พิริยพูล ลุยขยายพอร์ตกาแฟ ตั้งเป้าปี 67 กวาดรายได้ 2,000 ล้านบาท ชูกลยุทธ์  ช่วยดันยอดขายกลุ่มแมส

หากกล่าวถึงMusic Marketingชื่อ “พิริยพูล” อาจไม่เป็นที่คุ้นเคยนัก แต่หากกล่าวถึงแบรนด์ NESCAFE GOLD, TCHIBO, G7, Choco Mucho, Ligo, St.Ives, Simple, ใกล้ชิด By Closeup, Lipton, Hunter’s Gourmet, Redondo, O’Star By ORION ผู้บริโภคต้องรู้จักเป็นอย่างดี

บริษัท พิริยพูล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด คือบริษัทผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคสินค้าดังกล่าวในประเทศไทย อยู่ในตลาดมาอย่างยาวนานถึง 50 ปี 

คุณศุภเชษฐ์ พิริยพูล กรรมการบริหาร บริษัท พิริยพูล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้บริหารรุ่นใหม่ของอาณาจักรพิริยพูล กล่าวว่า พิริยพูลเติบโตอย่างต่อเนื่อง สวนกระแสตลาดหลังวิกฤต Covid-19 ที่ทำให้ตลาดการนำเข้าส่งออกโดยภาพรวมซบเซา 

จากปัจจัยลบในช่วง 2 ปีที่ผ่านมานี้ ธุรกิจต้องเผชิญกับความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ในช่วงสองปีก่อนที่จะกระโดดเพิ่มขึ้นมากถึง 20% จากเดิมที่อัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 30-31 บาทต่อดอลลาร์ ปีที่แล้วพุ่งสูงถึง 38 บาท ซ้ำต้นทุนค่าขนส่งโลจิสติกส์ปรับตัวขึ้น ตลอดจนอัตราเงินเฟ้อที่ทำให้ราคาสินค้านำเข้าดีดตัวสูง 

อย่างไรก็ดี ในปีที่ผ่านมา พิริยพูลสามารถเติบโตได้ดี 20% กวาดรายได้ไป 1,500 ล้านบาท ตั้งเป้ารายได้ปิดจบปีมังกรทอง 2,000 ล้านบาท

ตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคนำเข้ามีผู้เล่นแวะเวียนเข้ามาในตลาดอยู่ตลอด ส่วนใหญ่คือผู้ประกอบการรายเล็ก เนื่องจากเป็นตลาดที่ดำเนินการง่าย แต่กลับมีผู้เล่นที่ยืนหยัดเป็นผู้รอดชีวิตได้ไม่กี่ราย

พิริยพูลดำเนินธุรกิจนำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคระดับพรีเมียม 2,000 SKUs  โดยแบ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์ออกได้เป็น 4 หมวดหมู่หลัก ได้แก่ เครื่องดื่ม, วัตถุดิบประกอบอาหาร, ของใช้, ขนมและลูกอม 

อัตราการเติบโตนำมาโดยกลุ่มขนม เป็นเบอร์หนึ่ง ตามด้วยสินค้า Personal care และเครื่องดื่ม แต่ในแง่ของตัวเลขรายได้กลุ่มเครื่องดื่มมีสัดส่วนมาเป็นอันดับหนึ่ง ตามด้วยขนม และ Personal care

ลุยน่านน้ำใหม่ ขายสินค้าแมส

จากความพยายามหลายปีที่จะบุกตลาดกลุ่มผู้มีรายได้น้อย พิริยพูลหันไปโฟกัสสินค้าราคาถูกมากมายที่คาดว่าจะเจาะตลาดได้ แต่ล้มเหลวเกือบทั้งหมด

จนเมื่อปีที่ผ่านมาจังหวะ Right Product, Right Time ทำให้ทั้งปีกลายเป็นปีทองของพิริยพูล บริษัทเติบโตขึ้นอย่างมาก จากความสำเร็จของกลุ่มสินค้าขนม และ Personal care จากกลยุทธ์ที่ลุยจับสินค้าราคาถูกเพียงหลักหน่วย ล้วนเป็นสินค้าราคาต่ำที่บริษัทไม่เคยจำหน่ายมาก่อน แต่ประสบความสำเร็จเกินคาด เป็นโอกาสในการขยายตลาดลงไปในกลุ่มลูกค้าผู้มีรายได้น้อย  

เนื่องจากแต่เดิมส่วนใหญ่สินค้าของพิริยพูลทำตลาดอยู่ในโมเดิร์นเทรด ผ่านดิสทิบิวเตอร์ ตั้งราคาขายตามหัวเมืองใหญ่ ยอดขายจึงมาจาก Modern Trade ช่องทางเดียวเกินกว่า 90% ด้าน Traditional Trade 10% 

ปัจจุบันยอดขายจาก Traditional Trade ขยับมาอยู่ที่ 30% ขณะที่ Modern Trade เหลือ 70% ยังคงเติบโตได้ดีในทุกช่องทาง อีกทั้งสัดส่วนสินค้าในกลุ่มแมสเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 20-30%

“จริงอยู่ที่สินค้าราคาถูก แต่ทุกสินค้าผ่าน Searching & Testing คุณภาพมาก่อน และสินค้าเหล่านี้กำไรน้อยมาก แต่บริษัทมองเห็นโอกาสในการขยายตลาดหน้ากว้าง สร้างฐานลูกค้า อุ่นเครื่องช่องทางจัดจำหน่ายไว้รองรับ ปูทางให้แก่สินค้าใหม่ในอนาคตที่จะเจาะตลาดเข้ามาเสริมทัพ”

เร่งหาสินค้าใหม่เติมตลาด ไม่ลืมต่อยอดสินค้าเดิม

จากเดิมที่สินค้าส่วนใหญ่นำเข้าจากสหรัฐอเมริกาเป็นหลัก แต่ช่วงหลังราคาสินค้าพุ่งสูง 2-3 เท่า เช่น สินค้าสบู่ราคากระโดดจาก 100 เพิ่มเป็น 300 บาท หรือสินค้าผงฟูที่ได้รับผลกระทบจากสงครามยูเครน ส่งผลให้ราคาแพงขึ้น 3 เท่า 

บริษัทจึงจำเป็นต้องเบนเข็ม หาแหล่งนำเข้าสินค้าคุณภาพเหมาะสมจากในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากขึ้น เนื่องด้วยต้นทุนค่าขนส่งถูกกว่า จัดการสต๊อกได้ง่าย ราคาค่อนข้างนิ่งกว่า และไม่มีภาษีนำเข้า

ความสำเร็จของการตลาด “ทรงอย่างแบด” 

แบรนด์ขนม Choco Mucho จากปี 2565 มีรายได้อยู่ที่ 10 ล้านบาท แต่หลังจากที่วง “Paper Planes” เข้ามาเป็นพรีเซนเตอร์ พร้อมทำการตลาดแบบเต็มรูปแบบ รวมถึงลงพื้นที่ทั่วประเทศ ทำให้ยอดขายของ Choco Mucho พุ่งขึ้นเป็น 110 ล้านบาททันที 

และจากความสำเร็จครั้งนี้ บริษัทจึงใช้เป็นกรณีศึกษา ต่อยอดกลยุทธ์การตลาดไปกับสินค้าอื่น ๆ อย่างเช่นแบรนด์กาแฟ G7 ปีที่แล้ว G7 ปิดยอดไปที่ 60 ล้านบาทก่อนทำการตลาด ดังนั้น บริษัทคาดหวังว่าหลังการทำการตลาดโดยใช้แพลตฟอร์มเดียวกับ Choco Mucho คือ Music Marketing จะช่วยให้ยอดขายแบรนด์เติบโตได้แบบ 100% 

โดยดึง “โจอี้ ภูวศิษฐ์” เข้ามาเป็นพรีเซนเตอร์ เสริมทัพการตลาดของพิริยพูลในปีนี้

นอกจากนี้ ยังมีแคมเปญกับแบรนด์ต่าง ๆ อีกมากมาย อาทิ  

  • แคมเปญ WORLD OF COFFEE by NESCAFE

เป็นกิจกรรมการตลาดกับผู้บริโภค โดยการส่งมอบความละมุนผ่านบทเพลงจากศิลปิน อาทิ Lipta, Fellow Fellow, No One Else ให้กับผู้บริโภคทั่วประเทศตลอดปี 2567 เพื่อสร้างความใกล้ชิดระหว่าง NESCAFE GOLD และผู้บริโภค

  • แคมเปญ Friend Of TCHIBO 

Friend Of TCHIBO แคมเปญของกาแฟ TCHIBO (ชิโบ) แบรนด์กาแฟพรีเมียมจากเยอรมนี ที่เลือกใช้คนรุ่นใหม่ที่มีชื่อเสียง ไลฟ์สไตล์เข้ากับแบรนด์ มาสร้าง identity ของแบรนด์ โดยได้ แคน อติรุธ และ โอบ โอบนิธิ มาเข้าร่วมแคมเปญในครั้งนี้

  • แคมเปญ FACE OF PIRIYAPUL

“พู่กัน กันฎ์ระพี พิริยพูล” ศิลปินในฐานะ FACE OF PIRIYAPUL ได้จับมือกับวง FELLOW FELLOW ถ่ายทอดบทเพลงพิเศษ “วันนี้ พรุ่งนี้ ตลอดไป” แคมเปญนี้จะสอดแทรกไปในทุกแคมเปญของแต่ละแบรนด์

ปีนี้ให้น้ำหนักกลุ่มกาแฟเป็นหลัก

กาแฟคือบ่อขุมทรัพย์ประจำของพิริยพูล เป็นสินค้าที่สร้างรายได้หลักแก่บริษัท ในปีนี้เพื่อทำตัวเลขให้เป็นไปตามแผน บริษัทประกาศเร่งเครื่องพอร์ตกาแฟ ปล่อยสินค้า In House Brand ในชื่อ “THE ONE COFFEE” กาแฟ affordable premium ที่ทุกคนเข้าถึงได้  โดยจะลอนช์สินค้าภายในเดือนมีนาคมนี้  ตอกย้ำการเป็นเจ้าใหญ่บนบัลลังก์ตลาดกาแฟพรีเมียม   

คุณศุภเชษฐ์กล่าวเสริมว่า เทรนด์ตลาดกาแฟ 3 in 1 ผู้เล่นเบอร์ใหญ่กระจุกตัวอยู่ในกลุ่มนี้  แต่เป็นเซกเมนต์ที่การเติบโตไม่มาก มูลค่าประมาณ 3-4 หมื่นล้าน แต่กลุ่มกาแฟพรีเมียมยังน้อยกว่ามาก มูลค่าราว 2-3 พันล้านบาท แต่มีการเติบโตแบบ double digit  โดยมีพิริยพูลเป็นเจ้าของสินค้าในตลาดกาเเฟพรีเมียมมากถึง 90% ของแบรนด์ทั้งหมดในเซกเมนต์นี้

ทั้งนี้ ภาษีนำเข้ากาแฟปกติในโควตา 40% นอกโควตา 49% ดังนั้น กาแฟพรีเมียมมีข้อจำกัดตรงราคาที่สูง   การลอนช์กาแฟพรีเมียมที่ราคาเข้าถึงได้ จะสร้างความตื่นตัวในตลาดพรีเมียมได้ไม่น้อย

ด้านความกังวลในปีนี้ คุณศุภเชษฐ์เผยว่า มีเรื่องพื้นที่คลังสินค้าไม่เพียงพอ เนื่องจากธุรกิจขนมมูลค่าต่ำ แต่ใช้พื้นที่จัดเก็บมาก ค่าโลจิสติกส์สูง โดยเฉพาะในช่วงปลายปีที่เป็นไฮซีซันต้องมีพื้นที่วางสินค้าที่มากพอ  วางแผนขยายคลังสินค้าเริ่มในปีหน้า จากเดิมมีพื้นที่คลัง 15,000 ตารางเมตร บนพื้นที่ 10 ไร่ ยังเหลือที่เปล่าอีก 10 ไร่ ใช้การลงทุนในพื้นที่เดิม ขยายในเฟสแรก 5,000 ตารางเมตร 

“พิริยพูล มีแนวคิดและกลยุทธ์การตลาดใหม่ ๆ มากมาย ที่จะสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ในเครือ รวมถึงการเข้าถึง และขยายฐานผู้บริโภค กลยุทธ์การตลาดปีนี้จะเน้นหนักในเรื่อง Music Marketing ดึงศิลปินช่วยขยายลูกค้า

ทั้งด้านการทำกิจกรรมกับผู้บริโภค (Consumer Event) และการทำคอนเทนต์ต่าง ๆ  ในรูปแบบของ B2C ควบคู่กับการทำ Online Marketing เพิ่ม Brand Royalty ใหักับกลุ่มเป้าหมายทั้งเก่าและใหม่” ผู้บริหารกล่าวสรุป

.

อ่าน : การตลาด “ทรงอย่างแบด” ไม่ SAD แถมปังสุด ปีเดียว ขนม Choco Mucho ขายได้ร้อยล้านบาท เพราะ Paper Planes





อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ 
Website : Marketeeronline.co / Facebook : www.facebook.com/marketeeronline


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer