DG นมแพะหนึ่งเดียวที่ทำตลาดมา 19 ปี วันนี้ขอรีเฟรชแบรนด์เพื่อสู้นมวัว

จากข้อมูลสถิติประชากร จำนวนอัตราการเกิดของประเทศไทย 10 ปีย้อนหลัง มีปริมาณลดลงอย่างต่อเนื่องประมาณ 5-8% โดยปี 2566 มีอัตราการเกิดอยู่ที่ 517,934 คน รัฐบาลจึงส่งเสริมการเพิ่มอัตราการเกิดต่อเนื่อง

อัตราการเกิดที่ลดลงส่งผลโดยตรงต่อ ในปี 25 ตลาดนมผง 66 ตลาดนมผงในไทยมูลค่ารวมอยู่ที่ 12,611 ล้านบาท แบ่งสัดส่วนตลาดเป็นนมผงพรีเมียมอยู่ที่ประมาณ 50%

บริษัท แปซิฟิค เฮลธ์แคร์ (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย นมแพะ DG นำเข้าจากประเทศนิวซีแลนด์ ที่ทำการตลาดในไทยมานานกว่า 19 ปี ประกาศปรับสูตร เปลี่ยนโฉมแบรนด์ เพื่อกระตุ้นนมผงเด็กในตลาดพรีเมียม

คุณเจนปกรณ์ วีรชยาภรณ์พงศ์ รองประธานฝ่ายขายและการตลาด ธุรกิจเพื่อการดูแลสุขภาพของผู้บริโภค บริษัท แปซิฟิค เฮลธ์แคร์ (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย นมแพะ DG กล่าวว่า  ตลาดนมผงในเซกเมนต์พรีเมียม มีผู้เล่นอยู่ 3-4 ยี่ห้อใหญ่ เมื่ออัตราการเกิดของเด็กลดลง ทำให้การแข่งขันดุเดือด ต้องอัดโปรโมชันแย่งฐานลูกค้า แต่สำหรับ DG ไม่ได้ลงเล่นในสงครามราคา  ด้วยราคาที่สูงกว่าทุกแบรนด์ในตลาดพรีเมียม เนื่องจากนมแพะไร้ซึ่งคู่แข่ง มีเอกลักษณ์ คุณสมบัติเฉพาะของนมที่สู้ด้วยคุณภาพได้

ในตลาดนมผงพรีเมียม แบ่งออกได้เป็นผลิตภัณฑ์นมวัว และนมแพะเท่านั้น  นมวัวมีคอนทริบิวชันใหญ่ที่สุดราว 97% และนมแพะ 3% ซึ่งมีเพียง DG เป็นผู้เล่นเพียงรายเดียวเท่านั้น  เนื่องจากตลาดนมแพะ มีผู้เล่นเข้ามาเล่นยาก ด้วยข้อจำกัดเรื่องคุณภาพนมแพะ ที่มีรายละเอียดซับซ้อนมากกว่านมวัว จึงไม่มีผู้เล่นหน้าใหม่ตบเท้าเข้ามา

“ตลาดนมผงในปัจจุบันมีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อการเติบโต ทั้งสงคราม อัตราเงินเฟ้อ โดยเฉพาะสินค้านำเข้าที่มีอัตราแลกเปลี่ยนเข้ามาเกี่ยวข้อง  และที่สำคัญอัตราการเกิดเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบต่อตลาดโดยตรง เพราะเมื่อเด็กเกิดน้อยลง แบรนด์ต้องแข่งขันกันแย่งลูกค้า ด้วยการสนับสนุนจากภาครัฐ กับนโยบายส่งเสริมการมีบุตร ช่วยผลักดันให้ตลาดกระเตื้องขึ้นบ้าง  ปีที่ผ่านมาอัตราการเกิดเพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกับปีก่อน ตลาดนมผงจึงมองเห็นแนวโน้มที่สดใสขึ้นบ้างแล้ว”

ปัจจัยในการเลือกผลิตภัณฑ์นมผงสำหรับเด็ก หลัก ๆ ประกอบด้วยปัจจัย

1. สารอาหารในผลิตภัณฑ์นม แน่นอนว่านมแม่ คือ นมที่ดีที่สุด แต่เมื่อคุณแม่จำนวนมากไม่สามารถให้นมเองได้ ไม่มีน้ำนม หรือน้ำนมไม่พอ ทั้งนี้เกิดจากหลายปัจจัย ทั้งภาวะร่างกาย ความเครียด และข้อจำกัดการใช้ชีวิต ดังนั้น จึงจำเป็นต้องเลือกผลิตภัณฑ์นมผงที่มาเสริมต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่ใกล้เคียงกับนมแม่ ซึ่งนมแพะมีสารอาหารจากธรรมชาติ มีระบบสร้างน้ำนมอะโพไครน์ เช่นเดียวกับนมแม่ ทำให้ได้รับสารอาหารจากธรรมชาติสูง

2. ระบบการขับถ่าย ต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีโปรตีนย่อยง่าย เพื่อให้เด็กสบายท้องขับถ่ายได้ง่าย ซึ่งนมแพะย่อยง่ายกว่านมวัว 2 เท่า รวมถึงมีโปรตีนก่อแพ้น้อยกว่านมวัวถึง 23%

3. พัฒนาการของสมอง เด็กแรกเกิดควรได้รับสารอาหารที่บำรุงหล่อเลี้ยงเพื่อให้เติบโตสมบูรณ์

ลูกค้ากลุ่มหลักของ DG คือ Smart Mom เลือกสิ่งที่ดีให้แก่บุตร ทำให้ในช่วงโควิดไม่กระทบต่อกำลังซื้อของกลุ่มนี้  ยอดการสเปนดิ้งยังคงเติบโตได้ดีตลอด แบ่งเป็นยอดขายจากช่องทางออนไลน์ 2,300 บาทต่อบิล และออฟไลน์ 1,200 บาท ซึ่งเด็กหนึ่งคนจะต้องบริโภคนมผงประมาณ 4 กระป๋องต่อเดือน

สัดส่วนผลิตภัณฑ์ DG อยู่ที่สูตร 1 สำหรับเด็กแรกเกิดถึงหกเดือน 39% สูตร 2 หกเดือนถึงสามปี 38% และสูตร 3 สำหรับหนึ่งขวบขึ้นไป 23%

การพัฒนาสูตรใหม่ นมแพะ DG มีนิวคลีโอไทด์จากธรรมชาติ ช่วยพัฒนาเพิ่มภูมิคุ้มกันแข็งแรง เพิ่ม DHA และ Omega3 6 9 2 เท่า อีกทั้งมีสารอาหารสมองสำคัญครบถ้วน เช่น DHA, ARA, OMEGA 3 6 9, โคลีน, ทอรีน มีแคลเซียม และวิตามิน B12 จึงช่วยเสริมสร้างการทำงานของสมองและส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันให้ลูกเติบโตแข็งแรงสมวัย

4 กลยุทธ์หลักขับเคลื่อนการเติบโตของ DG

  1. ชูจุดแข็งผลิตภัณฑ์ (Strengthen Product Value) คุณภาพการผลิตระดับสากล นำเข้าจากนิวซีแลนด์ จุดแข็งที่แตกต่างจากนมวัว เพราะนมแพะมีระบบการให้น้ำนมแบบอะโพไครน์เช่นเดียวกับนมแม่ โปรตีนย่อยง่ายกว่านมวัว 2 เท่า มีโปรตีนก่อแพ้น้อยกว่านมวัว 23% และมีสารอาหารจากธรรมชาติสูง
  1. ปรับสูตร-เปลี่ยนโฉมใหม่ (Enhance the premium quality products and brand) ปรับสูตรเพิ่มสารอาหาร DHA และ โอเมก้า 2 เท่า ชูสารอาหาร “นิวคลีโอไทด์” เสริมสร้างภูมิคุ้มกันแข็งแรง พร้อมปรับภาพลักษณ์แบรนด์ให้ทันสมัยเข้าถึงคุณแม่ในยุคปัจจุบัน

และพัฒนาสูตรมาเฉพาะสำหรับทารกและเด็กเล็ก ประกอบไปด้วย 2 สูตร ได้แก่ สูตรมาตรฐาน และสูตรแอดวานซ์ โกลด์ ที่เพิ่ม DHA เพื่อให้ครอบคลุมเข้าถึงกลุ่มลูกค้ามากขึ้น

  1. เพิ่มการรับรู้แบรนด์ และเข้าถึงข้อมูลสินค้าให้มากขึ้น (Expand the depth of product knowledge and brand awareness) ขยายช่องทางการสื่อสาร ทั้งช่องทางออนไลน์และการทำตลาดแบบ Localized Marketing พร้อมเครือข่ายการจัดจำหน่ายที่แข็งแกร่งทั่วประเทศ อาทิ โรงพยาบาล คลินิก ร้านขายยา ไฮเปอร์มาร์เก็ต ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านค้าแม่และเด็ก ช่องอีคอมเมิร์ซรวมทั้งช่องออนไลน์ต่าง ๆ
  1. ขยายสายผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย (Product Line Extension) การขยายการบริโภคนมแพะ จากตลาดเครื่องดื่มสำหรับแม่และเด็กเข้าสู่ตลาดผู้สูงอายุ ออกสินค้าใหม่ภายใต้แบรนด์ “ไวต้าชัวร์” เครื่องดื่มนมแพะเพื่อสุขภาพสำหรับผู้ใหญ่ อันประกอบด้วย 2C กรดไขมันดีคาพริกและคาไพริก ช่วยลดโอกาสการสะสมโคเลสเตอรอล รสชาติอร่อย ไม่ใส่น้ำตาลทราย มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและบุคคลทั่วไป

จากทิศทางบริษัทฯ ที่ได้ขยาย Product Portfolio และขยายฐาน Consumer Segment พร้อมทำตลาดในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังขยายการจัดจำหน่ายและทำตลาดไปยังต่างประเทศ อาทิ พม่า ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม และมีแผนที่จะขยายไปยังประเทศอื่น ๆ อีกในอนาคต บริษัทตั้งเป้ายอดขายแตะ 1,000 ล้านบาท ในอีก 5 ปีข้างหน้า คุณเจนปกรณ์กล่าวทิ้งท้าย

ตลาดนมผงไทย สำหรับทารกและเด็กเล็ก 12,611 ล้านบาท  (ติดลบ -0.9%)
ประเภท ส่วนแบ่งการตลาด อัตราการเติบโต
สำหรับทารกแรกเกิด – 12 34% 5.70%
สำหรับเด็ก 6 เดือน – 3 ปี 29% -3.70%
สำหรับเด็ก 1 – 3 ปี 37% -4.30%
จำนวนการเกิด
2563 587,368 คน
2564 544,570 คน
2565 502,107 คน
2566 517,934 คน (เพิ่ม 3%)
ชาย 51% หญิง 49%

ที่มา: DG

อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ 
Website : Marketeeronline.co / Facebook : www.facebook.com/marketeeronline


ติดตามนิตยสาร Marketeer ฉบับดิจิทัล
อ่านได้ทั้งฉบับ อ่านได้ทุกอุปกรณ์ พกไปไหนได้ทุกที
อ่านบน meb : Marketeer