
ท่ามกลางความเจ็บป่วยและล้มตายครั้งใหญ่ของคนทั่วโลกตลอดเกือบ 4 ปีของวิกฤตโควิด หลายธุรกิจก็ทรุดอย่างหนักเช่นกัน โดยอุตสาหกรรมภาพยนตร์ก็อยู่ในอาการโคม่าและต้องใช้เครื่องพยุงชีพพร้อมสายระโยงระยางมากมายเพื่อประคองตัวให้รอดมาได้

ปี 2019 ที่โควิดเริ่มระบาดสถานการณ์ส่วนใหญ่ยังไม่น่ากังวลมากนัก โดยปีนั้นยอดขายตั๋วชมภาพยนตร์ทั่วโลกสูงถึง 42,500 ล้านดอลลาร์ (ราว 1.5 ล้านบาท) ซึ่งในจำนวนนี้ 9,200 ล้านดอลลาร์ (ราว 333,000 ล้านบาท) มาจากจีน ตลาดภาพยนตร์ที่มีผู้ชมมากอันดับ 2 ของโลกรองจากสหรัฐฯ
แต่ปีต่อมาหลังวิกฤตโควิดปกคลุมทั่วโลก อุตสาหกรรมภาพยนตร์ทั้งระบบก็แทบนิ่งสนิท โดยขณะที่การถ่ายทำภาพยนตร์ต้องติดล็อกดาวน์จนออกกองไปถ่ายทำกันไม่ได้แล้ว ธุรกิจโรงภาพยนตร์ก็แย่พอ ๆ กัน

ในส่วนของจีนโรงภาพยนตร์ราว 40% ของทั้งประเทศต้องปิดกิจการไป และตัวเลขขาดทุนรวมก็สูงถึง 4,200 ล้านดอลลาร์ (ราว 152,000 ล้านบาท)
และปีเดียวกันยังทำให้ Disney พลาดโอกาสในการโกยเงินจากตลาดจีน เพราะ Mulan ภาพยนตร์จากตำนานจีนที่เต็มไปด้วยนักแสดงจีนดัง ๆ ไม่ได้เข้าโรงเหมือนสถานการณ์ปกติ
ข้ามมาปี 2022 โควิดผ่านพ้นไป ผู้คนกลับมาใช้ชีวิตกันตามปกติและเข้าโรงหนังกันอีกครั้ง โดยปลายปีนั้น Avatar : The Way of Water คือหนังฟอร์มยักษ์แห่งปีที่เข้าฉาย
ซึ่งที่จีนวันแรกก็ทำเงินไป 15 ล้านดอลลาร์ (ราว 543 ล้านบาท) ถือเป็นหนังต่างประเทศเปิดตัวแรงสุดของปี แม้ว่า ณ ช่วงเวลาดังกล่าวโรงหนังในจีนกลับมาเปิด 75% ของทั้งหมดก็ตาม

Avatar : The Way of Water ยืนโรงฉายทั่วโลกต่อมาถึงมกราคม และลาโรงไปด้วยตัวเลขรายได้ 1,900 ล้านดอลลาร์ (ราว 68,700 ล้านบาท) ซึ่งในจำนวนนี้ 217 ล้านดอลลาร์ (ราว 7,850 ล้านบาท) มาจากยอดขายตั๋วในจีน ย้ำว่า Avatar คือภาพยนตร์ฮอลลีวูดที่ฮิตมากในจีนไม่ต่างจากภาคแรก

มาปีนี้ธุรกิจโรงภาพยนตร์จีนยังคงโตไม่หยุด โดย Dengta และ Maoyan แอปติดตามความเคลื่อนไหวในวงการภาพยนตร์จีนระบุว่า มิถุนายนถึงกันยายน ยอดขายตั๋วทั่วประเทศสูงถึง 3,200 ล้านดอลลาร์ (ราว 115,000 ล้านบาท)
ตัวเลขดังกล่าวน่าสนใจ เพราะเป็นการเติบโตทั้งที่เศรษฐกิจของประเทศซบเซาจากเงินเฟ้อ พิษเศรษฐกิจโลก และวิกฤตธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

ท่ามกลางการวิเคราะห์ว่า บรรดาชาวจีนราว 570 ล้านคนที่ตีตั๋วไปดูหนังในกรอบเวลานั้น คงอยากคลายเครียด และหลีกหนีข่าวร้ายจากสถานการณ์เศรษฐกิจ ไม่ต่างจากยุค 30 ที่ธุรกิจโรงภาพยนตร์ในสหรัฐฯ เฟื่องฟู ทั้งที่เกิดเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่
คู่พี่น้องหญิงชาวจีนวัยเริ่มต้นทำงานให้สัมภาษณ์กับสื่อในประเทศว่า การดูภาพยนตร์ในโรงเป็นความสุขที่ราคาไม่แพง ในยุคที่ค่าครองชีพแพง ตรงข้ามกับการซื้อรถหรือบ้านที่เป็นเรื่องเกินเอื้อม และเห็นตรงกันว่าการมีความสุขกับปัจจุบันนั้นดีที่สุดแล้วในยุคนี้

ความน่าสนใจของการโตสวนกระแสเศรษฐกิจของธุรกิจโรงภาพยนตร์และอุตสาหกรรมภาพยนตร์จีนยังไม่หมดแค่นั้น โดยครึ่งหนึ่งของคนที่ซื้อตั๋วไปชมภาพยนตร์ในโรงระหว่างมิถุนายนถึงกันยายนที่ผ่านมา เป็นวัยรุ่นหรือวัยทำงานช่วงต้นถึงกลาง อายุระหว่าง 20-29 ปี และ 60% ของกลุ่มนี้ก็เป็นผู้หญิง

ส่วนในกลุ่มภาพยนตร์ที่เงินสูงสุดเกือบทั้งหมดเป็นภาพยนตร์จีน และยังมีแนวต่างกันไป เช่น No More Bets ที่เล่าเรื่องการเอาตัวรอดของโปรแกรมเมอร์หนุ่มจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

Lost in the Stars ภาพยนตร์โรแมนติกลึกลับ และ Creation of the Gods I : Kingdom of Storms ภาพยนตร์แนวมหากาพย์ที่ว่ากันว่าเป็น The Lords of The Ring ของจีน

คู่พี่น้องสาวชาวจีนคู่เดิมกล่าวว่า คนรุ่นตนจะเลือกดูหนังในบ้านเกิดมากกว่า เพราะพัฒนาไปทุกทางทั้งเนื้อเรื่อง ความหลากหลาย และเทคนิคพิเศษ จนทัดเทียมหรือบางเรื่องอาจแซงหน้าหนังฮอลลีวูดแล้วด้วยซ้ำ
สถานการณ์ทั้งหมดแสดงให้เห็นว่า จากนี้หากบริษัทภาพยนตร์ในสหรัฐฯ ที่เรียกรวมว่าฮอลลีวูดอยากโกยเงินจากตลาดในหนังจีน คงไม่สามารถแค่ร่วมทุนกับบริษัทจีนและตัดประเด็นอ่อนไหวต่าง ๆ
เช่น สิทธิมนุษยชนและประวัติศาสตร์ เพื่อไม่ถูกเซนเซอร์ หรือแทรกตัวละครจีนเข้าไปได้อีกแล้ว เพราะภาพยนตร์จีนพัฒนาขึ้นอย่างมาก

และแม้ชาวจีนรุ่นใหม่ตีตั๋วไปดูโรงภาพยนตร์กันเป็นประจำ ไม่ว่าเศรษฐกิจจะเป็นเช่นไร แต่เรื่องที่พวกเขาเลือกดูก่อนอาจเป็นภาพยนตร์จีน มากกว่าภาพยนตร์ฮอลลีวูด
หนึ่งในหลักฐานยืนยันเรื่องนี้คือช่วงมิถุนายนถึงกันยายนที่ผ่านมา ตลอดหลายเดือนของปี 2023 ที่ผ่านมา ขณะที่ภาพยนตร์จีนเดินหน้าโกยเงิน ภาพยนตร์ฮอลลีวูดทำเงินไปได้เพียง 14% จากยอดขายตั๋วทั้งหมดในจีน ซึ่งถือว่าต่ำสุดในรอบ 10 ปี
ขณะเดียวกันกลุ่มเป้าหมายที่บริษัทภาพยนตร์ต่างชาติต้องเจาะให้ได้ คือ ผู้หญิงวัยทำงานอายุ 20-29 ปี เพราะแม้มีจำนวนน้อยกว่าผู้ชายวัยเดียวกัน จากผลกระทบของนโยบายลูกคนเดียว

แต่ผู้หญิงจีนรุ่นใหม่ยุควิกฤตประชากรที่ผลกระทบข้ามโลกทำให้ Neste ต้องขายทิ้งโรงงานนมผงในไอร์แลนด์ ก็มีแนวโน้มครองตัวเป็นโสด จึงต่างอยากใช้เงินที่หามาได้ไปกับความสุขรูปแบบต่าง ๆ ดังนั้น ภาพยนตร์ที่อาจจะถูกใจสาวจีน คือ แนวโรแมนติก หรือที่มีตัวละครสำคัญเป็นผู้หญิง/cnn
–
