เทรนด์การตลาด ผู้บรืโภค และการทำงาน ในปี 2024 จะเป็นอย่างไร เราสรุปเทรนด์ที่น่าสนใจไว้ให้แล้ว

เทรนด์ กุญเเจสำคัญที่ธุรกิจต้องรู้ เพื่อปลดล็อกศักยภาพขององค์กร เพื่อเปิดประตูความสำเร็จบานใหม่แก่ธุรกิจ

สำหรับปี 2024 จะมีเทรนด์อะไรที่น่าสนใจบ้าง ในงานสัมมนา Future Trends Ahead Press & Purpose โดย Future Trends ผู้ให้บริการข้อมูลข่าวสารด้านเทคโนโลยีการตลาด พาอัปเดตเทรนด์เเห่งอนาคตเพื่อเพิ่มศักยภาพทางความคิด นำไปปรับใช้เพื่อชีวิตที่ดีขึ้น

Marketeer ยก 3 เทรนด์ใหญ่ที่น่าสนใจ ได้เเก่ เทรนด์ผู้บริโภค เทรนด์การตลาด เทรนด์การทำงาน ในปี 2024 ที่ได้จากงานสัมมนาครั้งนี้

ในปีหน้าเทรนด์จะเปลี่ยนไปอย่างไร

เทรนด์ผู้บริโภค 2024

รัชดา อภิรมย์เดช founder & CEO Think Next Asia เริ่มต้นกับคำถามที่ว่า เทรนด์ก่อร่างสร้างตัวขึ้นมาได้อย่างไร รัชดา กล่าวต่อว่า “เทรนด์” เกิดจากการรวมตัวของการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เกิดขึ้นเมื่อมีผู้คิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ มาตอบความต้องการของมนุษย์ด้วยวิถีใหม่ที่ขับเคลื่อนจากการเปลี่ยนแปลงมาอีกทอด

ซึ่งปี 2023 การเปลี่ยนแปลงหลัก ๆ ในปีนี้  เริ่มที่ AI หลายคนอาจยังคิดว่าเอไออาจไม่สามารถมาเเทนมนุษย์ได้ครบถ้วน เเต่นั่นอาจเป็นการชะล่าใจ เพราะการพัฒนาเอไอพยายามจะให้คล้ายมนุษย์มากขึ้นเรื่อย ๆ ยกตัวอย่างเช่น วัตสัน เปิดตัว Charming AI ลอนช์ “Mr. Wat Xiansen” เป็น AI Generated ทั้งหมด ทั้งยังมีเทคโนโลยีเบื้องหลังทั้ง mid Journey หรือ stable diffusion ในการทำให้เขามีบุคลิกภาพที่อบอุ่น ใส่ใจ ใส่บิ๊กดาต้าให้สามารถแนะนำสินค้าให้เเก่ขาช้อปผู้หญิงได้ เปิดตัวได้ไม่นานก็สร้างเอนเกจเมนต์แบบถล่มทลาย

ตามด้วย Living Crisis อ้างอิงผลวิจัยจากอิปซอสส์ เผยว่า สิ่งที่คนทั่วโลกเป็นกังวลกันมากที่สุดคือเงินเฟ้อ ผู้บริโภคต่างต้องปรับตัว ยกตัวอย่าง เทรนด์ที่กำลังมาเเรงอย่างหนึ่งจากจีน คือ ปกติคนมักจะเเชร์โพสต์รูปที่เเสดงให้เห็นมื้ออาหารราคาเเพง การกินอยู่หรูหรา ไลฟ์สไตล์ที่คนอื่นจะอิจฉา เเต่จู่ ๆ ก็พลิกเกิดเทรนด์ภาพอาหารแบบใหม่ ยิ่งถูก ยิ่งคุ้ม  จะยิ่งได้รับเอนเกจเมนต์มาก สะท้อนให้เห็นปัญหาค่าครองชีพสูง ทำให้ผู้บริโภคต้องปรับตัว

ไม่ว่าโลกจะเปลี่ยนไปอย่างไร มนุษย์ก็ยังมีความต้องการพื้นฐานเช่นเดิม  ซึ่งกรอบความคิดที่ Trend Watching นำเสนอ มีองค์ประกอบหลักอยู่ด้วยกันใหญ่ ๆ 3 อย่าง ที่ประกอบร่างขึ้นมาเป็นเทรนด์ คือ

1. Basic needs

2. Driver of change

3. Innovations นวัตกรรมที่เกิดขึ้นแล้วมาสร้างความคาดหวังใหม่ ๆ ให้กับผู้บริโภค (New Customer Expectation) เป็นความคาดหวังในอนาคต

ภาพ1

ตัวอย่างเทรนด์ Positive Impact

สร้างพลังบวกให้กับโลก ส่งผลให้หลายธุรกิจใช้เรื่อง Sustain มาเป็นเครื่องมือทางการตลาด เเละบางครั้งเป็นเพียงการโฆษณาที่ไม่เกิดขึ้นจริง เพียงเเค่สองปีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคต่อความยั่งยืนขององค์กรต่าง ๆ ลดลงครึ่งหนึ่ง ปี 2021 อยู่ที่ 48% เเต่ 2022 ลดเหลือ 20%

แบรนด์จึงต้องทำให้ความยั่งยืนมีชีวิต จับต้องได้ในชีวิตจริง ยกตัวอย่าง HEINEKEN กับป้ายโฆษณาที่เขียนอยู่บนเเผงโซลาร์เซลล์ว่า “ไฮเนเก้นที่เเช่เย็น ๆ ใช้พลังงานจากแผงนี้”  ความสร้างสรรค์เล็ก ๆ นี้ เเสดงให้เห็นความจริงจังกับการผลักดันความยั่งยืนที่จับต้องได้จริง

ภาพ2

เทรนด์การตลาด ปี 2024

ดร. เอกลักษณ์ ยิ้มวิไล CEO & Founder Ocean Sky Network Co.,Ltd.  กล่าวว่า คำว่า “Marketing” ยังคงเหมือนเดิม ฐานยังคงเป็น Product Price Place Promotion หรือจะเป็นในเรื่อง Customer Segment ต่าง ๆ  เเต่สิ่งที่เปลี่ยนไป คือ เครื่องมือ ปฏิเสธไม่ได้ว่าเทรนด์สำคัญ คือ AI สิ่งหนึ่งที่อยากหยิบยกมาเล่าซึ่งคนยังไม่ค่อยพูดถึงมาก คือ Personalize AI

ยกตัวอย่าง Sentiment analysis เทรนด์การตลาดใหม่ในอนาคต คือ จะเข้าใจ Insight ของแต่ละกลุ่มเป้าหมายที่มี objective ไม่เหมือนกัน ปีหน้า AI จะมีดาต้าที่เฉพาะเจาะจงยิ่งขึ้น

ณัฐพล ม่วงทำ เจ้าของเพจการตลาดวันละตอน กล่าวถึงมุมมองการนำดาต้ามาใช้ ว่า การใช้ดาต้าในปีนี้ คือ ปีแห่งการ implement จริง พอทำจริงสิ่งที่เริ่มเห็นคือปัญหาหน้างาน บางครั้งบุคลากรที่มีไม่พร้อมกับการใช้สกิลใหม่ ๆ เครื่องมือใหม่ ๆ

เมื่อก่อนนำดาต้าจากเเบบสอบถามมาวิเคราะห์ ซึ่งเป็นขั้นตอนท้าย ๆ เเต่วันนี้ก้าวเข้าสู่การทำดาต้าเอง ก็ต้องเรียนรู้ใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการทำ  Browse Power BI

ถัดมาคือปัญหา การเซต data standard drive session ทำอย่างไรให้บริษัทใช้ดาต้ามาตรฐานเดียวกัน เช่นว่า มาร์เก็ตติ้งมีดาต้าชุดหนึ่ง เซลส์มีดาต้าชุดหนึ่ง ทีมบริการลูกค้ามีดาต้าอีกชุดหนึ่ง เป็นกระบวนการที่เสียเวลาต้องมานั่งเซต data standard ใหม่

ปัญหาที่สาม คือ organization ไม่พร้อม

หนึ่งตำแหน่งมีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบมากเกินไป ดาต้ามักถูกโยนไปให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่มีงานในมือมากอยู่เเล้วเป็นคนดูเเล ทำให้งานที่ออกมาไม่ได้ประสิทธิภาพเท่าที่ควร ไม่มีตำแหน่งที่เเต่งตั้งมาเพื่อดูเเลดาต้าโดยเฉพาะ ทั้งที่ต้องมีคนดูเเลดาต้าเป็นงานหลัก

ดร. เอกลักษณ์กล่าวเสริมว่า เทรนด์ เครื่องมือ ความต้องการ เปลี่ยนไปในทุกวัน สำคัญคือองค์กรต้องพร้อมปรับเปลี่ยน มีการนำเทคโนโลยีมาใช้อย่างจริงจัง มีนโยบายที่ชัดเจน ซึ่งทุกวันนี้เทคโนโลยีเข้าถึงได้ง่าย ทุกคนต้องมีความเข้าใจคำว่า data driven ทั้งองค์กร  ปีหน้าเป็นยุคที่ผู้ประกอบการหรือผู้บริหารต้องเก่งเรื่อง data กับ insight

“งานดาต้ากระโดดลงช้าจะไม่ทัน เพราะอย่างไรหากอยากรอดต้องใช้ดาต้าเเน่นอน  คุณจะเสียโอกาสในการเจอปัญหาที่ต้องปรับแก้หน้างานช้าลงไปเท่านั้น เพราะฉะนั้นงานดาต้าเป็นงานที่ต้องลองลงมือเจอเหตุการณ์จริง ทำไป ปรับไป แก้ไป” ณัฐพลกล่าวสรุป

 

เทรนด์การทำงาน 2024

สกิลแบบไหนที่จะทำให้เราเนื้อหอมในปี 2024

โอชวิน จิรโสตติกุล CEO & Founder of Futureskill เริ่มต้นขึ้นว่า เมื่อพูดถึงการสมัครงานเมื่อ 20 ปีที่เเล้ว ทักษะที่เราเติมเข้าไปเเสดงความสามารถของตนเอง คือ การพิมพ์ดีดเร็ว การพูดภาษาอังกฤษ ส่วน 10 ปีต่อมา ใส่ทักษะการใช้ไมโครซอฟท์ออฟฟิศดีเเค่ไหน เเต่ในยุคนี้คือ ทักษะการใช้ AI ทำ Data Analysis

มีวิจัยของ Gartner เผยว่า ทักษะในการสมัครงานจะมีความแอดวานซ์ขึ้นโดยเฉลี่ยปีละ 10% กล่าวคือทักษะที่เรามีในสามปีที่เเล้วจะหายไป หากในระยะ 3 ปีคุณไม่ได้เรียนรู้อะไรใหม่ ๆ เลย น่ากลัวว่าจะเสี่ยงต่อการตกยุค และขาดทักษะในการแข่งขัน

ภาพ3

“ยุคนี้เป็นยุคที่เรากำลังเข้าสู่ยุคแห่งองค์กร Skill based on organization”

หมายความว่าองค์กรจะให้ความสำคัญกับทักษะมากขึ้น  มากกว่าใบปริญญา หรือ Job description เเม้ว่าคุณไม่ได้จบมาในสายนั้น เเต่หากมีทักษะที่ตรงกับการทำงาน องค์กรก็ยินดี

66% ของพนักงานมองว่าอยากอยู่ในบริษัทที่ให้ค่ากับทักษะมากกว่า ซึ่งบริษัทที่มี Skill based on organization จะใช้รักษาบุคลากรคุณภาพสูงไว้ในหน่วยงานได้ดีกว่าบริษัทที่ไม่ได้เป็น  Skill based

หลายองค์กรจึงขยับตัวด้วยการเปิดช่องทางให้พนักงานได้อัปโหลดทักษะของตนลงไป เพื่อที่จะได้จับคู่งานที่เหมาะสมกับทักษะนั้นได้

ยุคนี้ professional certificate จะเข้ามามีบทบาทสำคัญ ใบปริญญาสำคัญน้อยลงมาก ทักษะที่คนยุคใหม่จะต้องมี ประกอบด้วย

– Technology Skills กลายเป็นทักษะที่ทุกคนต้องมีไม่ว่าทำงานสายไหนก็ตาม

– Skill Acquisition sKill

ดังจะเห็นว่า ในอดีตประเทศที่เป็นผู้ชนะสงคราม มักจะมีเทคโนโลยีอะไรบางอย่างเสมอที่ทำให้ชนะ ในยุคปัจจุบันยังคงคล้ายกันอยู่ ผู้ที่มีเทคโนโลยีล้ำหน้าประเทศอื่น จะเป็นผู้กุมอำนาจสูงสุดของโลก เช่น การเข้ามาของ personal computer ในอดีต หรือวอล์คแมน เปลี่ยนเป็นเเบล็คเบอร์รี ไอพอด ไอโฟน ทำให้ทุกบริษัทต่างต้องวิ่งหาเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อก้าวขึ้นเป็นผู้นำ

ในอนาคตงานจะข้ามไปที่ด้านของเอไอ เเต่จุดที่น่าสนใจ คือ analytical thinking, Creative thinking, Critical thinking กลายมาเป็นสิ่งที่ผู้บริหารคาดหวังกับบุคลากรของตัวเองมากขึ้น

– Innovation Skill

ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนา Soft Skill, Hard Skill, ความคิดเชิงวิเคราะห์ การทำงานเป็นทีม ทุกอย่างล้วนมุ่งไปสู่จุดหมายเดียวกัน คือ บุคลากรที่จะมาสร้าง Innovation

30% ของงานในปัจจุบันเมื่อดำเนินไปถึงปี 2030 กล่าวคือ งาน 300 ล้านตำแหน่ง เอไอ จะเข้ามา automated

ภาพ4

ในอดีตการจะเข้าถึงผู้ชมได้ 100 ล้านคน ต้องใช้เวลาอย่างต่ำ 10 ปี เเต่ในยุคปัจจุบัน TikTok ใช้ 9 เดือน ChatGPT ไม่ถึง 2 เดือน ก็สามารถเข้าถึงได้เเล้ว ทักษะเหล่านี้เรียกว่า STEM professionals ส่งผลให้วงการการศึกษา คอนเทนต์ ฯลฯ ได้รับผลกระทบจากการที่ AI เข้ามา Generated งาน  จากเดิมที่ถูก  automated เร็วอยู่เเล้ว เมื่อมี Generate AI เข้ามา ยิ่งเร็วเข้าไปใหญ่

นอกจากนี้ ภายในงานยังเปิดตัวหนังสือ Future Trends Ahead 2024 อัปเดตเทรนด์ใหม่แห่งอนาคต โดยได้ ณัฐกร เวียงอินทร์ หัวหน้าเเผนกเนื้อหาและแบรนดิ้ง บริษัท ไลค์มี จำกัด เป็นผู้รวบรวมเนื้อหาจากกูรูในหัวข้อที่เป็นเทรนด์โลกที่น่าสนใจ 11 เทรนด์ ทั้งด้านเศรษฐกิจ, การเมือง, เทคโนโลยีและ AI, การเงินและการลงทุน, ความยั่งยืน, ผู้บริโภค, การตลาด, ทักษะอนาคต, ผู้นำ, สุขภาพ ไลฟ์สไตล์  สำหรับผู้ที่สนใจหนังสือสามารถติดตามรายละเอียดได้ทาง  http://www.facebook.com/futuretrends.th”

เทรนด์การตลาด

อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ 
Website : Marketeeronline.co / Facebook : www.facebook.com/marketeeronline


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer