เริ่มต้นคิดไปแข่งกับเขาก็ผิดตั้งแต่แรก

แต่ตลาดนี้ต้องมีตัวเลือกให้ลูกค้าได้เลือกบ้าง”

สุชาดา อิทธิจารุกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารประจำประเทศไทยและต่างประเทศ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด โฮลเซลล์ จำกัด กล่าวในวันแถลงข่าวเปิดธุรกิจใหม่ในชื่อ GO Wholesale ธุรกิจค้าส่งอาหารในเครือเซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC

 

การเข้ามาทำธุรกิจค้าส่งอาหารในชื่อ GO Wholesale มาจาก ญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น หรือ CRC ต้องการสร้าง New Growth Engine สร้างการเติบโตให้กับ CRC ในอนาคต

เพราะในปัจจุบันธุรกิจอาหารของประชากรไทย 28 ล้านครัวเรือนทั้งประเทศ มีมูลค่ามากถึง 2.6 ล้านล้านบาท คาดการณ์เติบโต 5% ในปีหน้า

ไม่รวมการบริโภคของนักท่องเที่ยวที่คาดการณ์ว่าสร้างมูลค่าเพิ่มได้อีก 3-4 แสนล้านบาท

พร้อมกับจำนวนร้านอาหารในประเทศไทยประมาณ 600,000 ร้าน และโชห่วยอีก 600,000 ร้าน ที่มีศักยภาพสร้างโอกาสในตลาด

และที่ผ่านมา CRC มีขาธุรกิจเกือบทั้งหมดอยู่ในรูปแบบค้าปลีก ยกเว้นไทยวัสดุ ที่มีขาธุรกิจค้าส่งไปยังกลุ่มผู้รับเหมา

และค้าส่งของไทยวัสดุสามารถสร้างสัดส่วนรายได้เพียง 17% ของรายได้ทั้งหมด

ประกอบกับที่ผ่านมาเครือเซ็นทรัล กรุ๊ป มีศักยภาพของเครือข่ายศูนย์การค้า 110 แห่ง อยู่ใน 100 จังหวัด ทั้งไทยและเวียดนาม, เป็นผู้ให้บริการร้านอาหารกว่า 6,750 ร้าน และโรงแรม 93 แห่ง ที่สามารถเป็นพลังเกื้อหนุนให้กับ GO Wholesale มีอำนาจในการต่อรองกับคู่ค้าและอื่น ๆ ได้เป็นอย่างดี

และยังเป็นการเติมเต็มเสริมพอร์ต Ecosystem ในกลุ่มฟู้ดของ CRC ที่ประกอบด้วย Tops, ไฮเปอร์มาร์เก็ต GO, ซูเปอร์มาร์เก็ต go และ Nguyenkim

ในครึ่งแรกปี 2566 กลุ่มฟู้ดสามารถทำรายได้ 41,031 ล้านบาท เป็นกลุ่มที่ทำรายได้สูงสุดให้กับ CRC

ปัจจุบัน CRC ดำเนินธุรกิจในรูปแบบ Multi Category ที่ประกอบด้วย 5 กลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มฟู้ด, แฟชั่น ฮาร์ดไลน์ และพร็อพเพอร์ตี้

สำหรับการเข้ามาในธุรกิจค้าส่งอาหารของ GO Wholesale มีสุชาดา อิทธิจารุกุล เป็น CEO ซึ่งเธอเคยเป็นลูกหม้อของ Makro มาตั้งแต่ปี 2538 ก่อนขึ้นมาเป็น CEO Makro ในปี 2553-2564 และส่งไม้ต่อ CEO ให้ธานินทร์ บูรณมานิต ในวันที่ 1 มกราคม 2565 ก่อนที่จะลาออกจากทุกตำแหน่งใน Makro เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2565

เพื่อมารับตำแหน่ง CEO GO Wholesale ในปัจจุบัน

กลยุทธ์และทิศทางของ GO Wholesale ภายใต้ CEO สุชาดา ประกอบด้วย

1. สาขาและพื้นที่ให้บริการ

ในปีนี้ GO Wholesale มีแผนเปิด 4 สาขา ทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด

สาขาแรกเปิดวันที่ 27 ตุลาคม ที่ถนนศรีนครินทร์ ด้านหน้าของไทยวัสดุ เหตุผลที่เลือกศรีนครินทร์เป็นสาขาแรกมาจากเป็นพื้นที่ที่ CRC เป็นแลนด์ลอร์ดอยู่เดิม และมีผู้อาศัยหนาแน่น

สาขาแรกที่จะเปิดใช้พื้นที่ 7,000 ตร.ม. ดีไซน์สวยงาม ทันสมัย เน้นกลุ่มสินค้าเกี่ยวกับอาหารทั้งหมด 80% และให้ความสำคัญกับฟื้นที่อาหารสดที่มีขนาดใหญ่ มีบริการตัดแต่งอาหารให้ลูกค้า

และโมเดลนี้จะให้กับ GO Wholesale สาขาอื่น ๆ ที่จะเปิดตามมา

สาขาสองเปิดในเดือนพฤศจิกายน ที่เชียงใหม่

สาขาสามและสี่เปิดในเดือนธันวาคมที่พัทยา และอมตะนคร

ก่อนที่จะขยายให้ครบทั่วประเทศในปี 2571 จากการเปิดสาขาเฉลี่ย 1 สาขาต่อเดือน ในพื้นที่เฉลี่ย 7,000-8,000 ตร.ม. ต่อสาขา และคาดการณ์แต่ละสาขาจะคืนทุนได้ใน 24 เดือน

เหตุผลในการเปิดสาขาในรูปแบบเดียวกันทั้งหมดมาจากต้องการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในช่วงเริ่มต้นการทำธุรกิจ

และสิ้นปีนี้สุชาดาคาดหวังว่า GO Wholesale จะสามารถสร้างรายได้ประมาณ 500 ล้านบาท

ส่วนแม็คโครในปีที่ผ่านมามีรายได้ 248,079 ล้านบาท

 

2. สร้างความแตกต่างจากเจ้าตลาดเดิม

GO Wholesale สร้างจุดเด่นที่แตกต่างจากเจ้าตลาดเดิมด้วยการศึกษาความต้องการลูกค้า ต่อยอดเป็นบริการและสินค้าต่างๆ

ประกอบด้วย

หนึ่ง ด้านสินค้า

นอกเหนือจากการเน้นพื้นที่จำหน่ายสินค้าประเภทอาหารเป็นหลัก และมีพื้นที่อาหารสดขนาดใหญ่ให้เลือก

ยังสร้างความแตกต่างด้วยสินค้าหลากแบรนด์ พร้อมสร้างแบรนด์ตัวเองในรูปแบบ House Brand เข้ามาจำหน่าย ตลอดจนสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าว่า GO Wholesale มีสินค้าตามต้องการในทุก ๆ วัน และเป็นสินค้าที่มีคุณภาพเดียวกัน โดยในสาขาแรกมีสินค้าให้บริการกว่า 20,000 รายการ

สองด้านบริการ

มีพื้นที่ให้บริการตัดแต่งอาหารสดทั้งเนื้อ หมู ไก่ ปลา ตามลูกค้าต้องการ เพื่อสร้างความประทับใจ ประสบการณ์ในการใช้บริการ

ใช้ระบบดิจิทัลให้ลูกค้าสามารถโหลดแผนที่ในร้านเพื่อเดินไปซื้อสินค้าที่ต้องการได้โดยไม่ต้องเดินหา มีช่องทางการสั่งซื้อทั้งออนไลน์และออฟไลน์ รวมถึงการบริการชำระเงินหลากหลายรูปแบบ และรับบัตรเครดิตทุกธนาคาร มีการเชื่อมโยงกับระบบ Loyalty The1 สะสมคะแนน

ซึ่งการรับบัตรเครดิตทุกธนาคารเป็นการแก้ Pain Point ของลูกค้าที่เข้ามาซื้อสินค้าในแม็คโครที่รับบัตรเครดิตเพียงซิติแบงก์และยูโอบีเท่านั้น

มีพื้นที่

มีพื้นที่ Work Shop ด้วยการร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ เพื่อสร้างความรู้และให้ลูกค้าสร้าง Network รู้จักกันอีกทางหนึ่ง

 

3. จับกลุ่มเป้าหมายหลัก 4 กลุ่ม

GO Wholesale มีการใช้ระบบสมัครสมาชิกฟรีเพื่อเก็บดาต้าเบสของลูกค้าในการใช้บริการ

โดยกลุ่มเป้าหมายหลักจะประกอบด้วย 4 กลุ่มหลัก ได้แก่

– HoReCa (โรงแรม ร้านอาหาร และจัดเลี้ยง)

– กลุ่มผู้ชื่นชอบทำอาหาร

– กลุ่มให้บริการอาหารในโรงงาน, โรงพยาบาล, ร้านอาหาร และอื่น ๆ

– โชห่วย

 

อย่างไรก็ดี การมาของ GO Wholesale เชื่อว่าจะทำให้การแข่งขันในตลาดค้าส่งมีสีสันมากขึ้น เพราะอย่างน้อยการมาของ GO Wholesale คงทำให้ผู้นำอย่างแม็คโครต้องหาวิธีการต่าง ๆ ในการรักษาลูกค้าเดิมไม่ให้ไปเป็นลูกค้าประจำของคู่แข่งหน้าใหม่อย่าง GO Wholesale อย่างแน่นอน

 

Marketeer FYI

ที่มาของชื่อ GO Wholesale มาจาก

G – Growth หรือการเติบโต

O – Opportunity หรือโอกาส

เพื่อสื่อถึงการสร้างโอกาสการเติบโตให้กับลูกค้า ผ่านแนวคิด โตเร็ว โตไกล โตไปกับ GO หรือ Growing Your Business with Success Recipe ที่ใช้นำเสนอและสร้างภาพลักษณ์ถึงลูกค้า



ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ

.
Marketeer ฉบับดิจิทัล : อ่านบน Ookbee / อ่านบน meb
.
Marketeer ฉบับ PDF : https://marketeermagazine.com/
.
Marketeer ฉบับกระดาษ : สั่งซื้อทางไปรษณีย์ Inbox มาที่ เพจ Marketeer Online