กลายเป็นไวรัลตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อมีผู้ใช้ Tiktok นามว่า Danielle Lettering โพสต์วิดีโอแสดงซากรถยนต์ของตนที่ไหม้เกรียมจากเหตุไฟไหม้รถ คลิปมียอดรับชมมากกว่า 82 ล้านครั้ง

เพื่อมาชมกระบอกน้ำเก็บความเย็นสำแดงฤทธิ์ โชว์ความแข็งเเกร่งเป็นผู้รอดชีวิตในเหตุการณ์ไฟไหม้นี้ แม้ภายในห้องเครื่องเต็มไปด้วยเขม่าควันสีดำ แต่แก้ว Stanley ที่คนขับตั้งไว้ในรถ และบรรจุเครื่องดื่มภายในกลับยังอยู่ดี  เย็นชื่นใจ มีน้ำแข็งลอยในแก้วราวกับไม่เคยเกิดอะไรขึ้น

ซึ่งแน่นอนว่าคลิปไวรัลนี้ได้ไปถึงหูของ Terence Reilly ประธานของ Stanley ซึ่งได้เสนอซื้อรถยนต์คันใหม่ให้เจ้าของคลิปด้วย เพราะแบรนด์ได้ประโยชน์อย่างมากจากไวรัลนี้  สร้างความมั่นใจให้กับสินค้าของ Stanley ได้โดยที่แบรนด์ไม่ต้องออกแรง

ปัจจุบันที่คนหันมาสนใจการลดขยะ หันมาเลือกใช้ภาชนะรักษ์โลก การเลือกใช้สเตนเลสสตีลคือหนทางหนึ่ง เพราะเป็นผลิตภัณฑ์ที่รีไซเคิลได้ง่ายที่สุด ทำให้แบรนด์ต่าง ๆ ไม่เพียงแต่ Stanley เท่านั้น  Yeti และ Hydro Flask ก็ได้รับผลดีด้วยเช่นกัน  กลายเป็นว่าปีที่ผ่านมาตลาดแก้วน้ำแบบใช้ซ้ำมีมูลค่ามากถึง 28,000 ล้านดอลลาร์

Stanley มีเรื่องราวที่น่าสนใจตรงที่เป็นแบรนด์ที่มีอายุร่วมร้อยปี

William Stanley Jr.  ผู้คิดค้นและแนะนำให้โลกได้รู้จักกับนวัตกรรมแก้วสุญญากาศ เดิมผลิตภัณฑ์ไว้ใช้รบในสงครามโลกครั้งที่สอง

วาง Position ตนเองมาเเต่ไหนเเต่ไรว่าเป็นสินค้าแข็งแกร่งที่สุด ทนทาน เหมาะกับการผจญภัยทุกรูปแบบ  พอยุคสมัยเปลี่ยนไปจุดประสงค์ในการซื้อสินค้าก็เปลี่ยนตาม พอคนเริ่มมุ่งไปในเทรนด์แคมปิ้ง Stanley ก็มี position เป็นอุปกรณ์ตั้งแคมป์และอุปกรณ์เสริมกลางแจ้งสำหรับกิจกรรมเอาใจสายลุย

เมื่อตกมาถึงปัจจุบันก็เปลี่ยนไปอีกรอบ กลายเป็นอุปกรณ์แสดงไลฟ์สไตล์ ทั้งยังต้องสอดรับเทรนด์ผลิตภัณฑ์ยั่งยืน ช่วยลดความต้องการผลิตภัณฑ์แบบใช้แล้วทิ้ง

แก้วน้ำขนาด 40 ออนซ์ สนนราคาเริ่มต้นประมาณ 40 ดอลลาร์ หรือ 1,400 บาท แก้วน้ำ Stanley ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดรุ่นหนึ่งคือรุ่น Trigger Action สีเขียว เป็นหนึ่งในแก้วที่ยืดหยุ่นต่อความร้อนได้ดีมาก

และรุ่น Quencher H2.0 FlowState Tumbler ทุกครั้งที่ลงขายมักเป็นกระเเสในอินเทอร์เน็ตเสมอ

ลดดุดันแบบไม่เกรงใจใคร เพื่อขยายกลุ่มลูกค้าผู้หญิง 

แบรนด์ได้พยายามออกคอลเลกชันสีหวานพาสเทล เช่น สีชมพูคอตตอนแคนดี้ สีเขียวมินต์ สีน้ำเงินเปลือกไข่  เพื่อลดความดุดันที่ดูจะเหมาะกับผู้ชายมากกว่า เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าสาว ๆ เป็นพิเศษ ซึ่งขณะนี้แบรนด์ก็ได้กลายเป็นขวัญใจของสาวรุ่นมิลเลนเนียลและกลุ่ม Gen Z ไปแล้ว เพื่อแสดงไลฟ์สไตล์ออกไปใช้ชีวิตแบบเฮลตี้ พร้อมขวดน้ำที่โก้เก๋มีราคา

ความสำเร็จอย่างหนึ่งของแบรนด์อายุเกินศตวรรษที่ไม่ยอมแก่นี้ คือ การมุ่งเน้นสร้างกระเเสในโลกโซเชียล เพื่อกระตุ้นการบอกต่อแบบปากต่อปากอย่างเป็นธรรมชาติ

ผู้มีอิทธิพลในโลกโซเชียล ทำให้ผลิตภัณฑ์ได้รับความนิยม ทั้งกลุ่มบล็อกเกอร์ อินฟลูเอนเซอร์ ต่างสร้างเเรงกระเพื่อมให้เเบรนด์ได้แบบไม่ขาดตอน  ผลลัพธ์ที่ได้ก็เป็นที่น่าพอใจ อย่างในปี 2021 ที่โฟกัสในโลกออนไลน์ยอดขายของผลิตภัณฑ์เฉพาะรุ่น Quencher H2.0 FlowState Tumbler เพิ่มขึ้น 275% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

โดยเฉพาะสินค้ากระติกน้ำร้อน และขวดน้ำของ Stanley มักจะกลายเป็นไวรัลบน Instagram และ TikTok อยู่บ่อยครั้ง ครั้งหนึ่งเคยมีผู้รับชม #stanleytumbler มากกว่า 148 ล้านครั้ง ส่งผลให้ยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

ไม่เพียงกระบอกน้ำสุญญากาศเท่านั้น แต่ Stanley ยังมีสินค้าอีกมากมาย ทั้งภาชนะของใช้ในครัวเรือน เช่น หม้อ กระทะ ถัง ตู้เย็นพกพา ที่ทนทานและมีคุณภาพจากสแตนเลส

แม้จะอยู่มาร้อยปีแต่กลับสร้างสินค้าได้ทันทุกยุคทุกสมัย อย่างในปัจจุบันก็นำเสนอในแนวมินิมอลลิสต์ เน้นการออกแบบที่เรียบง่าย ตามความชอบของคนรุ่นใหม่

และไม่หยุดที่จะร่วมมือกับแบรนด์อื่น เช่น  Olay และ  Starbucks เพื่อให้ Stanley ดูสดใหม่ แทรกซึมเข้าไปนั่งในใจผู้บริโภคได้อย่างเป็นธรรมชาติ

แน่นอนว่าการเข้าไปลุยในคอนเทนต์ออนไลน์นั้นมีประสิทธิภาพที่ดี เพราะเป็นสื่อที่ใช้เวลาเร็วกว่าทุกช่องทาง จับกระแสได้ไว ดังได้ในทันที เเละเชื่อมต่อกับผู้บริโภคที่สนใจในหัวข้อเดียวกันได้เร็วกว่า

ไม่ว่า Stanley จะสามารถรักษากระแสโฆษณารอบแก้วน้ำได้หรือไม่นั้นยังคงต้องรอดูกันต่อไป เรื่องท้าทายสำหรับบริษัทอย่าง Stanley ในการรักษาความนิยมไว้ทุกครั้งที่เกิดกระเเส แต่ไม่ว่าอย่างไร Stanley ก็อยู่มา 110 ปีแล้ว

 

อ้างอิง: Stanley1913, nytimes, 9mugs, outsideonline, bonappetit, emplifi.io, goodkarma.agencyAdAge, hubspot, foxbusiness


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer