ช่วงยุค 70 สหรัฐฯ และพันธมิตรในยุโรปรวมถึงแคนาดากับญี่ปุ่นได้จับมือกันตั้งกลุ่ม G7 ขึ้น โดยเบื้องต้นมีจุดประสงค์เพื่อร่วมมือกันแก้ปัญหาเศรษฐกิจสืบเนื่องจากวิกฤตราคาน้ำมัน ณ เวลานั้น แต่ต่อมาก็ขยายวงความร่วมมือไปสู่เรื่องต่าง ๆ ทั้งการทูต การทหาร และการเมือง
แม้ประชากรของกลุ่ม G7 คิดเป็น 10% ของประชากรโลก และปัจจุบันกลุ่ม BRICS ที่จีนเป็นแกนนำจะถูกจับตามองมากยิ่งขึ้น แต่ด้วยความที่สมาชิก G7 เป็นประเทศทรงอิทธิพล มีสหรัฐฯ เป็นแกนนำ และยังสำคัญต่อเศรษฐกิจกับการเมืองโลก ความเคลื่อนไหวของกลุ่ม G7 จึงได้รับความสนใจมาตลอด
แต่ถ้าตีกรอบเฉพาะภาคธุรกิจทั้ง 7 ประเทศของกลุ่มนี้ก็มีแบรนด์ใหญ่ ๆ ที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่างกัน และมูลค่าของแต่ละแบรนด์ก็เป็นลำดับลดหลั่นกันลงไป
ตามการประเมินของ Brandfinance บริษัทที่ปรึกษาด้านแบรนด์สัญชาติอังกฤษ ปรากฏว่า Amazon ยักษ์เทคที่เริ่มต้นธุรกิจ E-commerce เป็นแบรนด์กลุ่ม G7 มูลค่าสูงสุดปีนี้ (2023) ด้วยมูลค่ามากถึง 299,280 ล้านดอลลาร์ (ราว 10.4 ล้านบาท)
อันดับ 2 และ 3 คือ Deutsche Telekom แบรนด์โทรคมนาคมของเยอรมนี และ Toyota แบรนด์รถญี่ปุ่นที่คนทั่วโลกรู้จักดี ด้วยมูลค่าอยู่ที่ 62,928 ล้านดอลลาร์ (ราว 2.2 ล้านล้านบาท) และ 52,429 ล้านดอลลาร์ (ราว 1.8 ล้านล้านบาท) ตามลำดับ
ต่อมาในอันดับ 4 ถึง 7 ก็เป็นของแบรนด์ใหญ่ของสมาชิก G7 ประเทศที่เหลือ โดยอันดับ 4 เป็นของ Shell บริษัทน้ำมันอังกฤษ ซึ่งมูลค่าอยู่ที่ 48,209 ล้านดอลลาร์ (ราว 1.7 ล้านล้านบาท) อันดับ 5 เป็นของ Louis Vuitton แบรนด์หรูฝรั่งเศส ซึ่งมูลค่าอยู่ที่ 26,290 ล้านดอลลาร์ (ราว 941,000 ล้านบาท)
TD ธนาคารแคนาดา ตามมาอันดับ 6 ด้วยมูลค่าแบรนด์ 20,404 ล้านดอลลาร์ (ราว 730,000 ล้านบาท) และปิดท้ายด้วย Gucci แบรนด์หรูอิตาลี ซึ่งมูลค่าอยู่ที่ 17,839 ล้านดอลลาร์ (ราว 638,000 ล้านบาท)
ส่วนถ้าลงลึกในรายละเอียด ก็จะเห็นชัดขึ้นว่าเศรษฐกิจของแต่ละประเทศขับเคลื่อนด้วยแบรนด์ใหญ่ ๆ ในธุรกิจใดบ้าง เริ่มจากสหรัฐฯ 3 อันดับแบรนด์ มูลค่าสูงสุดคือ Amazon, Apple และ Google จึงถือได้ว่า อุตสาหกรรมเทคโนโลยีสำคัญสุด
มาที่เยอรมนี 2 แบรนด์มูลค่าสูงสุดคือ Deutsche Telekom, Mercedes-Benz และ Allianz Group ถือเป็นการบ่งชี้ว่า โทรคมนาคม ยานยนต์ และประกันชีวิต เป็น 3 ธุรกิจหลักที่ขับเคลื่อนประเทศ และสำคัญต่อชีวิตชาวเยอรมันมากสุด
ต่อด้วยญี่ปุ่น 3 แบรนด์มูลค่าสูงสุดคือ Toyota, NTT และ Mitsubishi Group ซึ่งเป็นการชี้ว่า ยานยนต์ โทรคมนาคม และกลุ่มบริษัทที่บริหารธุรกิจสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ
มาที่อันดับ 4 อังกฤษ (นับรวมกลุ่มประเทศในสหราชอาณาจักร) 3 แบรนด์มูลค่าสูงสุดคือ Shell จากธุรกิจน้ำมันและ EY และ PWC จากบริษัทที่ทำธุรกิจด้านที่ปรึกษา
ส่วนฝรั่งเศส แบรนด์มูลค่าสูงสุดเป็นของ Louis Vuitton ตามที่ได้กล่าวไปแล้ว โดยมี Total จากธุรกิจพลังงาน และ Chanel แบรนด์หรู ตามมาในอันดับ 2 และ 3
ด้านแคนาดา เพื่อนบ้านสหรัฐฯ แบรนด์มูลค่าสูงสุดคือธนาคาร TD โดยมี RBC และ Scotiabank ซึ่งอยู่ในธุรกิจธนาคารเช่นกัน ตามมาเป็นอันดับ 2 และ 3
ทิ้งท้ายด้วยอิตาลี มีแบรนด์หรู Gucci เป็นแบรนด์มูลค่าสูงสุดของประเทศ ส่วนอันดับ 2 เป็นของ Enel และ Eni ซึ่งต่างก็อยู่ในธุรกิจด้านพลังงาน/branddirectory, brandfinance
–
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ