หลังจากที่ฟาร์มดีไซน์ร้านคาเฟ่สไตล์ญี่ปุ่น ได้ประกาศปิดตัวลงหลังจากทำธุรกิจในไทยมาตั้งแต่ปี 2552 ด้วยการเป็นร้านคาเฟ่สไตล์ญี่ปุ่นร้านแรกๆ ของไทย และมีชีสเค้ก ที่เป็นอักลักษณ์เฉพาะ
ฟาร์มดีไซน์ถือเป็นร้านคาเฟ่แบรนด์แรกๆ ในกลุ่มสิงห์ที่เข้ามาเปิดตลาด
ก่อนที่สิงห์จะเปิด EST.33 ในปีถัดมา สองร้านนี้ จดทะเบียนภายใต้บริษัท เอส คอมพานี (1993)
พร้อมขยายตลาดไปยังร้านอาหารแบรนด์อื่นๆ ผ่านการเปิดแบรนด์เอง และเข้าไปร่วมทุน โดยบางแบรนด์ปิดตัวลงไปเป็นที่เรียบร้อย เหลือเพียง 5 แบรนด์รวมฟาร์มดีไซน์
ในปัจจุบันภายใต้ธุรกิจร้านอาหารกลุ่มสิงห์ ทำธุรกิจผ่านบริษัทในชื่อต่างๆ และมี บริษัท ฟู้ด แฟคเตอร์ จำกัดหนึ่งบริษัทในกลุ่มสิงห์เป็นโฮลดิ้งถือหุ้นในแต่ละบริษัทอีกทอดหนึ่ง
ร้านฟาร์มดีไซน์ และ EST.33 เป็นร้านในชื่อบริษัท เอส คอมพานี (1993)
ถ้าไม่นับรวมฟาร์มดีไซน์ ปัจจุบัน EST.33 มีให้บริการ2 สาขา ที่สาขา CDC และ The Nineอ้างอิงจากเว็บไซต์ EST.33
ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา บริษัท เอส คอมพานี (1993) จำกัด สามารถทำรายได้ให้กับกลุ่มสิงห์ดังนี้
2561 รายได้รวม 207.83 ล้านบาท ขาดทุน 37.86 ล้านบาท
2562 รายได้รวม 141.69 ล้านบาท ขาดทุน 38.93 ล้านบาท
2563 รายได้รวม 98.35 ล้านบาท ขาดทุน 44.58 ล้านบาท
2564 รายได้รวม 46.44 ล้านบาท ขาดทุน 19.76 ล้านบาท
2565 รายได้รวม 90.30 ล้านบาท ขาดทุน 12.90 ล้านบาท
คิตะโอจิ ร้านอาหารญี่ปุ่นระดับพรีเมียม จากย่านกินซ่า โตเกียว ที่กลุ่มสิงห์นำเข้ามาทำตลาดในไทยปี 2556 มีสาขาเดียวที่ทองหล่อ จดทะเบียนในชื่อ บริษัท คิตะโอจิ (ไทยแลนด์) จำกัด
ช่วง 5 ปีที่ผ่านมา บริษัท คิตะโอจิ (ไทยแลนด์) จำกัด ทำรายได้ดังนี้
2561 รายได้รวม 94.89 ล้านบาท ขาดทุน 2.85 ล้านบาท
2562 รายได้รวม 90.60 ล้านบาท ขาดทุน 3.21 ล้านบาท
2563 รายได้รวม 49.96 ล้านบาท ขาดทุน 12.90 ล้านบาท
2564 รายได้รวม 45.79 ล้านบาท ขาดทุน 11.64 ล้านบาท
2565 รายได้รวม 101.64 ล้านบาท กำไร 26.54 ล้านบาท
ซานตาเฟ่ และเหม็ง แซ็บนัว ธุรกิจร้านอาหารที่บริษัท ฟู้ด แฟคเตอร์ จำกัด ในกลุ่มสิงห์เข้าถือหุ้นใน เคที เรสทัวรองท์ เจ้าของร้านทั้งสองแบรนด์สัดส่วน 88% ในปี 2562 เพื่อสร้างรายได้และการเติบโตให้กับกลุ่มธุรกิจร้านอาหารอย่างก้าวกระโดดโดยไม่ต้องใช้เงินทุนและเวลาไปกับการทยอยเปิดร้านที่ยังไม่เป็นที่รู้จัก และสร้างแบรนด์
ที่ผ่านมา ซานตาเฟ่มีสาขา 120 สาขา อ้างอิงสาขาในเดือนมีนาคม
และเหม็งแซ็บนัว 13 สาขา อ้างอิงสาขาในมิถุนายน 2566
ร้านอาหารทั้งสองแบรนด์ที่สิงห์เข้าร่วมทุนเป็นธุรกิจสามารถสร้างการเติบโตให้ได้อย่างน่าสนใจ
จาก 5 ปีที่ผ่านมาพบว่า บริษัท เคที เรสทัวรองท์ จำกัด มีรายได้ดังนี้
2561 รายได้รวม 1,158.75 ล้านบาท กำไร 46.42 ล้านบาท
2562 รายได้รวม 1,225.19 ล้านบาท กำไร 20.20 ล้านบาท
2563 รายได้รวม 879.46 ล้านบาท ขาดทุน 60.28 ล้านบาท
2564 รายได้รวม 718.53 ล้านบาท กำไร 92.05 ล้านบาท
2565 รายได้รวม 1,107.93 ล้านบาท กำไร 0.33 ล้านบาท
ส่วน ฟู้ด แฟคเตอร์ บริษัท โฮลดิ้ง บริษัทที่กลุ่มสิงห์ เปิดขึ้นมาจากความต้องการให้ธุรกิจอาหารเป็น 1 ใน 6 เสาหลักของกลุ่มสิงห์ ที่ประกอบด้วย
ธุรกิจเครื่องดื่ม
ธุรกิจบรรจุภัณฑ์
ธุรกิจซัพพลายเชน
ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
ธุรกิจภูมิภาค
และธุรกิจอาหาร
ซึ่งภายใต้ บริษัท ฟู้ด แฟคเตอร์ จำกัด นอกเหนือจากการโฮลดิ้งในกลุ่มร้านอาหารแล้ว ยังมีกลุ่มธุรกิจอาหารอื่นๆ เช่นกลุ่มเครื่องปรุง อาหารแช่แข็ง และอื่นๆ
สำหรับบริษัท ฟู้ด แฟคเตอร์ จำกัด มีผลประกอบการย้อนหลังดังนี้
2561 รายได้รวม 2.09 ล้านบาท ขาดทุน 0.17 ล้านบาท
2562 รายได้รวม 35.66 ล้านบาท ขาดทุน 61.59 ล้านบาท
2563 รายได้รวม 18.46 ล้านบาท กำไร 51.85 ล้านบาท
2564 รายได้รวม 9.99 ล้านบาท ขาดทุน 28.79 ล้านบาท
2565 รายได้รวม 10.94 ล้านบาท ขาดทุน 49.73 ล้านบาท
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ