ตลาดน้ำอัดลม ทำไมโตสุดในรอบสิบปี est ทุ่มร้อยล้านชู Music Marketing ดึงลูกค้า GenZ ดันแชร์

ตลาดน้ำอัดลม โตสุดในรอบสิบปี แตะ 62,000 ล้านบาท อากาศเป็นใจ คนดื่มน้ำอัดลมเพิ่ม est ชูกลยุทธ์ Music Marketing หวังดึงลูกค้า Gen Z เติมพอร์ต ดันมาร์เก็ตแชร์

เเม้เทรนด์สุขภาพจะมาแรง เเต่กระเเสน้ำอัดลมกลับไม่แผ่วลงเช่นกัน โดยเฉพาะหลังการเเพร่ระบาดของโควิด-19 ที่แบรนด์ต่างรุกอัดแคมเปญดึงลูกค้า ประกอบกับสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวตลอดปี ผู้บริโภคเลือกดื่มเครื่องดื่มดับกระหาย ดันตลาดน้ำอัดลมในปีนี้พุ่งเเตะ 62,000 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโต 16% ขณะที่ปีก่อนโตเพียง 1.8% ซึ่งหลายปีมานี้ตลาดเติบโตแบบเลขหลักเดียวมาโดยตลอด

จากสถิติในปีนี้ปริมาณการบริโภคน้ำอัดลมเพิ่มสูงขึ้นเป็น 2,100 ล้านลิตร เฉลี่ย 37.5 ลิตร ต่อคนต่อปี จากเดิมในปีก่อนอยู่ที่ 12 ลิตรต่อคนต่อปี

สุภรณ์ เด่นไพศาล ผู้อำนวยการสำนักการตลาด สายธุรกิจเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ประเทศไทย บริษัท ไทยดริ้งค์ จำกัด กล่าวว่า การกลับมาใช้ชีวิตหลังสถานการณ์โควิด การขยายตัวของตลาดมาจากการบริโภคทั้งจาก Local Consumption และนักท่องเที่ยว

ประกอบกับสภาพอากาศที่ทำให้คนต้องดื่มเครื่องดื่มให้ความสดชื่น ยอดขายน้ำอัดลมจากเดิมที่สร้างนิวไฮช่วงซัมเมอร์ กลายเป็นว่าสามารถรักษายอดขายระดับสูงไว้ได้ไม่ต่างกันนักในเเต่ละซีซัน ยอดขายไม่เพียงกระจุกตัวอยู่ในช่วงซัมเมอร์เช่นเดิมเเล้ว

ซึ่งไม่เพียงเเต่เครื่องดื่มน้ำอัดลม กลุ่มเครื่องดื่ม Non-alcohol ในทุกหมวดหมู่กลับมาขยายตัวได้เช่นกัน โดยเฉพาะชาพร้อมดื่มที่เติบโตสูงสุด 20% ตามด้วยน้ำดื่ม 17-19%

ในตัวเลขตลาดน้ำอัดลม 62,000 ล้านบาท เเบ่งออกได้เป็นน้ำดำ 75% เเละน้ำสี 25% ยังคงนำโดยโคคา-โคล่า 54% ตามด้วยเป๊ปซี่ 30% เเละเอสยังคงเป็นเบอร์สามด้วยส่วนแบ่ง 9.1% เป็นตัวเลขที่ปรับขึ้น 2% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

เเต่ในด้านยอดขายเอสเติบโต 23% ขณะที่ตลาดอยู่ที่ 16% เป็นตัวเลขการเติบโตที่มากกว่าตลาด โดยเฉพาะสูตรไม่มีน้ำตาล ที่ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มน้ำสี มีการขยายตัวถึง 40%

ในภาพรวมเอสในพอร์ตของธุรกิจเครื่องดื่ม Non-alcohol ของไทยเบฟฯ คาดว่ามีคอนทริบิวอยู่ที่ราว 20% ของพอร์ตโฟลิโอทั้งหมด ที่นับเฉพาะเเบรนด์เครื่องดื่มไทย

สุภรณ์เปิดเผยว่า ภาคกลางยังเป็นตลาดหลักของเอส และโมเดิร์นเทรด และ Food service restaurant เป็นช่องทางที่มีความเเข็งเเกร่งต่อเนื่อง อ้างอิงจาก Share of shelf ที่สามารถขยายจาก 10% ขึ้นเป็น 25% ได้ในปีนี้ รวมถึง Active Outlet (เฉพาะใน Traditional Trade) เพิ่มจาก 74,000 เป็น 100,000 แห่ง

ซึ่งกลุ่มลูกค้าหลักของตลาดน้ำอัดลมยังคงเป็นกลุ่มวัยรุ่น เอสจึงเดินหน้าดึงลูกค้า Gen Z เพิ่ม จากเดิมที่มีกลุ่มนี้เป็นผู้บริโภคหลักราว 40% ของลูกค้าทั้งหมดของแบรนด์

โดยที่ผ่านมา หลังการลอนช์แคมเปญ est Cola “Born to be Awesome” รีเฟรชแบรนด์ ปรับสูตร รูปโฉม รวมทั้งดึงคนดังนิวเจน ทั้ง ชาอึนอู, โบกี้ไลออน, วง Yes Indeed และนักวอลเลย์บอลทีมชาติไทย

ส่งผลให้เอสประสบความสำเร็จอย่างมาก ในการเจาะกลุ่มลูกค้า Gen Z อ้างอิงผลสำรวจพบว่า 91% ของผู้ร่วมโหวต 100,000 คน ชื่นชอบสูตรใหม่ของ เอส โคล่า

การกลับมาครั้งนี้ บริษัทได้ทุ่มงบเฉพาะเเคมเปญนี้กว่า 80 ล้าน จากงบ Marketing ที่วางไว้ 200 ล้านบาท อัดมิวสิกมาร์เก็ตติ้ง เริ่มตั้งเเต่การร่วมมือกับเวทีประกวดดนตรี est Cola Presents Hotwave Music Awards 2023 ที่จับมือกับ “เอไทม์” เปิดสเตจให้ Gen Z เฟ้นหาวงดนตรีมัธยม พร้อมทั้งเปิดเวที Awesome Stage ออกเดินสายโรดโชว์ 4 ภาค ให้น้องได้โชว์ความสามารถทางดนตรี นอกจากนั้น ยังเป็นผู้สนับสนุนเทศกาลดนตรี est Cola Presents Monster Music Festival 2023

พร้อมกันนี้ยังได้ปล่อยแคมเปญใหญ่ “เอส โคล่า ชวนเจนซ่า…ปล่อยมอนสเตอร์ในตัว” เปิดตัวบรรจุภัณฑ์กระป๋อง est Cola Awesome Monster ดีไซน์ ที่นำเอาคาแรกเตอร์มอนสเตอร์จาก Monster Music Festival มาสร้างสีสันให้ packaging ใหม่

และเตรียมเผยสื่อโฆษณากลางแจ้งแบบ 3 มิติ “3D OOH Media” บนตึกรูปแบบจอทรงสูงและใหญ่ที่สุดบริเวณโรงแรม So Bangkok รวมเป็นเเผนกิจกรรมการตลาดทั้งออนไลน์และออนกราวด์

ปัจจุบันตลาดต่างประเทศอยู่ในมาเลเซียที่มีการลงทุนโรงงานผลิตเอง เเละประเทศจีนที่มีผู้นำเข้าเป็นหลัก แต่บริษัทยังคงเล็งประเทศ CLMV อย่างลาวและกัมพูชา เป็นตลาดแรกที่จะขยายต่อในอนาคต สุภรณ์ กล่าวสรุป

คนไทยดื่มน้ำอัดลมเพิ่มขึ้น ดันตลาดพุ่ง 62,000 ลบ. โตสุดในรอบ 10 ปี

มูลค่า ตลาดน้ำอัดลม 62,000 ล้านบาท [+16%] *ปีก่อนหน้า +1.8% (ขวดเเก้ว 6,000 ล้านบาท ประมาณ 9%)
น้ำดำ 75%	น้ำสี 25%
บริโภคน้ำอัดลม 2,100 ล้านลิตร/คน/ปี	เฉลี่ย 37.5 ลิตร /คน/ปี
จากเดิมในปีก่อนอยู่ที่ 12 ลิตร/คน/ปี
ส่วนแบ่งทางการตลาด
โคคา-โคล่า	54%
เป๊ปซี่	30%
เอส	9.1%