
หลังขึ้นมาเป็นประเทศที่เจริญแล้ว และทิ้งสถานะประเทศด้อยพัฒนาไว้กับอดีต ทุกอย่างที่เป็นเกาหลีใต้ก็น่าหลงใหล ตื่นตาตื่นใจไปหมด และชวนให้ไปสัมผัสถึงถิ่น

ก่อเกิดเป็นเม็ดเงินกลับมาพัฒนาประเทศให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้นไปอีก และเป็นต้นแบบ Soft power ยุคปัจจุบัน

ความสำเร็จดังกล่าวต่อยอดสู่การท่องเที่ยว โดยหนึ่งในย่านของกรุงโซลที่ชาวต่างชาติหัวใจเกาหลีใต้ต้องไปให้ได้คือ อีแทวอน เพราะเป็นทั้งแหล่งท่องราตรีชื่อดัง เปี่ยมความอินเตอร์ และยังสานฝันแฟน ๆ ซีรีส์ Itaewon Class ให้เป็นจริงอีกด้วย

แต่ปี 2022 ก็เกิดข่าวใหญ่ขึ้นในย่านนี้ซึ่งประวัติสืบย้อนไปได้ไกลถึงยุคราชวงศ์โชซอน
ความแออัดของผู้คนที่แห่กันมาเที่ยวอีแทวอนคืนฮาโลวีน (29 ตุลาคม) ช่วงเกาหลีใต้เปิดประเทศหมาด ๆ หลังพ้นวิกฤตโควิด ทำให้เกิดการเบียดเสียด หลายคนหายใจไม่ออก หรือกระทั่งถูกเหยียบ

ที่สุดก็มีผู้เสียชีวิตไป 159 คนและอีกเกือบ 200 คนได้รับบาดเจ็บ โดยโศกนาฏกรรมดังกล่าวกลายเป็นข่าวใหญ่ เพราะเป็นเหตุเบียดเสียดจนมีผู้เสียชีวิตครั้งใหญ่สุดของเกาหลีใต้รอบเกือบ 10 ปี
และยังชี้จุดบอดของเกาหลีใต้ในการสกัดเหตุเบียดเสียดทั้งที่เป็นประเทศเจริญแล้ว

โศกนาฏกรรมอีแทวอนเขย่าเกาหลีใต้ทั้งประเทศ โดยผลกระทบทางเศรษฐกิจหลังเกิดเหตุ คือ จำนวนนักท่องเที่ยวของอีแทวอนหายไปเกือบหมด และความเชื่อมั่นประเทศเพราะมีชาวต่างชาติมากมายรวมถึงไทยอยู่ในกลุ่มผู้เสียชีวิตด้วย

หลังเกิดเหตุยังทำให้งานรื่นเริง เช่น คอนเสิร์ตปลายปีถูกเลื่อนออกไป และแคมเปญเกี่ยวกับฮาโลวีนในเกาหลีใต้ถูกยกเลิก
ประธานาธิบดี ยุน ซอกยอล
ส่วนประธานาธิบดี ยุน ซอกยอล กับผู้ว่าฯ กรุงโซล ก็ถูกชาวเกาหลีใต้โดยเฉพาะครอบครัวผู้สูญเสียกดดันให้ลาออก โดยฝ่ายหลังกระแสกดดันรุนแรงมาก เพราะอยู่ต่างประเทศในวันเกิดเหตุ
ด้านรัฐบาลเกาหลีใต้ได้เยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตและช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บผ่านเงินก้อนใหญ่ แต่ฝ่ายญาติผู้สูญเสียที่รวมตัวกันก็ยังไม่พอใจ

เพราะอยากให้มีการสอบสวนและลงโทษผู้เกี่ยวข้อง หลังมีรายงานปรากฏไปตามสื่อมากมายว่า กำลังตำรวจในวันเกิดเหตุน้อยมากจนน่าตกใจ และการโทรไปแจ้งขอความช่วยเหลือก็ถูกเพิกเฉยอยู่นาน จบลงด้วยโศกนาฏกรรม
ลี ยองแอ
อย่างไรก็ตาม ขณะที่ชาวเกาหลีใต้ทั้งประเทศตกอยู่ในความเศร้าโศก คนดังร่วมชาติต่างยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ ซึ่งหนึ่งในนั้นมี ลี ยองแอ นักแสดงหญิงที่สร้างชื่อจากซีรีส์ แด จังกึม ที่ออกเงินค่าส่งศพชาวเกาหลีพลัดถิ่นกลับบ้านเกิดรวมอยู่ด้วย

โศกนาฏกรรมอีแทวอนยังปลุกรัฐบาลเกาหลีใต้ชุดนี้ให้สั่งส่วนราชการทั่วประเทศ จัดตั้งศูนย์บริหารจัดการฝูงชนจนทำงานตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อสกัดไม่ให้เหตุเบียดเสียดเกิดขึ้นมาอีก
ข้ามมาฮาโลวีนปีนี้ (2023) โศกนาฏกรรมอีแทวอนที่มีการเก็บรวบรวมภาพข่าวและทำออกมาเป็นสารคดีแล้ว ยังหลอนเกาหลีใต้ โดยญาติผู้เสียชีวิตยังคงโกรธแค้น เพราะแทบไม่มีผู้ต้องรับผิดชอบที่ถูกลงโทษ

ส่วนหน่วยกู้ภัยนับพันคนก็ยังเครียดจากเหตุสลดจนต้องพบจิตแพทย์อยู่เสมอ

ส่วนสภาพของย่านอีแทวอนปีนี้แม้เริ่มกลับมาคึกคักแล้วแต่ก็ยังไม่เหมือนช่วงสถานการณ์ปกติ และแทบไม่มีร้านไหนกล้าจัดฮาโลวีน ด้านรัฐบาลได้สั่งเพิ่มกำลังตำรวจทั่วกรุงโซลเป็นกว่า 1,000 นาย ซึ่งแน่นอนเน้นไปที่ย่านอีแทวอน

ผลกระทบของโศกนาฏกรรมอีแทวอนยังข้ามประเทศไปญี่ปุ่นด้วย โดยผู้อำนวยการเขตชิบูย่าของกรุงโตเกียว ประกาศออกสื่อตั้งแต่กลางปีว่างดจัดฮาโลวีน และเมื่อใกล้ถึงเทศกาลดังกล่าวก็ย้ำอีกครั้งทั้งขึ้นป้ายขนาดใหญ่ว่างดจัด

จากทั้งหมดจึงกล่าวได้ว่าโศกนาฏกรรมอีแทวอนไม่ได้สะเทือนเฉพาะเกาหลีใต้ แต่ยังเป็นอุทาหรณ์ไปยังรัฐบาลและฝ่ายดูแลจัดการฝูงชนทั่วโลกว่าต้องสกัดเหตุเบียดเสียดที่มีโอกาสสูงที่เกิดขึ้น

ท่ามกลางจำนวนนักท่องเที่ยวที่แห่กันไปต่างประเทศในยุคที่จำนวนนักท่องเที่ยวล้นเกิน (Overtourism) กำลังเป็นประเด็นร้อนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และชาวไทยสัมผัสได้จากสถานการณ์ในญี่ปุ่นปีนี้ เพราะหากเกิดโศกนาฏกรรมอีแทวอน ผลเสียที่ตามมาย่อมมหาศาล

และเป็นฝันร้ายต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวเหมือนที่เกาหลีใต้ประสบมาแล้ว/koreatimes, koreabizwire, wikipedia, voanews, straitstimes
–
