ธุรกิจอาหารกลับมาคึกคักขึ้น ผู้บริโภคออกไปใช้ชีวิต และรับประทานอาหารนอกบ้าน แต่การกลับมาครั้งนี้ผู้บริโภคมีความคาดหวังที่สูงขึ้น และต้องการประสบการณ์ในการรับประทานอาหารตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์มากกว่าในอดีต

หลังจากโออิชิออกจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในวันที่ 6 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา จากการปรับโครงสร้างธุรกิจอาหารและนอนแอลกอฮอล์ใหม่ของไทยเบฟเวอเรจ  เพื่อการบริหาร มุ่งเน้นการเติบโตที่ชัดเจน

โครงสร้างธุรกิจอาหารของไทยเบฟฯ หลังโออิชิตัดขาดจากนามสกุลมหาชน ในปี 2025 ได้วางการเติบโตให้กับธุรกิจ ประกอบด้วย

1. Embrace Brand Accessibility ธุรกิจที่มีอยู่เดิม

ในธุรกิจที่มีอยู่เดิมเน้นไปยังการสร้างการเติบโตผ่านการขยายสาขา พร้อมปรับรูปแบบสาขาให้มีความหลากหลายขนาด เข้ากับตลาดและพื้นที่ที่จะเข้าไปเปิดให้บริการ

รวมถึงทำ Brand Portfolio จัดกลุ่ม Core Brand และ Potential Brand

กลุ่ม Core Brand ประกอบด้วย KFC และชาบูชิ

ในขา Business นี้ เน้นไปที่การขยายสาขาให้ครอบคลุม และการสร้างผลกำไรจากสาขาเดิมและสาขาใหม่เพื่อการเติบโตให้มากที่สุด

กลุ่ม Potential Brand แบรนด์อื่น ๆ เช่น So Asean Café & Restaurant, MX Cakes & Bakery, คาเฟ่ ชิลลี่ และ เสือใต้

ในกลุ่มนี้ให้ความสำคัญกับการสร้างการเติบโตผ่านการขยายสาขา จากปัจจุบันที่มีสาขาไม่มาก และถ้า Potential Brand มีการเติบโตที่แข็งแรง จะเป็นฐานในการขับเคลื่อนธุรกิจในอนาคต

โดยในปัจจุบันธุรกิจอาหารในเครือไทยเบฟฯ มีสาขาร้านอาหารทั้งหมด 771 สาขา เป็นสาขาที่เปิดใหม่ระหว่างตุลาคม 2565- มิถุนายน 2566 จำนวน 43 สาขา

แบ่งเป็น KFC 440 สาขา

กลุ่มโออิชิ 278 สาขา และจากนี้ 1-2 ปีจะเห็นการเติบโตด้านสาขาเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

ร้านอาหารอื่น ๆ 53 สาขา ซึ่งเป็นแบรนด์ที่เป็น Potential ในอนาคต

และมีการรีเฟรชแบรนด์ในบางแบรนด์ เช่น โออิชิบุฟเฟต์ โออิชิราเมน เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่มีความต้องการมากขึ้น

2. Strengthen Operations Capabilities

ทำอย่างไรที่จะเพิ่ม Productivity และความสามารถของทีมงานให้มากที่สุด

3. Innovation to Create Excitement

สร้างความตื่นเต้นผ่าน Product Innovation, Marketing แคมเปญรูปแปลกใหม่ และแบบใหม่ ๆ จากการมองเห็นว่าธุรกิจอาหารต้องการความตื่นเต้นตลอดเวลา

รวมถึงการให้ความสำคัญกับ Value for Money ตอบโจทย์ผู้บริโภคในยุคปัจจุบันที่สนใจในเรื่องความคุ้มค่าในการเข้ามารับประทานมากกว่าเรื่องราคาเป็นตัวเลข Price Point

4. Drive Packaged Food

ให้ความสำคัญกับอาหารในรูปแบบ Packaged Food ด้วยการมองเห็นกลุ่มนี้ไม่ต้องลงทุนด้านเทรนด์พนักงานในการให้บริการ  และสามารถส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศได้

ในกลุ่ม Packaged Food  เน้นการขยายช่องทางการขาย และการออกสินค้าที่มีอินโนเวชันต่าง ๆ เข้ามาสร้างตลาด เช่น อาหารเพื่อสุขภาพ เป็นต้น

5. ขยายโอกาสไปยังต่างประเทศ ในอนาคตเพื่อเพิ่มโอกาสทางรายได้ จากปัจจุบันที่กลุ่มธุรกิจอาหารของไทยเบฟฯ ทำตลาดเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น

การขยายธุรกิจไปต่างประเทศจะเป็นการเลือกแบรนด์ที่มีความพร้อมไปยังประเทศที่ตลาดมีโอกาส ด้วยการบุกตลาดผ่านแฟรนไชส์ พาร์ตเนอร์ และอื่นๆ

โดยแบรนด์ที่คาดการณ์ว่าจะมีความพร้อมที่สุดเป็นแบรนด์อาหารญี่ปุ่น เช่น ชาบูชิ และโออิชิ บิซโทโระ รวมถึงยังอยู่ในระหว่างการเตรียมความพร้อมของกลุ่มอาหารแบรนด์ไทย

การบุกตลาดต่างประเทศของกลุ่มธุรกิจอาหารให้ความสำคัญกับตลาด CLMV เป็นตลาดหลัก เนื่องจากผู้บริโภคใน CLMV รู้จักแบรนด์โออิชิ ด้วยเครื่องดื่มที่นำไปจำหน่าย และผู้บริโภค CLMV บางกลุ่มเข้ามาเป็นลูกค้ารับประทานอาหารในไทย

อย่างไรก็ดี ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา (ตุลาคม 2565-มิถุนายน 2566) ธุรกิจอาหารเติบโต 19.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา มาจากการเติบโตดับเบิลดิจิตของทุกแบรนด์


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer