ท่ามกลางสัตว์เลี้ยงมากมายที่เรานำมาเลี้ยงจนหนุนให้ตลาดสัตว์เลี้ยงโตไม่หยุดหย่อนในแต่ละปี และแตกออกเป็นตลาดสัตว์แปลก (Exotic pet) อีกสารพัด แต่หมาและแมว ก็ยังเป็นสัตว์เลี้ยงยอดนิยมไม่เปลี่ยนแปลง
ขณะที่แมวขึ้นชื่อเรื่องความเดาใจยากแต่ก็เป็นเสน่ห์ให้เจ้าของหลงใหลต้องตามเอาใจ หมาก็เด่นเรื่องความซื่อสัตย์และติดเจ้าของ จนมีการกล่าวกันว่าคือเพื่อนผู้ซื่อสัตย์ของมนุษย์
นี่ทำให้แทบทุกประเทศมีเรื่องความผูกพันระหว่างคนกับหมาได้เล่าขานผ่านเพลง นิยายหรือหนัง โดยหากมีการจัดอันดับ เรื่องราวความผูกพันระหว่างคนกับหมาเรื่องใด ที่คนทั่วโลกรู้จักมากสุด ฮาชิโกะ อาจได้ลำดับต้น ๆ
เพราะเรื่องของหมาญี่ปุ่นที่ไปที่สถานีรถไฟทุกวันต่อเนื่องเกือบ 10 ปีทั้งที่เจ้าของเสียชีวิตไปแล้ว สร้างความประทับใจให้ชาวญี่ปุ่นถึงขนาดมีการทำรูปปั้นให้ปรากฏในหนังสือเรียน
และมีการสร้างเป็นหนังออกมาแล้วถึง 4 เวอร์ชั่น ซึ่งในนั้นคือหนังที่ Richard Gere แสดงนำ
ฮาชิโกะ เป็นหมาพันธ์ุอากิตะ เมืองทางภาคเหนือของญี่ปุ่น เกิดเมื่อปี 1923 ซึ่ง ฮิเดซาบุโระ อูเอโนะ อาจารย์ด้านวิศวเกษตรกรรมในมหาวิทยาลัยโตเกียว รับจากลูกศิษย์มาเลี้ยง
จากการต้องเดินทางไกลและยังเป็นลูกหมา เจ้าฮาชิโกะ ก็เกือบเสียชีวิตช่วงแรก ๆ ที่มาอยู่กับอาจารย์ อูเอโนะ จนเขาและคู่รักที่อยู่ด้วยต้องดูแลและประคบประหงมอยู่นาน
อาจารย์ อูเอโนะ เลี้ยงดูเจ้าฮาชิโกะอย่างดีจนผูกพันกัน โดยเจ้าหมาที่เคยเกือบตายทั้งที่ยังเป็นลูกหมาตัวนี้ ก็ตอบแทนการให้ข้าวให้น้ำและความรัก ด้วยการไปรับอาจารย์อูเอโนะที่หน้าสถานีรถไฟชิบูย่าทุกวัน จนเป็นภาพประทับใจของผู้มาใช้บริการสถานีรถไฟแห่งนี้ตลอดปี 1924
แต่แล้วก็เกิดเรื่องเศร้าขึ้นกับความผูกพันแสนประทับใจนี้ โดยราวกลางปี 1925 อาจารย์อูเอโนะเส้นเลือดสมองแตกและเสียชีวิตกะทันหัน จึงไม่ได้กลับมาหาฮาชิโกะ ที่บ้านเหมือนทุกวัน โดยมีข่าวว่าในงานศพ ฮาชิโกะแสดงความผูกพันกับอาจารย์อูเอโนะถึงขนาดไม่ยอมออกจากโลงศพเลยทีเดียว
ความผูกพันที่เจ้าฮาชิโกะมีต่ออาจารย์อูเอโนะยังไม่หมดแค่นั้น โดยเพราะไม่รู้ว่าเจ้าของได้ตายจากไปแล้ว มันจึงไปรอรับเขาทุกวัน อีกหลายปีจากนั้น จนเจ้าของร้านค้าและผู้มาใช้บริการรถไฟที่สงสารและประทับใจช่วยกันให้ข้าวให้น้ำ
ที่สุดก็มีการนำเรื่องฮาชิโกะไปทำข่าว จนเป็นที่รู้จักกันทั่วญี่ปุ่น และปี 1934 มีการสร้างรูปปั้นทำฮาจิโกะทำจากทองแดงตัวแรกขึ้น แต่เจ้าหมาชื่อดังของญี่ปุ่นยังวนเวียนอยู่ในแถบชิบูย่าและเห็นรูปปั้นตัวเอง อีกเพียงปีเดียวก็จากชาวชิบูย่าไป
รูปปั้นฮาจิโกะถูกทุบทิ้งเพื่อนำไปรีไซเคิลเป็นยุทธปัจจัยช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 พอปี 1948 ก็มีสร้างรูปปั้นฮาจิตัวที่ 2 ขึ้นโดยลูกชายของศิลปินผู้สร้างรูปปั้นตัวแรก กลายเป็นแลนมาร์กสำคัญของเขตชิบูย่ามาจนถึงปัจจุบัน
และคนในเขตชิบูย่ายังเรียกว่าทางออกฮาชิโกะ เพื่อรำลึกถึงฮาชิโกะ ขณะที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกรู้จักดีและถือเป็นอีกจุดที่ต้องไปให้ได้เมื่อมาถึงกรุงโตเกียว
เรื่องราวของฮาชิโกะยังไปปรากฏอยู่ในสื่อต่าง ๆ ของญี่ปุ่น ทั้งหนังสือเรียนเด็กและหนัง โดยนอกจากเป็นการแสดงให้เห็นถึงความซื่อสัตย์ที่หมามีต่อเจ้าของแล้ว ยังทำให้หมาพันธ์ุอากิตะดังยิ่งขึ้นอีกด้วย จนไปปรากฏในสื่อบันเทิงอยู่เสมอ เช่น อนิเมะที่ใช้ชื่อไทยว่า ไอ้เขี้ยวเงิน ในปี 1983
ในส่วนของหนังจากเรื่องของฮาชิโกะ มีการทำออกมาแล้ว 4 เวอร์ชั่น โดยเวอร์ชั่นแรกเป็นหนังญี่ปุ่นปี 1987 ที่กลายเป็นหนังทำเงินของปีนั้น
เวอร์ชั่นต่อมาเป็นหนังฮอลลีวู้ดในปี 2009 ที่ Richard Gere แสดงนำ
ตามด้วยเวอร์ชั่นอินเดียในปี 2015 และเวอร์ชั่นล่าสุด เป็นหนังจีนเพิ่งฉายไปเมื่อต้นปี 2023 นี่เอง
ล่าสุดเมื่อ 12 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทัตสึ นิชิโนะ ศิลปินชาวญี่ปุ่นได้เปิดตัว ห้องของฮาชิโกะ ตรงบริเวณรูปปั้น ฮาชิโกะ ที่ใช้เวลารวม ตั้งแต่คิดเตรียมการและทำรวม 10 ปี
แม้ผลงานของ นิชิโนะ จะเป็นแบบป๊อปอัป ที่แสดงได้แค่เพียงวันเดียว แต่ก็ย้ำอีกครั้งว่า ฮาชิโกะยังคงครองใจชาวญี่ปุ่น และยังมาในเวลาสำคัญอีกด้วย เพราะเป็นการฉลอง 100 ปีวันเกิดให้ฮาชิโกะในปีนี้พอดี/bbc, wikipedia japantoday
–
ติดตาม Marketeer ได้หลากหลายรูปแบบ