แกร็บ เร่งลุยธุรกิจโฆษณาเต็มตัว ใช้ชื่อ “GrabAds” รับเทรนด์ Retail Media Network ตั้งเป้าขึ้นเป็นผู้เล่นระดับทอปของภูมิภาค
เมื่อพฤติกรรมการใช้ชีวิตของผู้บริโภคในปัจจุบัน ไม่ได้จำกัดอยู่แค่บนโลกออนไลน์หรือออฟไลน์โดยเฉพาะ แต่เป็นการผสมผสานกันอย่างไร้รอยต่อ ด้วยรูปแบบการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไป นักโฆษณาและนักการตลาดจึงต้องปรับตัวให้สอดรับกับรูปแบบการใช้ชีวิตและเชื่อมโยงประสบการณ์บนโลกออนไลน์และออฟไลน์ เป็นผลให้ธุรกิจโฆษณาทั้งสื่อออนไลน์และออฟไลน์ยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
จันต์สุดา ธนานิตยะอุดม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานพาณิชย์และการตลาด แกร็บ ประเทศไทย เปิดเผยว่า หลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลง เกิดการขยายตัวของเศรษฐกิจ ส่งผลให้ธุรกิจโฆษณาในปีที่ผ่านมา ทั้งออนไลน์และออฟไลน์มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา สื่อออนไลน์ยังคงได้รับความนิยมและมีอัตราการเติบโตสูงขึ้นถึง 5.6% ขณะที่เม็ดเงินโฆษณาในสื่อออฟไลน์ลดลง 1.9% จากการถดถอยของสื่อโทรทัศน์ ขณะที่สื่อนอกบ้าน (Outdoor & Transit media) มีอัตราการเติบโตอย่างก้าวกระโดด
และปัจจุบันเทรนด์สื่อโฆษณาออนไลน์ นอกเหนือจากสื่อโฆษณาหลักแล้ว รูปแบบของสื่อที่กำลังมาแรงในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา คือ สื่อโฆษณาบนแพลตฟอร์มค้าปลีก (Retail Media Network) ที่บริหารและให้บริการโดยผู้ประกอบการค้าปลีกหรือแพลตฟอร์มออนไลน์ ด้วยข้อได้เปรียบในการมีฐานข้อมูลที่มีคุณภาพ ทั้งในด้านพฤติกรรมการจับจ่าย ความชอบ ประวัติการซื้อสินค้าหรือใช้บริการ ข้อมูลผู้บริโภคขณะกำลังซื้อสินค้าออนไลน์อยู่ในมือ
ในปี 2566 สื่อโฆษณาบนแพลตฟอร์มค้าปลีกถือเป็นสื่อที่เติบโตเร็วที่สุดเป็นอันดับ 3 โดยถูกคาดการณ์ว่าจะมีมูลค่ารวมทั่วทั้งโลกสูงถึง 125.7 ล้านดอลลาร์ และจะสามารถทำรายได้รวมสูงกว่ารายได้จากสื่อโทรทัศน์ได้ภายในปี 2571
เป็นที่มาของการรุกธุรกิจโฆษณาของ แกร็บ ประเทศไทย ในชื่อ “GrabAds” เพื่อประกอบธุรกิจสื่อโฆษณาบนแพลตฟอร์มค้าปลีก เจาะกลุ่มลูกค้านักโฆษณาและการตลาด เพื่อเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคในยุคดิจิทัล
แกร็บเข้าสู่ธุรกิจโฆษณาครั้งแรกในปี 2561 โดยเริ่มจากการนำเสนอสื่อโฆษณาภายในรถยนต์ ก่อนจะขยายตัวมาเป็นสื่อโฆษณาบนแพลตฟอร์ม เพื่อช่วยให้พาร์ตเนอร์ร้านค้าหรือแบรนด์ต่าง ๆ สามารถเข้าถึงผู้ใช้บริการในแอปพลิเคชันได้มากขึ้น และถูกพัฒนาจนกลายมาเป็นสื่อโฆษณาบนแพลตฟอร์มค้าปลีก ซึ่งครอบคลุมช่องทางการโฆษณาทั้งในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์
โดยใช้ระยะเวลาไม่นาน GrabAds สามารถติดอันดับหนึ่งในสามของสื่อโฆษณาบนแพลตฟอร์มออนไลน์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ผู้บริโภคให้การตอบรับและมีความรู้สึกที่ดีต่อโฆษณา (Ad Equity) มากที่สุด
ซึ่ง GrabAds ประเทศไทย เพิ่งเริ่มทำการตลาดอย่างจริงจังในช่วงสองปีที่ผ่านมา เเต่ได้รับความนิยมและความไว้วางใจจากแบรนด์ชั้นนำในกลุ่มธุรกิจต่าง ๆ ด้วย 3 จุดแข็งสำคัญ
1. การเชื่อมโลกออนไลน์และออฟไลน์อย่างไร้รอยต่อ (Online-to-Offline Integration within Grab’s Ecosystem): GrabAds นำเสนอโซลูชันด้านการตลาดที่ครบวงจร ตั้งแต่การสร้างแบรนด์ไปจนถึงปิดการขายกับกลุ่มเป้าหมาย (Awareness to Conversion) ด้วยรูปแบบและกลไกของสื่อที่มีความหลากหลาย ทั้งบนแอปพลิเคชันออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่ง Masthead Native Banner Search เป็นต้น ที่ผู้ใช้บริการสามารถสั่งซื้อสินค้า และผ่านทางการให้บริการออฟไลน์ อาทิ สื่อโฆษณาบนรถโดยสาร หรือ กระเป๋าส่งของของพาร์ตเนอร์คนขับ ทำให้แบรนด์สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้ตรงตามเป้าหมายที่ต้องการ
2. การจับกลุ่มลูกค้าคุณภาพที่มีกำลังซื้อ (Capturing High-Value Audience): กว่า 60% ของผู้ใช้บริการในประเทศไทยที่เปิดแอปพลิเคชันแกร็บมีการทำการใช้จ่ายบนแอปพลิเคชันในเดือนนั้น จึงทำให้อัตราการคลิกโฆษณา (Click Through Rate: CTR) สูงกว่าแพลตฟอร์มอื่น ๆ ในประเทศไทย ถึง 3-5 เท่า นอกจากนี้ จากการสำรวจของแกร็บ ยังพบว่า กว่า 77% ของผู้ใช้บริการไทยรับรู้และเข้าใจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่โฆษณาอยู่บนแพลตฟอร์มแกร็บ
3. การเข้าถึงข้อมูลการใช้จ่ายจริงของผู้บริโภค (First-party Data Insights): ด้วยฐานข้อมูลคุณภาพ ที่รวบรวมพฤติกรรมการใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงของผู้ใช้บริการบนแอปพลิเคชัน Grab ที่ครอบคลุมหลากหลายมิติของการใช้ชีวิตประจำวัน ทำให้แบรนด์ต่าง ๆ สามารถเข้าใจอินไซต์และเจาะกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ เช่น ไลฟ์สไตล์หรือพฤติกรรมการใช้ชีวิต อาทิ เมนูอาหารที่ชอบ ประเภทสินค้าที่สั่งเป็นประจำ สถานที่ที่มักเดินทางไปบ่อย ๆ รวมถึงวิธีการเดินทาง
รวมจุดแข็งในการเชื่อมโลกออนไลน์และออฟไลน์อย่างไร้รอยต่อภายในอีโคซิสเต็มของแกร็บ (Online-to-Offline Integration within Grab’s Ecosystem) การดึงดูดกลุ่มลูกค้าคุณภาพที่มีกำลังซื้อ (Capturing High-Value Audience) และการเข้าถึงข้อมูลการใช้จ่ายจริงของผู้บริโภค (First-Party Data Insights)
เเต่นอกจากกลุ่มลูกค้าในธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม (F&B) ที่ทุ่มงบโฆษณากับ GrabAds และถือเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของเเกร็บอยู่แล้ว การจะเติบโตในขั้นต่อไปจึงต้องขยายฐานลูกค้าไปในอุตสาหกรรมอื่น ๆ มุ่งเน้นที่กลุ่มธุรกิจใหญ่ ในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค (Fast Moving Consumer Goods: FMCG) กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ (Automotive) และกลุ่มสถาบันการเงินและธนาคาร (Finance & Banking) ซึ่งถือเป็นอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตและใช้งบเพื่อทำการตลาดกับกลุ่มผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง
–
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ