Bell รังนกไทยน้องใหม่ ขอท้าชิงตลาดหมื่นล้าน ตั้งเป้ายอดขายปีหน้า 1,000 ลบ.
เครื่องดื่มรังนก “เบลล์” ของห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็ม แอนด์ อาร์ ดิสทริบิวเตอร์ ลุยตลาดรังนกหมื่นล้าน ท้าชิงเเบรนด์ต่างประเทศ ประเดิมปีแรกขอเเชร์ก่อน 10% ตั้งเป้ายอดขายปีหน้าแตะพันล้าน
ในตลาดเครื่องดื่มรังนกสำเร็จรูป 10,000 กว่าล้านบาท มีผู้เล่นหลักที่มีชื่ออยู่ราวห้าชื่อ และรายใหญ่ผู้ครองตลาดที่ทุกคนรู้จักดีมีอยู่ไม่กี่แบรนด์ ที่กินรวบแชร์ไปเกินกว่าครึ่ง
สำหรับรังนกยี่ห้อ “เบลล์” แม้เป็นชื่อแบรนด์น้องใหม่ที่เพิ่งเข้าทำตลาดเมื่อไม่นานมานี้ โดยห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็ม แอนด์ อาร์ ดิสทริบิวเตอร์ ที่เริ่มกิจการมาตั้งเเต่ปี 2005 อยู่คู่คนไทยมาเป็นเวลานาน ส่งผลให้เบลล์มีฐานลูกค้าที่ใหญ่พอสมควรอยู่ก่อนเเล้ว
สุรชัย พิมพ์ประไพภรณ์ กรรมการบริหาร ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็ม แอนด์ อาร์ ดิสทริบิวเตอร์ เล่าว่า ปี 2005 จากที่เป็นตัวเเทนจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค ที่ต้องเดินทางขายสินค้าทั่วประเทศไทย จึงเห็นช่องทางและโอกาสของผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ มองว่าเครื่องดื่มรังนกเป็นตลาดบลูโอเชียน สามารถเติบโตได้อีกเเละมีคู่เเข่งน้อย จึงตัดสินใจลงเล่นในตลาดรังนก ด้วยเงินลงทุนก้อนแรก 4 แสนบาท อาศัยคอนเนกชัน ใช้รังนกจากจังหวัดชุมพร
ในตอนเริ่มต้นต้องเผชิญกับการเเข่งขันกับเเบรนด์ใหญ่อย่างเลี่ยงไม่ได้ บริษัทจึงเลือกทำการตลาดในภาคอีสานเเละกลางเป็นหลัก ใช้วิธีเจาะตลาดด้วยกลยุทธ์ป่าล้อมเมือง เป็นเจ้าเเรกที่ขายรังนกขนาดขวดใหญ่เพียง 70 บาท หลังจากนั้น 3-5 ปี ขยับเข้าสู่โมเดิร์นเทรดใน 108 shop
“ที่ผ่านมารังนกเติบโตต่อเนื่องจากกระแสรักสุขภาพ โดยเฉพาะโควิด ที่คนทุ่มเงินกับการซื้อสินค้าบำรุงสุขภาพ จนทำให้ยอดขายบริษัทพุ่งสูงมาก จนประสบปัญหาผลิตไม่ทัน”
แต่โจทย์ที่เเก้ไม่ตกของตลาดรังนก คือ เครื่องดื่มชนิดนี้มักถูกใช้เป็นของขวัญช่วงเทศกาลสำคัญแทนคำอวยพร จึงกลายเป็นสินค้าที่ “คนกินไม่ได้ซื้อ คนซื้อไม่ได้กิน” เพราะซื้อไปมอบแก่ผู้อื่น เนื่องจากหลายเเบรนด์มักใช้กลยุทธ์ Moment Marketing ในการโฆษณา เเต่การเป็นเพียงของขวัญในโอกาสพิเศษอาจไม่พออีกต่อไปหากต้องการให้ตลาดเติบโตต่อไปได้อีก การจะเพิ่มยอดจำหน่าย จึงต้องสร้างการตระหนักรู้ถึงคุณค่าทางโภชนาการของรังนก รวมถึงชูการเป็นสินค้าเพื่อสุขภาพและความงาม
อย่างไรก็ดี การเเข่งขันในตลาดรังนกมีสูง จำเป็นต้องสร้างเเบรนด์เข้าไปยืนในใจผู้บริโภค เป็นเหตุผลให้ผลิตภัณฑ์รังนกต้องเลือกใช้พรีเซนเตอร์ระดับแนวหน้าของเมืองไทย เพื่อสร้างการรับรู้ในวงกว้าง
“สมัยก่อนอาศัยการขายแบบปากต่อปาก ขยายตลาดค่อนข้างลำบาก เมื่อฐานลูกค้ามากขึ้น แบรนด์ต้องสร้างการรับรู้ที่ครอบคลุม หนึ่งในกลยุทธ์ขับเคลื่อนคือการเลือกใช้พรีเซนเตอร์ที่สามารถ Go Viral ได้”
เบลล์จึงประกาศเเต่งตั้ง “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ดาราพิธีกรผู้เป็นกระเเสในโลกโซเชียลในปัจจุบัน ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในกลุ่มคนวัยทำงาน เพื่อเน้นย้ำภาพลักษณ์การเป็นรังนกของคนดูเเลตัวเองและใส่ใจสุขภาพ เจาะตลาดกลุ่มคนรักสุขภาพอายุ 30 – 60 ปี ซึ่งเป็นลูกค้าหลัก พร้อมด้วยจุดขายความคุ้มค่า เพิ่มปริมาณรังนกขึ้น อีกทั้งเติมส่วนผสมทั้งคอลลาเจน เเละนำเสนอสูตรไซลิทอลสำหรับผู้ต้องการคุมน้ำตาล
เครื่องดื่มรังนกเบลล์วางจำหน่ายผ่านช่องทางร้านสะดวกซื้อ (7-11, Family mart, Jiffy, Lawson) ในปีนี้เตรียมทำตลาดในช่องทางโมเดิร์นเทรดเเละออนไลน์ในส่วนของ market place เพิ่มขึ้น ตั้งเป้ายอดขายเติบโตเเตะ 1,000 ล้านบาท ภายในปี 2567
อย่างไรก็ดี ด้านช่องทางการจำหน่าย แบรนด์ยังต้องหาพาร์ตเนอร์กลุ่ม Local Modern Trade เพิ่ม เพื่อเพิ่มช่องทางกระจายสินค้าให้เข้าถึงผู้บริโภคในต่างจังหวัดได้อย่างครอบคลุม
ด้านตลาดต่างประเทศ ที่สัดส่วนการส่งออกครึ่งต่อครึ่งเมื่อเทียบกับในประเทศ บริษัทส่งออกไปจำหน่ายยังประเทศเพื่อนบ้านในละเเวกใกล้เคียง อาทิ ลาว กัมพูชา เมียนมา เวียดนาม รวมถึงจีนซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดสำคัญที่ผลิตภัณฑ์รังนกมีขนาดตลาดที่ใหญ่ ความต้องการสินค้ามีมาก เเละอยู่ระหว่างพูดคุยกับคู่ค้าเพิ่มเติม
ทั้งนี้บริษัทลงทุนโรงงานใหม่ 200 กว่าล้านบาท ในจังหวัดนครปฐม เเล้วเสร็จต้นปีหน้า
และจากเทรนด์สุขภาพที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง บริษัทยังเล็งไปถึงการเเตกไลน์สินค้าใหม่ที่นอกเหนือจากรังนก ไปในเครื่องดื่มโปรตีน น้ำผลไม้ ให้ครอบคลุมทุกความต้องการของผู้บริโภค
“ปี 2566 ครึ่งปีแรกสามารถโตพุ่ง 80% เเต่เทศกาลวันเเม่ที่ผ่านมา ที่ถือเป็นหนึ่งในซีซันนอลของผลิตภัณฑ์รังนกกลับทรงตัว เนื่องมาจากภาวะเศรษฐกิจที่คนอาจยังไม่ได้จับจ่ายใช้สอยกันคึกคัก เเต่ในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้บริษัทคาดว่าจะยังสามารถเติบโตได้ 40% ด้านยอดขายเข้าใกล้ 700 ล้านบาท ส่วนในปีหน้า Bell ตั้งเป้ามาร์เก็ตแชร์ 10% เเละโตเฉลี่ยปีละ 5% นอกจากนั้นภายในเวลา 4 ปี ตั้งเป้าครองส่วนแบ่งตลาด 25%”
–
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้
Website : Marketeeronline.co /
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ