงวิกฤตโรคระบาด) | 10-15% |
5 ศัลยกรรมยอดนิยม | |
1. รอบดวงตา | 2. จมูก |
3. หน้าอก | 4. ดึงหน้า |
5. ดูดหรือฉีดไขมัน | |
ที่มา: ศูนย์ศัลยกรรมความงาม รพ. บางมด, สิงหาคม 2566 |
นพ. ธนัญชัย อัศดามงคล แพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่ง เเละผู้อำนวยการศูนย์ศัลยกรรมความงามโรงพยาบาลบางมด กล่าวว่า แง่มูลค่าตลาดศัลยกรรมในไทย ยังเป็นส่วนแบ่งของ รพ. มากกว่าคลินิกและสถาบันความงาม ถึงประเภทหลังจะมีตลาดเชิงปริมาณมากกว่าก็ตาม
ตลาด รพ. ศัลยกรรมเสริมความงามในไทยยังมีการแข่งขันที่สูงมาก เพราะความก้าวหน้าของเทคโนโลยีทางการแพทย์ และการเปิดใจยอมรับในวงกว้างของคนในสังคม ทำให้มีดีมานด์จากผู้บริโภคเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
แต่ส่วนใหญ่ผู้เล่นในตลาดจะไม่ใช้กลยุทธ์การแข่งขันด้านราคา แต่จะให้ความสำคัญกับเทคนิคการแพทย์ เทคโนโลยีที่ทันสมัย และส่วนสำคัญที่สุดของธุรกิจศัลยกรรมเสริมความงาม คือ ประสบการณ์และความสามารถของศัลยแพทย์
รพ. บางมด นับเป็นทอป 3 ส่วนแบ่งตลาด รพ. ศัลยกรรมเสริมความงามในไทย โดยศูนย์ศัลยกรรมความงามของ รพ. คงคอนเซ็ปต์ แผลเล็ก เจ็บน้อย หายเร็ว และดูเป็นธรรมชาติ
รพ. เตรียมพร้อมก้าวสู่การเป็น รพ. ศัลยกรรมครบวงจร ด้วยการก่อสร้างอาคาร รพ. ใหม่ ภายใต้ชื่อศูนย์ Bangmod Aesthetic & Wellness Hospital ซึ่งอยู่ในบริเวณเดียวกับพื้นที่เดิมของ รพ. คาดว่าจะพร้อมเปิดให้บริการภายในปี 2568
ตัว รพ. ใหม่ เป็นอาคาร 6 ชั้น ใช้งบลงทุนทั้งหมด 3,000 ล้านบาท ให้บริการศัลยกรรมเสริมความงามครบวงจร เบื้องต้น 20-30 เตียง และพร้อมขยายได้ถึง 50 เตียงในอนาคต เน้นเจาะผู้บริโภคกลุ่มอัลตราลักชัวรี ซึ่งเป็นเซกเมนต์ที่ รพ. ครองส่วนแบ่งในตลาดอยู่เป็นหลัก
และตั้งเป้าให้ส่วน รพ. ใหม่นี้ ช่วยขยายฐานผู้มาใช้บริการในกลุ่มศูนย์ศัลยกรรมความงามเป็น 5,000-6,000 คนต่อปีจากปัจจุบันอยู่ที่ 3,000-4,000 คนต่อปี สัดส่วนคนไทย 60% และมาจากต่างประเทศ 40% เน้นการบริการแบบ Personal Service ไม่มีการทำงานผ่านเอเจนซี
และยังตั้งเป้าสร้างรายได้รวมต่อปีของกลุ่มศูนย์ศัลยกรรมความงาม และบริการเสริมความงามอื่น ๆ ถึง 1,000 ล้านบาท จากปัจจุบันอยู่ที่ 500-700 ล้านบาท หลังเปิดใช้งานศูนย์ Bangmod Aesthetic & Wellness Hospital
ส่วนการดำเนินงานของ รพ. ทั่วไป นพ. เทวเดช อัศดามงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โรงพยาบาลบางมด กล่าวว่า รพ. จะยังรักษาคุณภาพการเป็น รพ. ขนาดใหญ่ และอยู่ในระบบประกันสังคม ให้บริการรักษาโรค เช่น สูตินรีเวช, ศัลยกรรมกระดูก, ศัลยกรรมทั่วไป, กุมารเวช 24 ชม., อายุรกรรม ตลอดจนนวัตกรรมผ่าตัดมดลูกผ่านช่องคลอด แบบไร้แผล
ทั้งยังมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญดูแลเคสอุบัติเหตุ 24 ชม. รวมถึงเคสศัลยกรรมกระดูก เช่น อุบัติเหตุจราจร, การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม, การผ่าตัดเส้นเอ็นไขว้หน้าขาด, การผ่าตัดแก้ไขนิ้วล็อก (ปลดล็อกนิ้วล็อก) ด้วยวิธีสะกิด ไม่ต้องผ่าตัด
แผนเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ นพ. ธนัญชัย เสริมว่า หลังศูนย์ศัลยกรรมความงาม Bangmod Aesthetic & Wellness Hospital เปิดให้บริการ จะตั้งเป้าสร้างการรับรู้รายได้ทั้งกลุ่ม รพ. บางมดให้ขยายตัวต่อเนื่อง 3-4 ปี ก่อนนำเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ตอนนี้อยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะนำเข้าเฉพาะส่วนศูนย์ศัลยกรรมความงาม หรือรวมทั้งกลุ่ม รพ. ทั่วไป
–
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ